ทมยันตี นักเขียนดังเจ้าของผลงาน คู่กรรม ทวิภพ เสียชีวิตแล้ว

13 ก.ย. 64

13 ก.ย. 64 ทมยันตี เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ศิลปินเเห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2555 นักเขียนชื่อดังจากโลกนี้ไปอย่างสงบในวัย 85 ปี เบื้องต้นครอบครัวระบุว่า นอนหลับไปเฉยๆ ทราบเรื่องเพราะมีคนเอาอาหารไปให้ แต่เจ้าตัวไม่ตื่นขึ้นมา

ทั้งนี้ ทมยันตี เป็นหนึ่งในนามปากกาของ คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ นักประพันธ์นวนิยายชาวไทยที่มีชื่อเสียง เเละสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นคุณูปการเเก่วงการจำนวนมาก ซึ่งถูกนำมาทำเป็นละครเเละภาพยนตร์ มากมาย อาทิ คู่กรรม, ทวิภพ, ค่าของคน, อุบัติเหตุ, ดาวเรือง, ล่า, เวียงกุมกาม, นากพัทธ์, พิษสวาท, ดั่งดวงหฤทัย, คำมั่นสัญญา, พี่เลี้ยง, เลือดขัตติยา, ใบไม้ที่ปลิดปลิว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจาก ทมยันตี คุณหญิงวิมล ยังมีนามปากกาอื่นๆที่เป็นที่รู้จัก ทั้ง ลักษณวดี, กนกเรขา, โรสลาเรน, วัสสิกา และ มายาวดี

สำหรับประวัติของ ทมยันตี มีชื่อจริงว่า คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ ชื่อเล่นว่า อี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จังหวัดพระนคร เป็นบุตรีคนใหญ่ของทองคำ และไข่มุก ศิริไพบูลย์ มีพี่ชายหนึ่งคน และมีน้องสาวหนึ่งคน ตระกูลฝ่ายบิดาเป็นทหารเรือ ตระกูลฝ่ายมารดาเป็นชาววัง

วิมล จบการศึกษาระดับประถมและมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ จากนั้นศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายหลังเปลี่ยนมาศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอเป็นนักโต้วาทีของมหาวิทยาลัย ร่วมทีมกับสมัคร สุนทรเวช และชวน หลีกภัย เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือในห้องสมุดหลายแห่ง เธอตัดสินใจไม่ไปสอบเพื่อรับปริญญา ทำให้เธอสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาแทน ในขณะศึกษาระดับชั้นปีที่สาม เพื่อนของเธอได้ชักชวนให้ไปสมัครเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยและวิชาประวัติศาสตร์ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ เธอจึงลาออกเพื่อไปประกอบอาชีพครู และเขียนหนังสือไปพร้อม ๆ กัน ต่อมาเธอจึงเลิกสอนหนังสือและหันมาเขียนหนังสือเพียงอย่างเดียวจนถึงปัจจุบัน

วิมล เริ่มเขียนเรื่องสั้นเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยม 4 ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ศรีสัปดาห์ และได้เขียนเรื่องสั้นต่อเนื่องอยู่ถึง 11 ปี ขณะที่เริ่มเขียนเรื่องยาวเรื่องแรกคือเรื่อง ในฝัน เมื่ออายุ 19 ปี ใช้นามปากกา โรสลาเรน ตีพิมพ์ในนิตยสารศรีสัปดาห์

วิมล ได้ชื่อว่ามีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับฝ่ายทหาร และมักสนับสนุนระบอบทหาร โดยเฉพาะในช่วงเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 วิมลมีบทบาทเป็นแกนนำสำคัญของชมรมแม่บ้าน ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของภรรยาข้าราชการ ภรรยานายพลและแม่บ้าน กับทั้งเคยปราศรัยโจมตีขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยว่าเป็นผู้บ่อนทำลายมิตรประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว วิมลได้รับแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ในปีถัดมา วิมลได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, ปี พ.ศ. 2522 เป็นสมาชิกวุฒิสภา, และปี พ.ศ. 2527 ได้เป็นผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

หลังจากเลิกเป็นครูแล้ว วิมลสมรสกับสมัคร กล่าเสถียร ต่อมาได้หย่าร้างกัน และสมรสครั้งที่สองกับร้อยตำรวจโทศรีวิทย์ เจียมเจริญ มีบุตรชายด้วยกันสามคน เธอใช้ชีวิตสมรสกับสามีระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็เกิดปัญหาอีก ทำให้มีคดีฟ้องร้องกันราวปี พ.ศ. 2523 เพราะปัญหาความแตกร้าวในชีวิตคู่ เธอถูกฟ้องหย่าและถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่น ในขณะที่เธอดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คดีทมยันตี” หรือ “คดีชู้รักบันลือโลก” โดยสามีของเธอได้ฟ้องศาลและขอให้ศาลบังคับให้เธอหย่า พร้อมเรียกค่าเสียหายจากเธอเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่าเธอมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายอื่นจริง ทำให้เธอแพ้คดี จึงต้องแบ่งสินสมรสกับฝ่ายสามี แม้เธอจะได้ร้องขอให้ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้บุตรทั้งสามคนก็ตาม แต่ทรัพย์สินทั้งหมดก็ถูกศาลแบ่งครึ่งตามกฎหมายและถูกขายทอดตลาด เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว วุฒิสภาได้ลงมติให้เธอต้องออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 วิมลได้ฟ้องพันตำรวจเอกศรีวิทย์ เจียมเจริญ อดีตสามี เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเป็นคดีความยืดเยื้อกันไปถึงสามศาลอีกครั้งหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- แม่ “โอ วรุฒ” รับยังแค้น คนหลอกลูกหมดตัว – "ทมยันตี" สวดมนต์อุทิศ ชม “โกโบริ” หน้าหล่อ (คลิป)
- "ทราย เจริญปุระ" นับถือ “โอ วรุฒ” เห็นมาตั้งแต่เรื่อง “คู่กรรม” (คลิป)

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ