จากรณีที่มีคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะมีพระรูปหนึ่ง ต่อยคนงานชาวเมียนมา ที่ทำงานอยู่ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรง และความเหมาะสมของการกระทำดังกล่าวนั้น
วันที่ 5 ต.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ร้านอาหารย่าน สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย โดยนายเอ (นามสมมติ) ลูกจ้างชาวพม่า ผู้เสียหาย ให้ น.ส.เชอร์รี่ (นามสมมติ) คนเหตุการณ์ เล่าแทน เนื่องจากไม่สามารถพูดภาษาไทยได้
น.ส.เชอร์รี่ เล่าว่า เหตุเกิดขี้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 ก.ย. 61 โดยนายเอและตนได้ขนของอยู่บริเวณหน้าร้าน และเห็นพระเดินมา ซึ่งโดยปกติแล้วหลวงตาเทพ จะชอบเดินมาต่อว่า และด่าตน และคนในร้าน แต่ในวันเกิดเหตุ นายเอได้ยกของใกล้กับทางที่หลวงตาเทพเดิน และได้ยกมือไหว้ แต่หลวงตาก็เข้ามาต่อยหน้านายเอ 1 ครั้ง เมื่อหลวงตาจะต่อยซ้ำ ก็ถูกลูกศิษย์ของหลวงตามาห้ามไว้ก่อน โดยที่ไม่ได้มีเหตุโกรธกันมาก่อน เพียงแต่เคยมีเรื่องเข้าใจผิดกัน
โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เคยมีคนงานชาวเมียนมาของร้านไปบอกหลวงตาที่เดินบิณฑบาตมาหน้าร้านว่า ข้าวยังไม่สุก ให้เดินไปก่อน แล้วค่อยกลับมา จึงทำให้หลวงตาเข้าใจผิด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าหลวงตาได้ยินว่าอะไร แต่หลังเกิดเรื่อง ก็มีลูกสาวของหลวงตาเข้ามาโวยวายว่า คนในร้านนั้นไล่หลวงตา ซึ่งทางร้านก็พยายามขอโทษ แต่หลวงตาก็ไม่รับ ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่า นายเอไปกล่าวหาพระว่า สำเร็จความใคร่นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลวงตานั้น โกรธคนในร้านเรื่องข้าวยังไม่สุกเท่านั้น
น.ส.เชอร์รี่ เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้คนที่ร้านก็ใส่บาตรมาตลอด 1 ปี กระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งตนและเพื่อนก็เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็รู้ว่าตลอดว่าหลวงตาเทพ เกลียดชาวเมียนมา ซึ่งเมื่อหลวงตาเดินมา คนงานเมียนมาในร้าน ก็พยายามไม่สบตา และอยู่ห่าง ๆ
ด้าน
น.ส.กุ้ง (นามสมมติ) เจ้าของร้านอาหาร เปิดเผยว่า เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. 61 ในวันนั้นตนไม่ได้อยู่ร้าน มีแต่ลูกจ้างชาวเมียนมาที่ทำงานอยู่ โดยลูกจ้างบอกกับหลวงตาว่า ข้าวยังไม่สุก ให้เดินไปก่อน ค่อยใส่บาตรขากลับ แต่หลังจากวันนั้นหลวงตาก็ไม่เดินมารับบาตรอีก และเดินผ่านหน้าร้านไป แม้ว่าจะมีคนมาซื้ออาหารจากร้านตน แล้วใส่บาตรให้ หลวงตาก็ไม่รับ ถ้าเป็นอาหารจากร้านของตน
ส่วนเรื่องวันที่ 23 ก.ย. ที่หลวงตาต่อยลูกน้องตน ลูกน้องของตนเพียงยกมือไหว้ แต่หลวงตาก็เข้ามาต่อย ตนก็ยืนยันว่าลูกน้องไม่เคยด่า หรือต่อว่าพระ เพราะลูกน้องยังพูดไทยไม่ได้ แต่หลวงตามักจะเข้ามาด่า ซึ่งหลวงตามักบอกว่า "ไม่อโหสิกรรมให้ เพราะเกลียดพม่ามาตั้งแต่อดีตชาติ" นอกจากนี้ ก็มีคนเคยมาเล่าให้ตนฟังว่า พระรูปดังกล่าวมีการปล่อยเงินกู้ พังร้านกาแฟ เนื่องจากทวงเงินไม่ได้
พระชาญเทพ เสียงโสภณ หรือ หลวงตาเทพ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น อาตมายอมรับว่าต่อยคนงานชาวเมียนมาจริง เพราะถูกกลุ่มดังกล่าวไล่อย่างหมูกับหมา ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกับคนในร้านมาก่อน ส่วนเรื่องข้าวไม่สุกนั้น คนงานก็ไม่เคยบอก เพียงแต่ไล่ให้ไปเพียงอย่างเดียว อาตมาก็เห็นว่าเป็นผู้ชาย จึงต่อยไป 1 ครั้ง และขอยืนยันว่า ไม่เคยไปด่าร้านดังกล่าว
ส่วนเรื่องการขอขมานั้น อาตมาถูกไล่อย่างกับหมูกับหมา จะมาขอขมาฉันได้อย่างไร อีกทั้งอาตมาเกลียดพม่า เพราะในอดีตชาติ เคยเป็นทหารรบของพระเจ้าตากสิน แต่ถูกพม่ารุกรานบ้านเมือง พระเจ้าตากจึงรวบรวมคน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอาตมาอยู่ด้วย เพื่อไปขับไล่พม่า และรู้สึกโกรธแค้นที่พม่ามาบุกบ้านเมือง จึงทำให้อาตามาไม่ชอบพม่ามาตั้งแต่แรก
ส่วนเรื่องที่มีคนกล่าวหาว่า อาตมาปล่อยเงินกู้นั้นไม่เป็นความจริง และอาตมาก็ไม่มีปืนอย่างที่ถูกกล่าวหาด้วย ส่วนลูกศิษย์จะมีปืน หรือมีอิทธิพลหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ทราบ และเรื่องคนที่กล่าวหาอาตมาว่าไปพังร้านกาแฟ เพราะไม่จ่ายเงินกู้นั้น ยืนยันว่า ไม่เคยไปพังร้านใคร ส่วนเรื่องที่ลูกสาวของอาตมาไปโวยวายที่ร้านอาหารนั้นเป็นเรื่องจริง แต่สาเหตุก็เป็นเพราะถูกร้านดังกล่าวไล่อย่างกับหมูกับหมา แต่ถ้าทางร้านจะมาขอโทษ ไม่อยากให้มา เพราะไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวาย ซึ่งถ้าจะใส่บาตร อาตมาก็จะไม่รับ