จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี นักเรียนมัธยมศึกษา ในจังหวัดปทุมธานี ถูกพ่อแท้ ๆ ซึ่งเป็นทหารยศพันจ่าเอก สังกัดในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และแม่เลี้ยง ใช้สิ่งของหลายชนิดทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ โดยมีบาดแผลเต็มตัว และเด็กชายอายุ 14 ปี ทนไม่ไหว หลบหนีโดยปั่นจักรยานออกจากบ้าน จากอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อมาหาแม่ ที่จังหวัดระยอง โดยใช้เวลาปั่นจักรยานประมาณ 3 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต มายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อรอให้แม่มารับตัว โดยคนขับแท็กซี่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อนของแม่เด็กชาย 14 ปี ช่วยมารับตัวเด็กชายแทน
วันที่ 14 ต.ค. 61 เด็กชาย อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า พ่อและแม่เลี้ยงให้กินข้าวกับไข่ต้ม และปลากระป๋อง เป็นประจำ นาน ๆ ครั้ง จะได้กินอาหารประเภทผัดหรือแกง และเมื่อได้มาอยู่กับแม่ จึงอยากกินปลา แต่เนื่องจากแม่ไม่มีเงินเพียงพอ เพื่อนบ้านจึงซื้อปลามาให้ โดยแม่นั่งแกะเนื้อปลาให้พร้อมกับหลั่งน้ำตาด้วยความสงสารตน เพราะที่ผ่านมาต้องอด ๆ อยาก ๆ ไม่ได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
ล่าสุด นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่มารับแม่และเด็กชาย ผู้เสียหาย ไปนอนพักค้างที่มูลนิธิปวีณาภายในคืนนี้ และในเช้าวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค. 61) จะเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีอดีตสามี และแม่เลี้ยง
แม่ของเด็กชาย 14 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวคนโต ไปอยู่กับพ่อ และแม่เลี้ยง ก็เคยถูกทำร้ายลักษณะเดียวกัน แต่ลูกสาวไม่เล่าให้ฟัง เพราะเกรงว่าน้องชายจะถูกทำร้ายด้วย กระทั่งลูกชายถูกทำร้าย จนทนไม่ได้ จึงปั่นจักรยานหลบหนี โดยตนจะดำเนินคดีกับอดีตสามี และภรรยาใหม่ของอดีตสามี ให้ถึงที่สุด รวมทั้งจะร้องเรียนผู้บังคับบัญชาอดีตสามีถึงพฤติกรรมความโหดร้ายที่ทำทารุณกรรมลูกชายด้วยเช่นกัน