พ่อเหยื่อหึงโหดรับไม่ได้ ลูกสาว-หลานถูกแทงร่างพรุน เพื่อนร่วมงานเผยสองผัวเมียคนดี

8 ต.ค. 61
กรณีนายพิมาย สง่าแสง หรือ แมค อายุ 57 ปี ใช้อาวุธมีดแทง นางสุกัญญา ฉิมพาลี หรือ เปิ้ล อายุ 36 ปี ภรรยา จนเสียชีวิต พร้อมกับเด็กชายสิงหา หวานชะเอม หรือ ปอนด์ อายุ 12 ปี ลูกชาย ภายในบ้านพัก หมู่ที่ 5 ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่อเช้าวานที่ผ่านมา (7 ต.ค. 61) ก่อนที่จะใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิต (อ่าน : หนุ่มใหญ่หึงโหด ฆ่ายกครัวเมีย-ลูกเลี้ยง ก่อนผูกคอตัวเองตายตาม ญาติเผย ปมกลัวเมียยุ่งผัวเก่า หลังต้องติดคุก)
บ้านจุดเกิดเหตุ
วันที่ 8 ต.ค. 61 บรรยากาศภายในศาลาการเปรียญวัดท่าช้าง มีการจัดเตรียมสถานที่เตรียมรับศพ น.ส.เปิ้ล บำเพ็ญกุศลทางศาสนา ส่วนเด็กชายสิงหา และนายพิมาย ทางญาติของทั้ง 2 ฝ่าย ต่างขอรับศพแยกย้ายไปตั้งคนละแห่งกัน เพื่อสะดวกในการเดินทาง โดยในช่วงเย็นวันนี้ ทางญาติจะเดินทางไปรับศพจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และนำศพไปตั้งเพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป
วุฒิรัช หอมพิพัฒน์ พ่อของนางสุกัญญา
ขณะที่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ปิดเงียบสนิท มีเพียงนายวุฒิรัช หอมพิพัฒน์ อายุ 63 ปี พ่อของน.ส.เปิ้ล อยู่บริเวณบ้าน และเตรียมเอกสารเพื่อที่จะเดินทางไปรับศพของลูกสาว โดยนายวุฒิรัช เปิดเผยว่า ปกติบ้านตนกับลูกสาวอยู่ใกล้กัน โดยคู่สามีภรรยาก็มีเรื่องถกถียงกันเป็นปกติ แต่นายแมคเป็นคนที่เงียบ และไม่ค่อยพูด จึงไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันในเรื่องครอบครัว แต่ไม่คิดว่าจะเป็นชนวนในการก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตนเห็นศพลูกสาวกับหลานแล้ว รู้สึกทำใจไม่ได้ เพราะลูกสาวถูกแทงกว่า 20 แผล ส่วนหลานก็ 7 แผล มันรู้สึกว่าทารุณโหดเหี้ยมเกินไป แต่ก็ไม่อยากไปคิดอะไรมาก เพราะคนก่อเหตุก็ตายตามกันไปแล้ว
เพื่อนบ้าน
เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ปกติครอบครัวนี้มีปากเสียงกันบ่อยเรื่องหึงหวง เพราะอดีตสามีของ น.ส.เปิ้ล ซึ่งเป็นพ่อของน้องปอนด์ วนเวียนมาหาน้องปอนด์บ่อยครั้ง ทำให้นายแมครู้สึกกลัวว่าจะถูกทิ้ง ยิ่งนายแมคกำลังจะถูกขัง แทนค่าปรับ ในคดีรถชน ทำให้นายแมคอาจจะคิดมาก คืนเกิดเหตุก็มีคนได้ยินเสียง น.ส.เปิ้ลกรีดร้อง แต่ก็เคยได้ยินบ่อย จึงไม่มีใครเอะใจ จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น จึงรู้ว่าเกิดเหตุดังกล่าว
นายฉัตรชัย จันทร์ศร อาสาสมัครกู้ภัยวีอาร์อ่างทอง
ขณะที่ นายฉัตรชัย จันทร์ศร อาสาสมัครกู้ภัยวีอาร์อ่างทอง ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานอาสาสมัครกับสองสามีภรรยา กล่าวว่า ปกติทั้งคู่เป็นคนดี และชอบช่วยเหลืองานสังคม ในการออกทำเหตุ หรือช่วยอำนวยการจราจร ซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีการทะเลาะกันแต่อย่างใด เมื่อทราบเหตุ ทุกคนก็รู้สึกตกใจ และช็อกไปตาม ๆ กัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ