กรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพ นักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันวิ่ง แชริตี้ ชลบุรี มาราธอน 2018 ซึ่งจัดการแข่งขันครบทุกระยะตั้งแต่ 42.195 กิโลเมตร, 21 กิโลเมตร, 10.5 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร ออกตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา แต่ปรากฏว่าหลังการแข่งขันเกิดกระแสดราม่า มีนักวิ่งจำนวนมากตำหนิการจัดงานดังกล่าวที่ปล่อยให้นักวิ่งไม่มีน้ำดื่ม ขณะที่บางช่วงมีน้ำแต่ไม่มีแก้วให้ ต้องให้เจ้าหน้าที่รินน้ำจากเหยือก และให้นักวิ่งเอามือมารองน้ำกรอกเข้าปาก (อ่าน :
ผู้จัดงานวิ่งขาดน้ำดื่ม แถลงขอโทษ ชี้คนเยอะ – การจราจรทำล้มเหลว จ่อมอบเงิน รพ. เร็ว ๆ นี้)
วันที่ 16 ต.ค. 61
นายภูมิพัฒน์ เก็งวินิจ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด ตอน ดราม่า "วิ่งมาราธอน" งานกุศลทำคนหวิดตาย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ว่า ตนได้ลงสมัคร วิ่งระยะ 42 กม. ปัญหาแรกที่พบในงาน คือ แผนผังจากแผ่นพับ มีข้อมูลไม่ตรงกับสถานที่จริง ทั้งจุดให้บริการน้ำ อาหาร ปฐมพยาบาล ปัญหาต่อมาคือเรื่องไม่มีน้ำ
โดยเมื่อตนวิ่งไปใกล้ถึงจุดแจกน้ำ กลับได้ยินเสียงตะโกนว่า “ไม่มีน้ำ” และยังได้รับคำแนะนำว่าให้ไปซื้อน้ำจากร้านสะดวกซื้อแทน แต่ขณะนั้นตนคิดว่าตัวเองยังทนไหว จึงไม่ได้ซื้อน้ำจากข้างทาง โดยหวังว่าจะไปรับน้ำที่จุดอื่นแทน แต่ปรากฏว่าจุด อื่น ๆ ก็ไม่มีน้ำให้เช่นกัน หลังจากที่วิ่งระยะทางประมาณ 35 กม. พบว่ามีอาการตะคริวขึ้นที่ขา น่อง ต้นขา หน้าท้อง ทั้งที่ตนเองไม่เคยประสบกับอาการแบบนี้มาก่อน หลังจากนั้นก็ต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 3 วัน เสียค่ารักษาพยาบาลกว่า 69,000 บาท โดยที่ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมารับผิดชอบ
ขณะที่
นางสาวรอฮีมะห์ แยนา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้สัมภาษณ์ในรายการด้วยว่า ตนเองก็ลงสมัครวิ่งมาราธอนในรายการดังกล่าวเช่นกัน พบว่างานวิ่งครั้งนี้แจกน้ำไม่เพียงพอ ซึ่งนอกจากไม่เพียงพอแล้ว ยังมีการแจกน้ำที่ตนไม่เคยพบมาก่อนอีกด้วย ทั้งมีการตั้งถังสีดำบรรจุน้ำไว้ โดยไม่มีอุปกรณ์หรือภาชนะแจกจ่าย นักวิ่งบางคนจึงใช้มือหรือผ้าขนหนูรองน้ำกิน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการแจกน้ำเป็นเหยือก โดยให้คนรุมดื่มจากเหยือกใบเดียวกันถึงประมาณ 10 คน กินวนไปเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกสุขลักษณะ แต่ทุกคนก็จำเป็นต้องทำ เนื่องจากต้องการน้ำมาก
ด้าน
นางวิว (นามสมมติ) ญาติของผู้จัดงาน แชริตี้ ชลบุรี มาราธอน 2018 เปิดเผยว่า กรณีเรื่องเครื่องดื่มไม่เพียงพอกับคนวิ่งนั้น เป็นเพราะไม่มีพนักงานนำน้ำไปวางไว้ตามจุด ซึ่งผู้จัดงานได้เตรียมไว้ ทำให้มีน้ำดื่มไม่เพียงพอ ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งของคนในทีม หรือเป็นหนอนบ่อนไส้ อีกทั้งเวลาส่งน้ำกับช่วงเวลาที่ปล่อยตัวนักวิ่งนั้นคลาดเคลื่อนกัน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องการขนส่งน้ำดื่ม นอกจากนี้ ผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวกลับอ้างว่าติดธุระและไม่ช่วยกันทำงาน
ทั้งนี้ ผู้จัดงานต้องการชี้แจงเรื่องเงินบริจาค แต่ในเกิดกระแสตีกลับในทางลบ ดังนั้นหากชี้แจงไปอย่างไรก็โดนด่าอยู่ดี ทั้งที่กลุ่มของชมรมเคยร่วมจัดงานวิ่งการกุศลมาแล้ว ตนยืนยันว่าการจัดงานครั้งนี้มีความโปร่งใสแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าเงินบริจาคยังอยู่ครบทุกบาททุกสตางค์ เพราะจัดกิจกรรมทุกปี และสามารถมอบเงินบริจาคให้โรงพยาบาลมะเร็งถึง 4 ล้านบาท แต่เหตุการณ์ครั้งนี้อาจต้องขอเวลาทำบัญชีก่อน
นอกจากนี้ การจัดงานที่เกิดขึ้นยังมีปัญหาที่นักวิ่งบางคนไม่ยอมจ่ายเงิน แต่ได้รับเสื้อวิ่งไป คาดว่าข้อมูลที่ส่งมาให้ชมรมไม่ตรงกับข้อมูลจริงของนักวิ่ง ทำให้มีการส่งเสื้อผิดไซซ์ ส่วนจำนวนของนักวิ่ง ตนคิดว่าชมรมมีความมั่นใจว่าสามารถรองรับได้ เพราะจากงานครั้งก่อนมีนักวิ่งประมาณ 12,000 คน จึงคาดว่างานครั้งนี้ จะสามารถจัดงานและรองรับคนได้เพียงพอ