เมื่อวันที่ 24 ส.ค.64 เวลา 12.00 น. ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับเเจ้งมีอุบัติเหตุ เด็กนักเรียน 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ ถูกรถสิบล้อบรรทุกปูนทับเสียชีวิตคาที่ 2 ราย เเละบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
ในที่เกิดเหตุ บนถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี พบรถสิบล้อบรรทุกปูน สีเขียว หมายเลขทะเบียน 72-0274 สระบุรี จอดอยู่เลนซ้าย โดยที่ล้อหน้าพบร่างเด็กชายสมคิด มีบุญ อายุ 13 ปี เสียชีวิตคาที่ สภาพเเขนขาหักผิดรูป ถูกล้อทับบริเวณลำตัวเเละศีรษะ กะโหลกเเหลกละเอียด สมองกระจาย
ส่วนที่ล้อหลัง พบร่างนายวีรเทพ วุฒิสาร อายุ 15 ปี เสียชีวิตคาที่เช่นกัน สภาพศพถูกล้อทับที่ลำตัว กระดูกหัก ร่างเเหลกเหลว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ รุ่น 110 i สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 7กญ-7772 กรุงเทพมหานคร ล้มอยู่ สภาพพังยับเยินทั้งคัน
นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิง คือ น.ส.เเนท อายุ 16 ปี อยู่บริเวณท้ายรถปูน ขาหักทั้ง 2 ข้าง อาการสาหัส ถูกนำส่งรพ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ทั้งนี้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเด็กทั้ง 3 คน เป็นเพื่อนกัน และเป็นเด็กกตัญญู ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเลิกเรียนออนไลน์ หลังจากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปขายนมเปรี้ยวหารายได้ช่วยครอบครัว กระทั่งประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
โดยภาพจากกล้องหน้ารถ ของรถสิบล้อบรรทุกปูน จะเห็นว่ารถปูนขับมาตามปกติ เเต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้เสียหลัก หลุดโค้ง จนล้ม ไถลเข้ามาใต้ท้องรถปูน จนถูกทับดังกล่าว
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ไปยังถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี ยังพบคราบเลือดเเละคราบมันสมองอยู่ที่พื้นถนน ขณะเดียวกันพบเศษชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ เเละเศษเสื้อผ้า รองเท้า ของผู้เสียชีวิตด้วย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสมพร วงศ์ศา อายุ 58 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ในร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดเกิดเหตุ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังโครม เมื่อวิ่งออกมาดูก็พบว่าเกิดอุบัติเหตุ เห็นร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้ชายติดอยู่ที่ล้อหน้ากับล้อหลัง ร่างเเหลกเหลว เลือดไหลนองเต็มพื้น นอกจากนี้ ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงกระเด็นห่างจากท้ายรถประมาณ 1-2 เมตร นอนร้องไห้โอดครวญด้วยความเจ็บปวด ตนเองจึงรีบเข้าไปช่วยโบกรถ เเละเเจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นภาพที่สะเทือนใจ เเละสลดหดหู่เป็นอย่างมาก ตนอยู่ที่นี่มาหลายปี ไม่เคยเห็นเหตุการณ์เเบบนี้กับตาตัวเองมาก่อน
ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นายวีรเทพ วุฒิสาร อายุ 15 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิต อยู่ในต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้พูดคุยกับนางรุ่งฟ้า บัวลอย อายุ 40 ปี เเม่ของน้องวีรเทพ เปิดเผยว่า ตนมีลูก 3 คน นายวีรเทพ เป็นลูกคนกลาง มีพี่สาวอายุ 16 ปี เเละน้องสาวอายุ 12 ปี ซึ่งนายวีรเทพเป็นเด็กขยัน ทุกวันหลังเลิกเรียนน้องจะไปรับนมเปรี้ยวมาขายตามเเยกไฟเเดง เมื่อได้เงินจะเเบ่งเป็น 2 ก้อน ส่วนเเรกจะเก็บไว้ซื้อของที่อยากได้ อีกส่วนจะหยอดกระปุกออมสินไว้ให้ตน ซึ่งน้องทำเเบบนี้ทุกวันกว่า 4 เดือนเเล้ว
โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้าน้องได้นั่งคุยกับ ด.ช.สมคิด ผู้เสียชีวิตอีกรายอยู่ที่หน้าบ้าน ก่อนจะชวนกันขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านในเวลา 10.00 น. เพื่อไปรับน้องเเนท ผู้บาดเจ็บ เเล้วจะไปซื้อนมเปรี้ยวมาตระเวนขายตามเเยกไฟเเดงต่าง ๆ เหมือนที่เคยทำทุกวัน
เเต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาบอกว่า ลูกชายของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตนก็ยังไม่เชื่อ จึงรีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เห็นร่างลูกชายติดอยู่กับล้อรถ ใจเเม่สลาย เสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาลูกชายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เเละสิ่งที่น้องมักจะพูดกับเเม่เสมอคือ "ถ้าโตขึ้นหนูจะเลี้ยงเเม่เอง หนูจะสร้างบ้านให้เเม่ เราจะได้ไม่ต้องอยู่บ้านเช่าเเบบนี้ เเม่รอหนูนะ" แต่ท้ายสุดแล้วก็ไม่มีวันนั้น
โดยคุณเเม่ได้พาทีมข่าวไปดูห้องนอนของลูกชาย พร้อมบอกว่า เเม่ร้องไห้ทุกครั้งที่เดินเข้ามาในห้องนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ยังรู้สึกว่าลูกยังอยู่กับเเม่ เวลาเห็นหมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตา ก็จะสะเทือนใจทุกครั้ง โดยเเม่ได้หยิบกระปุกออมสิน ซึ่งภายในมีรูปถ่ายของน้องวีรเทพ มาให้ทีมข่าวดู บอกว่าเป็นสิ่งของที่เเม่เก็บไว้เเทนใจ เพราะกระปุกออมสิน น้องมักจะหยอดเงินไว้ให้เเม่