วันที่ 19 ส.ค.64 เฟซบุ๊ก Nat Thanakitamnuay ของ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ได้โพสต์ข้อความคำแถลงการณ์ กรณีอาการบาดเจ็บของ นายธนัตถ์ โดยระบุว่า "คำแถลงการณ์ กรณีอาการบาดเจ็บของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย (คุณลูกนัท)
ตามที่ได้ปรากฏข่าวสารเผยแพร่ทั่วไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ว่า นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย (ลูกนัท)
ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าและดวงตาจากการดำเนินการควบคุมและสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและแยกดินแดง กรุงเทพมหานคร จนต้องเข้ารับการตรวจรักษาจากคณะแพทย์นั้น
นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวธนากิจอำนวย ขอขอบคุณคณะแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษาและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ตลอดจนญาติมิตรที่ได้กรุณาช่วยเหลือ หรือติดตามสอบถามอาการบาดเจ็บของนายธนัตถ์ฯ และความคืบหน้าในการตรวจรักษาด้วยความห่วงใยและปรารถนาดีมาโดยตลอด ในการนี้ นายธนัตถ์ฯ และครอบครัว
ขอเรียนต่อสาธารณชนว่า ที่ผ่านมาทางครอบครัวและคณะแพทย์ผู้รักษายังไม่เคยให้ข่าวใด ๆ กับสื่อมวลชนหรือบุคคลที่มิใช่สมาชิกในครอบครัว ฉะนั้น ครอบครัวธนากิจอำนวยจึงขอแถลงข้อมูลตามความเป็นจริง โดยมีรายละเอียดดังนี้
ในประการแรก นายธนัตถ์ฯ ได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลฉีกขาดเป็นรูปครึ่งวงกลมที่บริเวณคิ้วขวา ลักษณะเกิดจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุของแข็งไม่มีคม ลักษณะเป็นกระบอกกลม ซึ่งคณะแพทย์ผู้ตรวจรักษาได้ตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่านายธนัตถ์ฯ มีแผลบวมช้ำที่เบ้าตาขวาและมีบาดแผลฉีกขาดที่คิ้วขวา กระจกตาขวาฉีกขาด ลูกตาขวาแตก จอประสาทตาขวาลอก จากนั้น นายธนัตถ์ฯ จึงได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากคณะแพทย์ด้วยการผ่าตัดแล้ว ปัจจุบันมีอาการเบื้องต้นปลอดภัยและทรงตัว แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์เพิ่มเติมต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลามากกว่า 6 เดือน โดยแพทย์มีความเห็นว่าภายหลังการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ดวงตาข้างขวาของนายธนัตถ์ฯ จะไม่สามารถมองเห็นได้อีก
ครอบครัวธนากิจอำนวยขอเรียนว่า นายธนัตถ์ฯ ได้เข้าร่วมการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้บัญญัติรับรองเสรีภาพดังกล่าวไว้ โดยนายธนัตถ์ฯ มีเจตนาที่จะแสดงความคิดเห็นและชุมนุมอย่างสงบโดยยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาแต่แรกเริ่ม โดยตลอดการร่วมชุมนุมนายธนัตถ์ฯ ได้แสดงออกและพยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกันและหลีกเลี่ยงพฤติการณ์ใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรง หรือความเสี่ยงต่อความรุนแรง ความวุ่นวาย และความเสียหายแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดังที่ได้ปรากฏหลักฐานเป็นที่รับทราบโดยทั่วไป
ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) หรือเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องนั้นจะมีอำนาจหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายและดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม แต่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวโดยเคารพและคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพและความปลอดภัยโดยรวมของประชาชนผู้เข้าร่วมการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม ได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในระหว่างการชุมนุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ได้เลือกใช้มาตรการในการสลายการชุมนุมหลายประการที่มีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตหรือร่างกายของผู้เข้าร่วมชุมนุม เช่น การยิงแก๊สน้ำตา หรือการยิงกระสุนยางเข้าใส่กลุ่มประชาชนผู้ชุมนุม ทั้งที่การชุมนุมดังกล่าวยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์การใช้ความรุนแรงถึงระดับที่จะเป็นเหตุให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการที่มีความรุนแรงในการสลายการชุมนุมดังกล่าว หรือหากแม้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในขณะนั้นอยู่ในสภาวะที่จำเป็นจะต้องใช้มาตรการยิงแก๊สน้ำตา หรือยิงกระสุนยาง ก็ตาม การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็จะต้องกระทำไปตามหลักการและมาตรฐานสากล กล่าวคือ ในการปฏิบัติการยิงแก๊สน้ำตานั้น ต้องใช้วิธีการยิงแบบวิถีโค้งในลักษณะโพรเจกไทล์ (Projectile) โดยต้องไม่ทำการยิงวิถีตรงหรือเล็งเข้าหาตัวบุคคลอย่างเด็ดขาด และในส่วนของการยิงหรือใช้กระสุนยางนั้นต้องเล็งยิงไปในบริเวณที่ต่ำกว่าเอวหรือบริเวณขาเท่านั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นแก๊สน้ำตาหรือกระสุนยาง ต้องห้ามยิงจากที่สูงหรือมุมสูงโดยเด็ดขาด ซึ่งในกรณีของนายธนัตถ์ฯ เกิดจากการยิงแก๊สน้ำตาที่ไม่ใช่การยิงแบบวิถีโค้ง จนเกิดเป็นความเสียหายที่ไม่อาจประเมินได้นั่นเอง
ดังนั้น นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวจึงเห็นว่าการใช้มาตรการสลายการชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้กําลังและเครื่องมือควบคุมฝูงชนที่เกินจําเป็น ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับแนวทางสากลในการจัดการและควบคุมฝูงชน ทั้งยังเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุและไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนเป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากรวมถึงนายธนัตถ์ฯ ได้รับบาดเจ็บอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมของประชาชน
ด้วยเหตุนี้ นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวจึงมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งในคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีอื่นใด กับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อนายธนัตถ์ฯ เนื่องจากการใช้อำนาจหน้าที่ การปฏิบัติการ และการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุดในทุกวิถีทาง โดยมีเจตนาเพื่อที่จะให้เป็นบรรทัดฐานและแบบอย่างในการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนตามรัฐธรรมนูญฯ ที่บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตน และอยู่ร่วมกันในสังคมโดยสามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ รวมถึงเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของนายธนัตถ์ฯ และครอบครัวตามกรอบของกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญฯ โดยการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวมิได้มีเจตนาและมิได้มีความประสงค์ที่จะให้บุคคล กลุ่มบุคคล หรือฝ่ายการเมืองใดนำไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง ไม่ว่าในลักษณะหรือแง่มุมใดก็ตาม
ครอบครัวธนากิจอำนวยขอเรียนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายธนัตถ์ฯ ถือเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรงของครอบครัว ซึ่งครอบครัวธนากิจอำนวยหวังว่าการดำเนินการใด ๆ ต่อจากนี้ จะช่วยไม่ให้เกิดความสูญเสียหรือความรุนแรงในลักษณะเดียวกันต่อบุคคล หรือประชาชนที่ต้องการแสดงออกทางความคิดของตนโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยขอยืนยันว่าการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ ของประชาชนต้องไม่ถูกขัดขวางหรือคุกคามโดยรัฐ รวมทั้งการใช้อำนาจหรือการปฏิบัติงานของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายต้องเป็นไปตามแนวทางสันติวิธีและเป็นไปตามหลักสากล โดยหลีกเลี่ยงการใช้กำลังหรือการทำให้เกิดความรุนแรงใดๆ