วันที่ 17 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พร้อมนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ได้เดินทางมายังบ้านปากคลอง 100 ปี ตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งชาวบ้านต่างลือกันว่ามีสิ่งลี้ลับอยู่ภายในบ้านหลังนี้
ประวัติของบ้านหลังนี้ เปลี่ยนเจ้าของมาแล้ว 4 มือ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาด 1 งาน ในป่าโกงกาง ยกพื้นสูงประมาณ 1.2 เมตร โดยเจ้าของรายล่าสุดได้ทิ้งบ้านไว้ให้รกร้างนานกว่า 14 ปี แต่บ้านยังคงสะอาด แม้จะไม่มีคนอยู่ คล้ายกับว่ามีคนคอยทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลานั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลืออาถรรพ์บ้านผีสิง 100 ปีโผล่จัง ๆ คาขื่อคนผวาปล่อยร้าง หมอปลากางเต็นท์ขอลองดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 64 นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และทีมงานได้ตัดสินใจนอนค้างคืนอยู่ที่บ้านปากคลอง 100 ปี เนื่องจากสัมผัสอะไรบางอย่างได้ที่ต้นมะขามข้างบ้าน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนนอนในบ้านร้างทั้งหมด 6 คน ได้แก่ 1.หมอปลา 2.เสี่ยเปีย เจ้าของธุรกิจหมูปิ้งนมสด และอีก 4 คน คือทีมงานของหมอปลา
ล่าสุด วันที่ 18 ส.ค. 64 เวลา 10.00 น. ทีมข่าวได้นั่งเรือจากท่าน้ำมารับหมอปลาเพื่อกลับฝั่ง ทีมได้พูดคุยกับหมอปลาและนายสาริต แสงจันทร์ หรือ เสี่ยเปีย นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์หมูปิ้งนมสด หมอปลา กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ตนแทบไม่ได้นอน เพราะต้องการที่จะเฝ้าสังเกตความผิดปกติ จนเวลาประมาณ 01.30 น. ตนก็ได้ยินเสียงคล้ายคนคุยกัน แต่จับใจความไม่ได้
ตนจึงลุกมาปลุกเสี่ยเปียให้ลองฟัง ซึ่งเสี่ยเปี่ยรู้สึกกลัว จึงเอามีดหมอที่เตรียมมานำมาหนุนศีรษะ นอกจากนี้ ตนยังได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา ซึ่งมีทีมงานคนหนึ่งก็ได้ยิน สำหรับบรรยากาศภายในบ้านร้างในตอนกลางคืนค่อนข้างมืด แต่ไม่เงียบ เพราะจะมีเสียงสัตว์ร้อง จิ้งหรีด ค้างคาว อีกทั้งแม้ตนจะเปิดหน้าต่างไว้ แต่ไม่มีลมพัดเข้ามาภายในบ้าน ทั้ง ๆ ที่ปกติชาวบ้านบอกว่าจะมีลมพัดอยู่ตลอด
ส่วนวิญญาณนั้น ตนสัมผัสได้ว่ามีอยู่จริง แต่วันนี้ตนไม่สามารถขับไล่ออกไปได้ เนื่องจากเจ้าของบ้านยังไม่ได้อนุญาต ตนคาดว่าวิญญาณที่ตนสัมผัสได้น่าจะเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่เสียชีวิตในทะเล แล้วมาที่สิงสถิตย์ เพราะคลองหน้าบ้านร้างเลยไปจะเป็นทะเลกว้าง
ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าวิญญาณในบ้านร้างจะไม่ทำอันตรายใคร แต่หากเจ้าของที่ดิน ทราบมาว่าน่าจะเป็นกรมเจ้าท่าหรือกรมป่าไม้ ต้องการจะนำบ้านร้าง 100 ปีไปทำพิพิธภัณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยว หรือศูนย์การเรียนรู้ แล้วอยากทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ ตนก็ยินดีที่จะทำให้
หมอปลาได้อัดเสียงผ่านโทรศัพท์ไว้ให้ทีมข่าว มีเสียงคล้ายเสียงคนเดิน ที่มาพร้อมเสียงพูดคล้ายกระซิบ หมอปลาบอกว่าได้อัดไว้ขณะที่ทุกคนหลับ ซึ่งไม่มีใครลุกขึ้นมาเดินแน่นอน
นายจิตติพันธ์ จิตต์เที่ยง อายุ 48 ปี ทีมงานหมอปลา ซึ่งนอนค้างที่บ้านร้าง 100 ปี พบเห็นเงาคนเดินและได้ยินเสียงคนเดิน ซึ่งบังเอิญว่าเงาลักษณะนี้เจ้าของบ้านคนก่อน ๆ ก็เคยพบเห็นเช่นกัน บอกว่า เมื่อคืนนี้มีคนนอนในบ้านร้างทั้งหมด 6 คน หมอปลาจะนอนบนผ้าปูชิดริมกำแพง เสี่ยเปี่ยนอนบนผ้าปูระหว่างเต็นท์ ทีมงาน 2 คนนอนในเต็นท์เล็ก ส่วนตนและทีมงานอีก 1 คน นอนในเต็นท์ใหญ่ ทั้งนี้ ในบ้านร้าง ทีมงานได้จุดทีมไว้ 4 เล่ม และเปิดไฟจากสปอตไลท์ที่นำมาเอง 1 ดวงไว้สลัว ๆ
โดยในเวลา 03.30 น. ขณะที่ตนนอนอยู่ในเต็นท์ ปิดทางเข้าเต็นท์เป็นทางเข้าตาข่าย เพื่อให้ระบายอากาศ จังหวะนั้นตนกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น เนื่องจากตนนอนผิดที่และอากาศร้อน ตนได้ลุกขึ้นมานั่งเพราะตนรู้สึกร้อน หมอนเปียกเหงื่อ ก็ได้เห็นเงาผู้ชายจาง ๆ คนหนึ่ง สวมกางเกงขาก๊วย เห็นแค่เพียงตั้งแต่ช่วงอกลงมา เดินผ่านเต็นท์ของตนไป พร้อมกับเสียงพื้นไม้ลั่นตามการก้าวเท้า ตนมองตามไปเรื่อย ๆ จนเงาดังกล่าวเดินอ้อมไปหยุดที่ข้างตัวบ้านอีกฝั่ง จากนั้นตนก็ล้มตัวลงนอน ไม่ได้มองอีก
ตนคิดว่าวิญญาณคงไม่ทำอะไรตน เนื่องจากก่อนนอนตนได้บอกกล่าววิญญาณว่า ตนมาเพราะตนมากับทีมงาน ตนมาเพราะตนคิดว่าบ้านหลังนี้บรรยากาศดี อยู่ท่ามกลางต้นไม้ ไม่ได้มีเจตนาจะท้าทายใด ๆ เมื่อตื่นเช้ามาตนยังไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง เพราะกลัวคนจะว่าคนอื่นจะมาว่าตนคิดไปเอง กระทั่งตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายสนิท ลูกชายของเจ้าของบ้านรุ่นแรก ได้เล่าว่าเคยเห็นเงาชายใส่กางเกงขาก๊วย ตนจึงคิดว่าไม่ใช่ตนคนเดียวที่พบเห็น นอกจากนี้ ตนยังได้พูดคุยกับชาวบ้านบอกกับตนว่าวิญญาณชายขาก๊วยอาจจะคือลุงหนาน พ่อของนายสนิทที่เสียชีวิตก็เป็นได้
ด้านนายสนิท ประสิ่งชอบ อายุ 60 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านรุ่นแรก เล่าว่า ตนเคยเห็นเงาชายใส่กางเกงขาก๊วยเดินไปเดินมาภายในบ้าน พร้อมยืนยันว่าวิญญาณดังกล่าวไม่ใช่นายหนาน พ่อของตัวเอง ตนเป็นผู้อยู่อาศัยรุ่นแรกของล้านร้าง บรรพบุรุษและพ่อแม่ของตนได้สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมา เริ่มจากกระท่อมแล้วต่อเติมจนเป็นบ้าน เมื่อตนอายุประมาณ 16 ปี ตนก็ย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับภรรยา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนและครอบครัวมักพบเจออะไรแปลก ๆ อยู่ตลอด เช่น ผีเด็กผู้หญิงวิ่งอยู่บนหลังคา มาขอน้ำแดงกิน และผีชายใส่กางเกงขาก๊วย ปรากฏร่างช่วงหน้าอกลงไปถึงขา ผีชายกางเกงขาก๊วยมักจะชอบดึงขาของตน
มีครั้งหนึ่งตนได้ผูกไฟฉายไว้ที่ขาขวา เนื่องจากคิดว่าหากตนถูกดึงขาขวา ตนจะได้เห็นหน้าของผี เพราะตนไม่เคยเห็นหน้าผี แต่ปรากฏว่าเมื่อผีมาดึงขา ผีกลับดีงขาซ้าย เมื่อตนผูกไฟฉายขาข้างใด ผีจะมักดึงขาอีกข้าง กระทั่งพี่น้องของตนทนไม่ไหวผนวกกับบางคนย้ายออกไปมีครอบครัวกันหมด พ่อแม่ของตนจึงได้ตัดสินใจขายบ้านในราคา 60,000 บาท เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน จากนั้นบ้านหลังนี้ก็เปลี่ยนมือมา 4 มือ ไม่มีใครอยู่อาศัยได้ เจ้าของมือ 2 คือ นายโจ๋ เจ้าของมือ 3 คือ นายศักดิ์ดา เจ้าของมือ 4 คือ นายอภิวัฒน์ คาดว่าเพิ่งมาซื้อบ้านในช่วง 14 ปี ที่ผ่านมา
ตนขอชี้แจงว่าผีชายกางเกงขาก๊วยไม่ใช่นายหนาน พ่อของตน ตามที่ชาวบ้านลือกัน เพราะพ่อของตนเสียชีวิตด้วยโรคชราที่บ้านหลังอื่น อีกทั้งขณะพ่อของตนยังมีชีวิต พ่อของตนก็เคยพบเห็นผีชายกางเกงขาก๊วย เมื่อหมอปลายืนยันว่าวิญญาณในบ้านร้างไม่ทำร้ายใคร ตนก็สบายใจ ซึ่งเมื่อตนอายุ 13 ปี ตนก็เคยพบเจอหัวกะโหลกลอยมาจากทะเลไหลมาตามคลอง อาจเป็นผีเร่ร่อนตามที่หมอปลาบอก
สุดท้ายกรมเจ้าท่า, กรมป่าไม้ หากจะเข้ามาบูรณะบ้านร้าง 100 ปี ตนก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดี หากจะทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณ ตนไม่มั่นใจว่าวิญญาณจะไปหรือไม่ เพราะเจ้าของบ้านมือที่ 4 เคยทำพิธีแต่ก็ไม่สำเร็จ ยังคงมีคนพบเห็นเงาชายดำ ๆ ยืนอยู่ท่าหน้าบ้านตลอด