จากกรณีหลานชายขู่ขอเงินยายตัวเอง 5,000 บาทเพื่อไปหาแฟนที่เชียงใหม่ ยายมีเงินแค่ 1,000 บาท เตะยายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ล่าสุดยายเสียชีวิต ตำรวจเร่งตามตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้น ตอนขู่ยาย ได้โทรไปหาคนสนิทของยาย ขู่เอาเงินอีก 4,000 บาท ยังหนีหัวซุกหัวซุนนั้น (อ่าน :
รวบหลานทรพี ขู่เอาเงินยายไปหาแฟน ให้ 1 พันไม่พอใจ เตะกลิ้งตกบ้านดับ)
วันที่ 15 ต.ค. 61
นายจั๋นตา ถาวรภัทรอาภรณ์ สามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.61 เวลาประมาณ 10.00 น. นายราเชนทร์ วงค์เมฆ หลานชาย มาขอเงินจำนวน 5,000 บาท จากนางหน่อวาชิ โดยอ้างว่าจะนำเงินไปเป็นค่าเดินทางไปหาแฟนที่ จ.เชียงใหม่ แต่นางหน่อวาชิ มีเงินให้นายราเชนทร์ เพียง 1,000 บาท ทำให้นายราเชนทร์ไม่พอใจ และเตะนางหน่อวาชิ บริเวณชายโครงด้านขวา ทำให้นางหน่อวาชิกลิ้งตกจากบ้านสูงประมาณ 1.4 เมตร และข่มขู่จะฆ่านางหน่อวาชิหากไม่นำเงินมาให้
จากนั้นนางหน่อวาชิจึงให้นายราเชนทร์โทรศัพท์ไปยืมเงินจำนวน 4,000 บาท จากนางศศิพันธ์ ใฝ่การงานกุศล คนรู้จักกันในหมู่บ้าน โดยนางหน่อวาชิเป็นผู้รับรองว่าตนจะชดใช้เงินคืนให้แก่นางศศิพันธ์
พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรัตน์ รองผู้กำกับ.สส.สภ.ขุนยวม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ไชยปราการ สามารถจับกุมตัว นายราเชนทร์ วงค์เมฆ อายุ 21 ปี ชนเผ่ากะเหรี่ยง ผู้ต้องหา ทำร้ายร่างกายยายจนเสียชีวิต และนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ไชยปราการ จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่า ทำร้ายนางหน่อวาชิจริง แต่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ สาเหตุเกิดจากทะเลาะมีปากเสียงกับยายหลายเรื่อง
ล่าสุด ตนได้บอกยายไปเมื่อเดือนที่แล้วว่าจะเดินทางไปทำงานที่ อ.ไชยปราการ ยายไม่ได้ว่าอะไร ตนให้ยายช่วยหาเงินให้เป็นค่าเดินทาง แต่เมื่อยายบอกว่าหาเงินไม่ได้ จึงเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง ตนถูกยั่วโมโหจึงใช้เท้าถีบไปครั้งเดียวจนยายล้มลงไปกับพื้น ตนเห็นยายล้มก็จะนำไปส่งโรงพยาบาล แต่ยายไม่ไป กระทั่งมีญาตินำไปส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นตนก็หาเงินเดินทางไป อ.ไชยปราการ มารู้ภายหลังว่ายายเสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าเคยติดคุกคดียาเสพติด 3 เดือน ออกคุกมา 2 ปี แล้ว
ด้าน
นายศรชัย ประภาประเสริฐกิจ ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ผู้ตายให้ตนพาไปหาหมอ โดยไม่ได้แจ้งกับแพทย์ว่าถูกทำร้ายมา แต่กลับบอกว่าหกล้ม หมอจ่ายยาทาและยากิน และให้กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านไม่ถึง 24 ชั่วโมง ยายก็ร้องว่าเจ็บมาก ตนจึงพาไปหาหมอที่ รพ.ขุนยวม อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ยายหน่อวาชิปวดแผลเป็นอย่างมาก แพทย์จึงฉีดยา 3 เข็ม จากนั้นไม่นานยายก็เสียชีวิต เมื่อตรวจสอบพบว่ามีเลือดออกบริเวณสะโพก และมีแผลปริออกมา
นายศรชัย กล่าวต่อว่า หลานคนนี้ตนก็ไม่ค่อยสนใจ แต่รู้เพียงว่าหลานคนนี้เคยติดยาเสพติด แต่ยายเป็นคนรักหลานมาก จึงปิดบังเรื่องที่หลานติดยากับครอบครัว เพราะกลัวคนในครอบครัวรังเกียจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยากให้หลานกลับมาขอขมาศพ ตนเองไมได้ติดใจเอาความหลานคนนี้ เพราะก็ถือว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน แต่เรื่องของคดีความนั้นจะให้เป็นเรื่องของกฎหมาย