ผัววัยดึกหึงโหด หวั่นเมียนอกใจค้อนฟาดหัวเลือดอาบ คนเจ็บแฉขี้ระแวงลั่นสุดทนไม่คืนดี (คลิป)

8 ก.ย. 64

กรณีโลกโซเชียลฯ แชร์คลิปวิดีโอนายสมพร จันทร์ประโคน หรือ พร อายุ 62 ปี ซึ่งมีอาการมึนเมา ถืออาวุธครบมือ ทั้งมีดและค้อนทุบตีนางทัศณีย์ เกื้อประโคน หรือ ปุ๊ อายุ 56 ปี อย่างบ้าคลั่งทั่วร่างกาย ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หมู่ที่ 2 บ้านชุมแสง ต.ตะโกตาพิ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อนจะฉุดกระชากออกมาทำร้ายต่อบริเวณกลางถนน 

361007

จากข้อมูลที่ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบจึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาติดพันผู้บาดเจ็บนานกว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่มึนเมา ผู้ก่อเหตุมักจะทำร้ายผู้บาดเจ็บเป็นประจำ แต่ครั้งนี้รุนแรงมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์

ล่าสุดวันที่ 8 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังบ้านชุมแสง หมู่ 2 ต.ตะโกตาพิ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายพรไพร หัดประโคน อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

705279

นายพรไพร กล่าวว่า นายสมพรและนางทัศณีย์ คบหากันมาได้ประมาณ 4 ปี รัก ๆ เลิก ๆ กันอยู่แบบนี้ และมักจะทะเลาะกันเป็นประจำ ซึ่งไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน นางทัศณีย์มักจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบและถูกทำร้ายทุบตีอยู่เป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.64) ถือเป็นเหตุการณ์ที่หนักที่สุด ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่ในพื้นที่ ตนมาทราบเหตุจากลูกบ้านในเวลา 17.00 น. 

cg_9

โดยชาวบ้านแจ้งให้ตนทราบว่า นายสมพร ได้ถืออาวุธออกจากบ้าน จากนั้นได้ลงมือทำร้ายร่างกายของนางทัศณีย์ ที่กำลังมึนเมานอนหลับอยู่ ครอบครัวผู้บาดเจ็บจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาไกล่เกลี่ยระงับเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดค้อน มีดปอกผลไม้ และมีดถางหญ้า จากนั้นก็ได้ปล่อยตัวนายสมพร กลับบ้าน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.ย.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาเชิญตัวนายสมพร ไปสอบปากคำและแจ้งข้อหาที่ สภ.ประโคนชัย

943545

ทั้งนี้ปกติแล้วนายสมพรจะเป็นคนเงียบ ๆ แม้จะมึนเมาก็ไม่เคยทำร้ายใคร ยกเว้นทำร้ายภรรยา ทั้งภรรยาเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว และนางทัศณีย์ ส่วนนางทัศณีย์เป็นชอบดื่มสุราเช่นกัน และไม่สุงสิงกับใคร ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านพยายามที่จะไกล่เกลี่ยพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายให้อยู่ด้วยกัน เพราะทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยา ขอแค่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถห้ามปรามทั้งคู่ได้ ส่วนเรื่องคดีความเป็นเรื่องระหว่าง 2 ครอบครัว แต่จากนี้ตนจะต้องสอดส่องดูแลทั้ง 2 ครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องอีก

874263337206

เวลา 16.00 น. นางทัศณีย์ เกื้อประโคน หรือ ปุ๊ อายุ 56 ปี ผู้บาดเจ็บ ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเดินทางกลับมาที่บ้านในสภาพอ่อนล้า มีรอยช้ำทั่วร่างกาย ท้ายทอย ลำตัวด้านหน้าและหลัง ใบหน้าเขียวช้ำ หน้าผากเย็บ 3 เข็ม กกหูซ้าย 6 เข็ม และปากไม่แน่ชัดจำนวนเข็ม

468963

นางทัศณีย์ กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่บนแคร่ จู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะนายสมพร ใช้ค้อนทุบศีรษะตนจนเลือดอาบไหล ตนรีบวิ่งหนีจนล้ม แต่นายสมพรก็ยังจะตามมาทุบตนไม่ยั้ง ซึ่งขณะนั้นตนคิดในใจว่า “ไม่น่าจะรอด” ตนคบหากับผู้ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 54 คบ ๆ เลิก ๆ มาตลอด 10 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุมักทำร้ายตนเสมอ ใช้มือเปล่าบ้าง ใช้ไม้บ้าง แต่ไม่เคยหนักเท่าครั้งนี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนให้อภัยอีกฝ่ายมาตลอด แม้อีกฝ่ายจะเคยขู่ว่า “เดี๋ยวมึงก็ตาย จะเอามึงให้ตาย” แต่ครั้งนี้มันเกินไปจริง ๆ ตนคิดว่าอีกฝ่ายคิดจะฆ่าตน เพราะเตรียมอาวุธมาจากบ้าน ยังโชคดีที่อีกฝ่ายใช้ค้อน หากใช้มีดตนคงเสียชีวิตไปแล้ว ขณะนี้ตนยังเจ็บและปวดตามร่างกาย และจะขอเอาเรื่องอีกฝ่ายให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ ตนขอยืนยันว่าไม่ได้มีชายอื่นอย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายสมพร ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยยังได้ประสานไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ในพื้นที่ ให้เข้ามาดูแล เนื่องจากเป็นเหตุความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่านายสมพรไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิตแต่อย่างใด

421888

ขณะที่นายสมพร ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตนอยู่กินกันมาประมาณ 5 ปี แต่ในช่วงหลังฝ่ายหญิงไปมีชายอื่น ทั้งยังหลบหน้าตนอีกด้วย ตนจึงเกิดบันดาลโทสะเข้าไปทุบตี ยอมรับว่าแค้นจริง ๆ ส่วนลูกสาว 2 คน ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปทำร้าย เพียงแค่ผลักหน้าอกเท่านั้น

titled_8

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ณัฐธิดา เกื้อประโคน อายุ 30 ปี น้องสาวของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าว กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคบหากับผู้บาดเจ็บมาได้ 4-5 ปี โดยผู้ก่อเหตุมักจะทุบตีผู้บาดเจ็บอยู่เป็นประจำ แต่ครั้งนี้หนักที่สุด โดยเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.64) เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ใช้ค้อน ขนาดเท่าไมโครโฟนทุบศีรษะของผู้บาดเจ็บขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ จากนั้นผู้บาดเจ็บก็ได้วิ่งออกไปกลางถนนเพื่อขอความช่วยเหลือ ในสภาพใบหน้าอาบเลือด โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้ด้ามไม้ของมีดถางหญ้าตีไปตามร่างกายของผู้บาดเจ็บ ซึ่งเมื่อผู้บาดเจ็บพยายามจะวิ่งหนีก็ได้ใช้ค้อนฟาดไปยังขาของผู้บาดเจ็บอีกด้วย 

8]bx

ทั้งนี้ตนซึ่งทำอะไรไม่ถูกจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน แล้วได้บอกเพื่อนผู้หญิงอีกคนให้วิ่งไปตามคนมาช่วย จนชาวบ้านเข้าไปล็อกตัวผู้ก่อเหตุ จับตัวให้นั่งสงบสติอารมณ์ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครอบครัวต่างรู้ดีว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนติดสุรา แต่ไม่สามารถห้ามปรามผู้บาดเจ็บไม่ให้คบหากับผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากผู้บาดเจ็บก็ติดสุราเช่นกัน โดยครอบครัวได้บอกให้ผู้บาดเจ็บเลิกยุ่งกับผู้ก่อเหตุหลายครั้งแล้ว แต่เมื่อผู้บาดเจ็บจะตีตัวออกห่าง ผู้ก่อเหตุก็ตามมาขอคืนดีทุกครั้ง

กระทั่งวันที่ 5 ก.ย.64 ผู้บาดเจ็บได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเลิกยุ่งกับผู้ก่อเหตุ โดยจะย้ายไปอยู่บ้านญาติและไม่ติดต่อกับใคร จนวันที่ 7 ก.ย.64 ผู้บาดเจ็บได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วผู้ก่อเหตุตามมาก่อเหตุ ตนขอถามครอบครัวของผู้ก่อเหตุว่า “ทำไมไม่ดูแลให้ดี ทำไมถึงปล่อยให้ออกมาก่อนเหตุแบบนี้” จากนี้ตนคงจะได้พูดคุยกับอีกฝ่ายถึงค่ารักษาพยายาล

อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ผู้ก่อเหตุถูกแจ้งข้อหาหนัก ๆ เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยหากไม่มีชาวบ้านเข้าไปห้าม ผู้บาดเจ็บอาจจะถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิตหรือไม่ อีกทั้งหากผู้ก่อเหตุถูกปล่อยตัวออกมา ตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุก็อาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ และอาจจะบานปลายก่อเหตุกับตนและชาวบ้าน จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม