กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก
อาวุธ ตั้ม รวมไทย แชร์คลิปเหตุการณ์ กลุ่มวินรถมอเตอร์ไซค์พูดถึงเรื่องปัญหาของคนขับวินจักรยานยนต์รายหนึ่ง ในเรื่องการซื้อขายเสื้อวิน ที่เก็บเงินรีดไถและเก็บค่าส่วนกลาง และจะทำร้ายร่างกายนั้น โดยคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู เพื่อพูดคุยและหาทางออกร่วมกันถึงปัญหาดังกล่าว (อ่าน :
หนุ่มอัดคลิปแฉ คนร่วมวินเก็บเงินกองกลาง สูญหายไม่ชี้แจง ซ้ำถูกทำร้าย เพื่อนวินโต้ไม่มีใช้กำลัง – ตร.เรียกหาข้อยุติ)
วันที่ 17 ต.ค. 61 ที่เทศบาลบางปู ซอย 77 ซอยการนิคมอุตสาหกรรม บริเวณหน้าปากซอย เป็นที่ตั้งวินนิคมบางปู 77 พบว่า ที่ตั้งวินมีหลังคากระเบื้องคลุม และมีม้านั่ง รวมถึงถังน้ำดื่มและโทรทัศน์ ขณะที่ด้านนอกหลังคา มีม้านั่งแยก โดยจากการสอบถามวินที่นั่งอยู่ ระบุว่า ม้านั่งที่แยกออกจากนอกหลังคา เป็นที่นั่งของกลุ่มวิน ซึ่งไม่จ่ายเงินค่าส่วนกลาง ทั้งนี้ ยังให้ดูยอดค่าใช้จ่ายของวินเมื่อช่วงเดือนกันยายน ซึ่งพบว่าคนที่จ่ายค่าส่วนกลางมีเพียง 15 คนเท่านั้น จากวินทั้งหมด 24 คน
นายไพรทูล โคตุละมา วินจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า วินนี้จะมีคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ทั้งหมด 24 คน ซึ่งแต่ละเดือน ทุกคนจะต้องจ่ายค่าส่วนกลางคนละ 80 บาท เพื่อนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าส่วนกลางอื่น ๆ แต่มีวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ 9 คนไม่ยอมจ่าย หนึ่งในนั้นก็คือนายตั้ม ผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว
นายไพรทูล เล่าว่า วันเกิดเหตุ วานนี้ (16 ต.ค.) ตนไม่อยู่ แต่ทราบมาว่า นายดำ ผู้เรียกเก็บเงิน (ชายมีหนวดในคลิป) โมโหนายตั้มไม่จ่ายค่าส่วนกลาง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้ใช้เงินส่วนกลางได้นำมาสร้างหลังคาเพื่อเป็นจุดตั้งวิน รวมถึงพฤติกรรมที่นายตั้มชอบลัดคิววินรับผู้โดยสารคนอื่น ด้วยวิธีการไปดักรับผู้โดยสารก่อนถึงวินตัวเอง ในระยะห่างประมาณ 400 เมตร จุดใกล้กับใต้สะพานลอย จนนำไปสู่การทะเลาะวิวาท แล้ววันเกิดเหตุ นายดำก็ไม่ทันได้ตบนายตั้ม เนื่องจากมีคนเข้ามาห้ามก่อน
นอกจากนี้ ปกติแล้วนายดำไม่ได้มีพฤติกรรมชอบรีดไถ หรือไล่คนออกจากนอกวิน แต่เพราะนายดำ อยากทราบเหตุผลว่าทำไม 9 คนในวิน ถึงไม่จ่ายค่าส่วนกลาง อีกทั้งนายดำ และนายตั้ม ก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน ซึ่งก็เคยนั่งดื่มสุราด้วยกันด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าหลังจากคลิปดังกล่าวออกไปสู่สังคมออนไลน์ ก็รู้สึกว่าส่งผลไม่ดีต่อวินพวกตน ที่มีภาพลักษณ์การทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ซึ่งตนยืนยันว่า หลังจากเกิดเรื่อง จะไม่ไล่วินเหล่านี้ออก และทุกคนสามารถอยู่ด้วยกันได้ อีกทั้งคงจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า หากทะเลาะเบาะแว้ง ต่อไปคงจะต้องยุบไป
ขณะที่
นายปรีซา ยืนสุข วินจักรยานยนต์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว นายดำไม่พอใจที่นายตั้มเอาเปรียบเพื่อนในวิน ด้วยการไปดักรอลูกค้า รวมถึงนายตั้มไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ซึ่งที่นายตั้มพูดกล่าวอ้างว่า รีดไถเงินนั้น ตนคิดว่าใครจะไปรีดไถเงิน เพราะเงินค่าส่วนกลางก็แค่ 80 บาท และจ่ายเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น โดยเงินดังกล่าว กรรมการวินก็จะเป็นผู้เก็บ และเขียนแจ้งในกระดาษ ซึ่งเงินเหล่านี้ ไม่ได้เอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น เพราะวินตนไม่ได้เป็นธุรกิจพันล้าน ถึงจะนำเงินไปหมุนใช้จ่ายอย่างอื่น
นอกจากนี้
นายปรีชา ยืนยันว่า นายดำไม่ได้เป็นผู้อิทธิพล แต่เหตุที่ไล่นายตั้ม เนื่องจากนายตั้มมีพฤติกรรมจอดดักรับคนด้านหน้าวิน ซึ่งเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมวิน จึงตะโกนไล่ให้ไปอยู่วินอื่น ตามที่ปรากฏในคลิป และวันที่เกิดเหตุ ที่นายดำต่อยนายตั้ม ตนคิดว่านายดำไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งนี้ เรื่องเงินค่าส่วนกลาง 80 บาท ก็อาจจะแล้วแต่นายตั้ม ว่าจะอยู่ต่อและจ่ายเงินหรือไม่ แต่หากต้องการอยู่ที่วินต่อแล้วไม่จ่ายเงิน ตนอาจตะต้องขอห้ามบุคคลที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางเข้ามาในศาลา เนื่องจากพวกตนเป็นคนจ่ายเงิน เพราะจากสิ่งที่นายตั้มกระทำลงไปในวันนั้น กรรมการวินคงไม่กล้าทวงเงินอีกแล้ว
นายอาวุธ รวมไทย หรือ ตั้ม ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า วานนี้ช่วงเช้า เวลาประมาณ 06.30 น. คือตนและกลุ่มวินบางส่วน มีคนไม่เห็นด้วย เรื่องการเก็บเงินค่าส่วนกลางเดือนละ 80 บาท เพราะมีเงินหายไปในแต่ละเดือน ทั้งยัง ไม่มีบัญชีรายรับ-รายจ่าย และหากวินคนใดไม่จ่ายเงิน ก็จะถูกทำร้ายร่างกาย ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงค้านความคิดดังกล่าว ส่วนยอดเงินที่วินเขียนชี้เแจงนั้น ความจริงเพิ่งมีช่วงแค่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่แม้ได้ทำรายรับ-รายจ่าย ตนก็คิดว่าจะไม่จ่ายค่าส่วนกลาง เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าว แอบมาเรียกเก็บเงินตนนอกรอบ 300 บาท ทำให้เรื่องบานปลาย นำมาสู่การทะเลาะวิวาทอย่างที่ปรากฏในคลิป ซึ่งในวันนั้น ตนถูกต่อยบริเวณกกหูด้านซ้าย แต่ไม่ได้บาดเจ็บมากนัก เนื่องจากมีคนห้ามเหตุการณ์ทัน
ส่วนเรื่องเงินสร้างศาลาของวิน ความจริงใช้เงินกองกลางของเดิมจ่าย แต่ต่อมาปลัดสั่งหยุดการก่อสร้าง พวกตนที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลางดังกล่าว และนั่งรอผู้โดยสารนอกวินแทน นอกจากนี้ ตนยืนยันว่า ตั้งแต่ทำงานวินมา 13 ปี ไม่เคยไปลัดคิวเพื่อรับผู้รับโดยสารแน่นอน เนื่องจากตนรักในอาชีพที่ทำอยู่ และเรื่องนี้เป็นกฎของผู้ขับวินจักรยานยนต์รับจ้างด้วย
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่า จะขับวินจักรยานยนต์ที่จุดเดิมต่อไป เพราะเป็นอาชีพที่สามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หลังจากนี้ อาจมีการหาทางออกร่วมกัน คือ นัดประชุมเพื่อแต่งตั้งกรรมการวินชุดใหม่ขึ้นมา ตนก็จะจ่ายค่าส่วนกลาง