สืบเนื่องจาก บก.สปพ. หรือ 191 ได้รับแจ้งเหตุว่า นายกิตติภพ ผู้ต้องหา แอบอ้างเป็นตำรวจ หลอกลวงเหยื่อหญิงสาวไปร่วมประเวณี ก่อนจะอาศัยจังหวะผู้หญิงเผลอหลับ ลักทรัพย์และหนีไปทันที ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบเคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 10 ครั้ง และพ้นโทษเมื่อประมาณต้นปี 64 ที่ผ่านมา
กระทั่งวันที่ 23 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวคือ บุคคลเดียวกับที่มีผู้เสียหาย มาแจ้งความร้องทุกข์ ไว้ที่ สน.โชคชัย จึงได้ขออนุมัติหมายจับ พร้อมสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณปากซอยโชคชัย 4 ซอย 70 เขตลาดพร้าว กทม. ระหว่างที่กำลังนั่งเปิดดูรูปเหยื่อหญิงสาว หลังหลบหนีการจับกุมไปเปิดห้องพักรายวันอยู่ที่ย่านโชคชัย 4
จากการสอบสวน นายกิตติภพ ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพอ้างว่า ตนได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากว่าตนมีความชื่นชอบและหมกมุ่นเรื่องแบบนี้ และยอมรับว่าตนเคยก่อเหตุมาแล้วภายใน 6 เดือน ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง ในพื้นที่สน.บางนา สน.ดินแดง สน.สุทธิสาร และ สน.ลาดกระบัง
ล่าสุดภายในพื้นที่ สน.โชคชัย ตนได้หลอกลวงหญิงสาว ที่ส่วนใหญ่เป็นหญิงที่ขายบริการผ่านอินเตอร์เน็ต ว่าตนเป็นตำรวจ ก่อนจะล่อลวงบังคับให้ผู้เสียหายร่วมหลับนอนด้วย นอกจากนี้ ตนยังอาศัยจังหวะเผลอขโมยโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย 2 เครื่อง มูลค่า 55,000 บาท แล้วหลบหนีไป
ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ น.ส.โยเกิร์ต (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าทำงานขายบริการจริง โดยทำมาได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งตนก็เป็นบุคคลหนึ่งที่เคยโดนผู้ก่อเหตุล่อลวงไปร่วมเพศ โดยผู้ก่อเหตุจะเลือกเยื้อที่ชอบรับงานทางออนไลน์ ก่อนจะนัดหมายไปยังโรงแรม เมื่อไปถึงผู้ก่อเหตุ ก็จะอ้างแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับออกอุบายว่า "ถ้าไม่อยากถูฏจับ ต้องมีอะไรกัน" ตนจึงยอมทำตามที่ผู้ก่อเหตุต้องการ เพราะไม่อยากถูกจับกุม
จากที่ตนได้สอบถามกลุ่มเพื่อน ๆ จึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มีสาวขายบริการตกเป็นผู้เสียหายหลายราย แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาเปิดเผย นอกจากที่ให้ข้อมูลไปข้างตน ตนยังรู้มาอีกว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมชิงทรัพย์ด้วย ตนจึงมองว่าเป็นบุคคลอันตราย หลังทราบเรื่องว่าผู้ก่อเหตุ รายนี้ถูกจับตนก็รู้สึกดีใจ และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเต็มที่ เกรงว่าหากปล่อยไว้จะต้องมีคนตกเป็นเหยื่ออีกหรือไม่