จากกรณี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 ก.ย. 64 พ.ต.ท.(หญิง) วีระญา คชบริรักษ์ สว.สอบสวน สภ.สิชล ได้รับแจ้งว่ามีเหตุแทงกันตายที่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในห้องครัวหลังบ้าน พบศพผู้ตายนอนหงายจมกองเลือดบริเวณประตูครัวหลังบ้าน สอบสวนทราบผู้ตายชื่อนายเช้า แซ่ลิ่ม อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดทำครัวเข้าบริเวณลำตัวหน้าอกพรุนจำนวน 10 แผล ตายสยองคาที่
พบนางเกี้ยง แซ่ลิ่ม อายุ 63 ปี ภรรยาผู้ตายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ยืนถือมีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือดยาวประมาณ 15 ซม. รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีรอยเลือดของผู้ตายกระเด็นติดเปรอะเต็มตัว เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปยัง สภ.สิชล เพื่อดำเนินคดี
โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเช้า ขณะที่ภรรยากำลังใช้มีดนั่งหั่นเนื้อหมูในครัวหลังบ้าน นายเช้า สามีเข้ามาหาเรื่องทะเลาะ จนมีปากเสียงทะเลาะกัน นายเช้าได้ถือมีดพร้าเข้ามากระโดดถีบภรรยา 1 ครั้ง และใช้มีดพร้าจะฟัน ด้วยความโมโหที่ตนถูกสามีทำร้ายก่อน จึงใช้มีดหั่นเนื้อหมูที่กำลังถืออยู่กระหน่ำแทงสวนร่างสามีแบบไม่ยั้ง พรุน 30 แผล ทำให้สามีล้มฟุบตายคาที่ทันที
ส่วนตนได้ถือมีดเปื้อนเลือดรอมอบตัวกับตำรวจดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้ว ได้มอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณต่อไป
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังวัดเกล็ดแรดใน ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ตั้งศพ โดยนางกรรณิกา หนูน้อย อายุ 38 ปี ลูกสาวผู้ตายและผู้ต้องหา เล่าว่า วันเกิดเหตุ 09.00 น. แม่โทรมาหาบอกว่าทะเลาะกับพ่ออยู่ ให้รีบมา แล้วก็ตัดสายไป ตนก็พยายามโทรกลับไปถามว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่แม่ก็ไม่ยอมรับสาย กระทั่ง 10.00 น. เพื่อนบ้านโทรมาบอกอีกว่าพ่อแม่ทะเลาะกันอยู่ที่บ้าน ตนยังคิดว่าคงจะทะเลาะกันเหมือนทุกครั้ง เพราะที่ผ่านมาพ่อกับแม่จะทะเลาะกันแค่มีปากเสียงกันเท่านั้น ไม่เคยลงไม้ลงมือกัน
จากนั้น พอตนมาถึงบ้าน มารู้ว่าแม่แทงพ่อตายอยู่ในบ้านก็รู้สึกตกใจ ช็อกไปเลยในตอนนั้น วันนี้ตนเป็นคนมาจัดงานศพให้พ่อ ส่วนน้องสาวไปเฝ้าแม่ เพื่อเดินเรื่องประกันตัวแม่อยู่ที่โรงพัก
โดยเหตุการณ์ที่เกิดทางครอบครัวขอแก้ข่าวที่มีสื่อบางสื่อเอาเรื่องไปนำเสนอว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดมาจากความหึงหวง ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง อยากให้ทางอมรินทร์แก้ข่าวให้ เพราะที่ผ่านมาพ่อกับแม่ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องมือที่สาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวก็เสียใจมากพออยู่แล้ว เพราะต้องเสียพ่อ และแม่ก็ต้องมาติดคุก ยอมรับว่าทั้ง 2 คนก็เป็นเสาหลักให้กับทางครอบครัว
ทั้งนี้ ตำรวจได้แจ้งข้อหากับ นางเกี้ยง ข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจะส่งศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.64)