อย่างไรก็ตาม วานนี้ พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง กรณีเหตุการณ์อดีตผกก.โจ้ ใช้ถุงดำครอบหัวผู้ต้องหาคดีเสพติด เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เชิญ นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้มมาให้ ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของคลิปและรายละเอียดทั้งหมด โดยคณะทำงานจะทำการรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ จากนั้นจะเข้าไปแจ้งข้อหากับ ทั้ง 7 นายภายในเรือนจำ ซึ่งจะให้สิทธิ์อดีตตำรวจทั้ง7นาย สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ทุกเรื่อง แต่ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งในการตรวจสอบครั้งนี้ คณะทำงานจะเน้นไปที่การตรวจสอบเพื่อลงโทษทางวินิย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา
ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ที่มีของคลิปเกิดจากความขัดแจ้งของตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดนั้นจะยังไม่มีการตรวจสอบในชั้นนี้ เนื่องจากเป็นคนละประเด็น แต่ยืนยันว่าที่มาของคลิปไม่มีผลต่อการพิจารณาโทษทางวินัยกับอดีตนายตำรวจทั้ง7คน ซึ่งโทษทางวินัยจะพิจารณาเป็นรายบุคคลไปตามพยานหลักฐานและการกระทำ ส่วนการสอบปากคำในวันนี้ หากทนายตั้มปฏิเสธที่จะบอกที่มาของคลิปดังกล่าว ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน เนื่องจากตำรวจมีขั้นตอนการสอบสวน อีกทั้งมีพยานหลักฐานอย่างอื่นประกอบ
ขณะที่วันนี้ ทนายษิทรา เดินทางเข้าพบคณะสอบสวนพร้อมทั้งแสดงทรัมป์ไดร์ฟที่ภายในบรรจุข้อมูลคลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นหลักฐานพฤติกรรมของอดีตตำรวจทั้ง7คน พร้อมยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจ และพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจอยู่แล้ว ส่วนจะมีการเปิดเผยข้อมูลกับสื่อได้หรือไม่นั้นขอปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจนครสวรรค์ส่งสำนวนชันสูตรศพคดี ผกก.โจ้ ให้อัยการแล้ว
- อดีต ผู้กำกับโจ้ รายได้กว่า 600 ล้านจับคดีรถหรู ตร.ส่งป.ป.ช.สอบ รํ่ารวยผิดปกติ
- ทนายความอดีต ผู้กำกับโจ้ ปัดข่าวลูกความป่วยไบโพลาร์ ไม่มีเจตนาฆ่าเหยื่อ คุม 7 ตร.ขังคลองเปรม
Advertisement