เผยนาที สาวใหญ่วัย 72 ร้อยไหมดับคาเตียง จนท.คลินิก ปิดปาก ชิ่งหนีสื่อ (คลิป)

จากกรณีนางณัฐมณ ประชาเสรี อายุ 72 ปี แพ้ยาเสียชีวิตขณะทำศัลยกรรมร้อยไหมบริเวณใบหน้า ที่คลินิกเวชกรรม ย่านทาวน์อินทาวน์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร และเสียชีวิต ในเวลาต่อมานั้น ( อ่าน : สาวใหญ่ วัย 72 ช็อกตายปริศนาขณะร้อยไหม พบตับแตก – ซี่โครงหัก ตร.สอบคลินิกพบฉีดยาชา 24 เข็ม )

วันที่ 12 ต.ค. 61 ญาตินางณัฐมณ ประชาเสรี หญิงวัย 72 ปี ผู้เสียชีวิต เดินทางเข้าติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดปรก ย่านยานนาวา และไม่ต้องการให้ข่าวใด ๆ กับผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่า ส่วนการดำเนินคดีกับเจ้าของคลินิก ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน

ทีมข่าวเดินทางมาที่คอนโด จุดเกิดเหตุ นิติบุคคลของอาคาร ซึ่งอยู่ที่ชั้น 3 ให้ข้อมูลว่า แพทย์ที่มาเช่าอาคารถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของห้องที่นี่ด้วย และเช่าด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งขณะนี้ผู้จัดการนิติฯ ไม่อยู่

จากนั้นทีมข่าวเดินทางขึ้นไปที่ชั้น 6 ของอาคาร ลักษณะด้านในถูกตกแต่งเป็นห้องเดียวกันทั้งหมด ทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ภายในห้อง บางจุดถูกทุบกำแพงรวมเป็นห้องเดียวกัน ภายในคลินิกอยู่ในสภาพที่ยังสร้างไม่เสร็จ บางส่วนอยู่ในระหว่างการตกแต่ง พื้นที่แต่ละห้องถูกนำไม้แผ่นใหญ่มาตอกตะปูปิดไว้ ทั้งนี้ พบใบรับรองการอบรบวิชาแพทย์ต่าง ๆ หลายใบด้วย

พลตำรวจตรีธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวว่า นางณัฐมณมาร้อยไหมที่คลินิกเป็นครั้งแรก ซึ่งจากการสอบปากคำแพทย์เจ้าของคลินิก พยาบาล และผู้ช่วยฯ รวมแล้ว 3 ปาก ทราบว่าผู้ตายเข้ามารับบริการตั้งแต่วันที่ (11 ต.ค. 61) ช่วงเวลา 16.00 น.

ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ พบว่าขั้นตอนการร้อยไหม ขั้นตอนแรกจะแปะยาชา 30 นาที ซึ่งแพทย์ทดสอบแล้วได้ผล ไม่มีอาการแพ้ ต่อมาจึงฉีดยาชาทั้งสิ้น 24 เข็ม หลังจากฉีดยาเสร็จ แพทย์ก็ไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อออกมาผู้ช่วยพยาบาลจึงแจ้งว่า คนไข้มีอาการผิดปกติ มีความดันต่ำ จำเป็นต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะประสานโรงพยาบาลใกล้เคียงมาช่วย แต่ไม่สำเร็จ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า มีซี่โครงหักและตับแตก ส่วนคลินิกเพิ่งเปิดได้ 3 วัน และผู้ตายรู้จักกับแพทย์เป็นอย่างดี

เบื้องต้น สำหรับสถานพยาบาลที่เปิดโดยไม่ได้ขออนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และข้อหากระทำการโดยประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย