เจอตัวแล้ว "น้องนกยักษ์" สาวอุดรฯ หนีการรักษาโควิด โผล่ จ.สมุทรปราการ เผยเหตุหลบหนีเพราะ คิดถึงสามี อยากอยู่ใกล้ๆ ด้าน ยายแท้ๆ เผย กับลูกไม่ยักดูดำดูดี
กรณี น.ส.รตาธินีย์ หงส์วิจิตปรีชา หรือ นกยักษ์ ชาว ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี ต่อมาช่วงเช้าวานนี้ นางสาวรตาธินีย์ ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลขณะที่กำลังรักษาตัวอยู่ โดยมีกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลบันทึกภาพขณะที่กำลังหลบหนีไว้ได้ ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลกุมภวาปีในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพรบ.ควบคุมโรคติดต่อพ.ศ.2558 ได้มอบอำนาจให้นิติกรของโรงพยาบาลกุมภวาปีเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ป่วยรายนี้ โดยล่าสุดทราบว่ามีคนพบตัว น.ส.รตาธินีย์ ที่จ.สมุทรปราการ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 44 หมู่ 5 บ้านโพธิ์นิมิตร ต.ห้วยเกิ้ง อ.กุมภวาปี บ้านตามที่อยู่ของ น.ส.รตาธินีย์ หงส์วิจิตปรีชาหรือ นกยักษ์ พบ นางพิณ ปราบดี อายุ 89 ปี และด.ช.นัทพัชร ทองดีนอก อายุ14 ปี ที่มีน้ำหนักกว่า 130 กก. ยายและลูกชายของ น.ส.รตาธินีย์ อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวโดยไม่พบตัว น.ส.รตาธินีย์
นางพิณปราบดียายเล่าว่า น.ส.รตาธินีย์หรือ นก เป็นลูกของลูกชายตน ตั้งแต่เด็กก็เลี้ยงดูมาจนโตก็ออกไปหาทำงานไม่รู้ว่าทำที่ไหนเพราะหลานอยากไปไหนก็ไปไม่เคยบอกจนมาคลอด ด.ช.นัทพัชร หรือ พัต เป็นเหลนของตนที่อุดรธานีหลังจากนั้นก็ทิ้งลูกไปให้ตนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะจน ด.ช.นัทพัชร เรียกตนว่าแม่หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าหลานไปอยู่ที่ไหนกับใครนานๆ ถึงจะกลับมาที่บ้านทีโดยไม่เคยส่งเสียเงินมาเลี้ยงดูตนละลูกมีแต่ลูกสาวของตน 2 คนที่ไปทำงานที่ต่างจังหวัดส่งเงินมาให้ตนใช้และสำหรับดูแล ด.ช.พัต เหลนของตน
“ก่อนเกิดเรื่องนกกลับมาที่อุดรธานีที่มีรถของผู้ว่าอุดรไปรับคนอุดรกลับบ้าน เมื่อมาถึงเขาก็เอาไปกักตัวที่ศาลากลางบ้านที่ห่างจากบ้านประมาณ 50 เมตร ซึ่งฉันก็เอาข้าวไปวางส่งให้กินหลังจากนั้นเขาก็ตรวจพบว่านกหลานสาวติดเชื้อโควิดจึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกุมภวาปี เมื่อวันที่13 สิงหาคม แล้วมารู้ว่าหลานสาวหนีออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้โดยนายอำเภอกุมภวาปีมาบอกถึงที่บ้านและมาเช้าวันนี้นายอำเภอก็มาบอกว่าเจอตัวหลานสาวแล้วอยู่ที่จ.สมุทรปราการซึ่งเขาเอาตัวไปรักษาแล้ว”
นางพิณบอกอีกว่าที่ผ่านมาหลานสาวไม่เคยส่งเสียดูแลตนกับลูก เคยโทรศัพท์มาบอกจะกลับบ้านเอาเงินมาให้ลูกแต่ก็ไม่มาเงินก็ไม่ให้ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้สนใจว่าหลานจะไปอยู่ไหนกับใครตนได้แต่เลี้ยงเหลนจากเงินที่ลูกขอตนส่งมาให้เท่านั้น
ส่วนด.ช.นัทพัชรทองดีนอก บอกว่ารู้ว่าแม่มากักตัวที่ศาลากลางบ้านเขาไม่ให้เข้าไปหาได้ แต่โทรคุยกันซึ่งตนก็จำเบอร์แม่ไม่ได้แล้วก็ไม่ได้คิดถึงแม่เพราะอยู่แต่กับยายทวดแต่ก็รู้ว่าแม่หนีออกจากโรงพยาบาลตอนที่นายอำเภอมาบอกและรู้ว่าเจอตัวแม่แล้วเมื่อเช้าวันนี้
สวนเรื่องการดำเนินคดีกับ น.ส.รตาธินีย์ หงส์วิจิตปรีชา หรือ นกยักษ์ พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี เปิดเผยว่ากรณี น.ส.รตาธินีย์ ที่หนีออกจากโรงพยาบาลหลังมีการแจ้งความทางตำรวจจึงได้ประสานกับทางโรงพยาบาลกุมภวาปีและฝ่ายปกครองติดตามไปที่บ้านแต่ไม่พบหลังจากนั้นตำรวจได้ทำการสืบสวนจึงทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานกับทางโรงพยาบและฝ่ายปกครองติดตามไปที่บ้านแต่ไม่พบ โดยได้ทำการสืบสวนจึงทราบว่าน.ส.รตาธินีย์ มีสามีอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ทางตำรวจจึงได้ประสานไปทางผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตรวจเช็กให้พบว่าช่วงบ่ายวานนี้พบตัวอยู่ที่จ.สมุทรปราการ
ซึ่งทางนิติกรของโรงพยาบาลกุมภวาปีมาแจ้งความให้ดำเนินคดีเบื้องต้นในข้อกล่าวหา "หลบหนีจากที่กักกันตามพรบ.ควบคุมโรคติดต่อ" หลังจากที่ทราบตัวแล้วว่าอยู่ที่จ.สมุทรปราการแล้วก็จะให้ทางสุมทรปราการรับการรักษาให้กับน.ส.รตาธินีย์ ให้หายจากโควิดเป็นปกติก่อนแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนนี้ก็สอบปากคำทางโรงพยาบาลว่าหลบหนีเมื่อไหร่และหนียังไงเอาไว้เป็นหลักฐานเพราะถ้าหายก็จะได้ออกหมายเรียกถ้าไม่มจะออกหมายจับและดำเนินการตามขั้นตอนต่ของกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าน.ส.รตาธินีย์ ที่สามารถหลบหนีการรักษาตัวจากโรงพยาบาลกุมภวาปีไปถึง จ.สมุทรปราการ ได้โทรศัพท์ให้แท็กซี่ที่กรุงเทพฯ ขับขึ้นมารับที่อุดรธานีและไปส่งที่ห้องเช่าเพื่อไปเอาของ
ทางผู้นำชุมชนทราบว่าเป็นผู้ที่หลบหนีการรักษาตัวจากอุดรธานีจึงตัวไปทำการรักษาต่อ ซึ่งทางสามีของ น.ส.รตาธินีย์ก็ติดเชื้อโควิดและกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวเช่นกัน โดยน.ส.รตาธินีย์ บอกว่าอยากกลับมาอยู่ใกล้สามีจึงหลบหนีมา