พ่อตาแค้น อยากฆ่าหนุ่มซาดิสม์แทงลูกสาว ฉะสันดานขี้คุก–แฉโหด กรีดเสื้อผ้าไม่ให้มีใส่ (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ นายทรงสิทธิ์ โอสถ หรือป๊อก (เสือ) หลังก่อเหตุใช้มีดแทง น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือ ใหม่ แฟนสาว จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งแม่ของนายทรงสิทธิ์ ได้พาขึ้นท้ายรถกระบะ ไปส่งที่คลินิก แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา บนรถกระบะ (อ่าน : แฉหนุ่มง้อแฟนไม่สำเร็จแทงดับ สุดวิตถาร กล้อนผม จับขัง หลอดไฟยัดทวาร สั่งเลียเท้า ) วันที่ 18 ต.ค. 61 รายการต่างคนต่างคิด ตอน ล่าหนุ่มวิตถารหลอดไฟยัดทวาร แทงแฟนดับ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34  ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น. ได้เชิญ ครอบครัวของ น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือ ใหม่ ผู้เสียชีวิต เข้ามาร่วมพูดคุยในรายการ คุณอริสรา รวมอยู่ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่สาวเคยเล่าให้ฟังว่า ฝ่ายชายเป็นคนที่มีคดีติดตัว และเคยเข้าคุกประมาณ 5 ครั้ง ซึ่งมีคดีฆ่าคนตายด้วย แต่พี่สาวก็ให้เหตุผลในการคบกับผู้ชายคนนี้ว่า อยากลองให้โอกาสเขาดูสักครั้ง และอย่ามองคนที่ภายนอก

จ่าสิบเอกปรีชา รวมอยู่ พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เรื่องโพสต์เฟซบุ๊ก ที่ตนโพสต์ว่า “ชีวิตมันก็ต้องแลกด้วยชีวิต” ที่เป็นประเด็นอยู่นั้น ตนยอมรับว่า คิดอย่างไรก็โพสต์ไป เพราะหัวอกของผู้เป็นพ่อ ตนเลี้ยงลูกสาวมาด้วยความรัก ขนาดตอนข้ามถนน ยังต้องจูงมือลูก จะตีลูกแต่ละครั้ง ก็ยังรู้สึกช้ำใจ แล้วนายเสือ หรือนายป๊อก เป็นใคร ถึงทำร้ายลูกของตนได้ขนาดนี้ คนที่เข้าออกคุกออกตารางเป็นว่าเล่น สังคมคงได้ประจักษ์แล้วว่า คุกอาจไม่สามารถกล่อมเกลาให้เป็นคนดีได้ เพราะคนดี หากพลาดพลั้งเข้าคุกไป เพียงครั้งเดียวก็น่าจะเข็ดหลาบ ซึ่งตนไม่ใช่นักเลง เป็นเพียงพ่อผู้สูญเสียลูกสาวไปเท่านั้น

แต่ตนต้องขอบคุณน้ำใจของคนไทย เพราะหลังจากที่ตนโพสต์ข้อความดังกล่าวในเฟซบุ๊ก จึงได้มีประชาชนเป็นจำนวนมาก ออกมาให้กำลังใจ บางคนถึงกับโทรศัพท์มาถามไถ่ ขณะนี้อารมณ์เย็นขึ้นแล้ว และไม่เอาอนาคตของตนเข้าไปแลกชีวิตของคนอย่างนั้นแล้ว เรื่องจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเวรกรรมแทน

นอกจากนี้ จ่าสิบเอกปรีชา รวมอยู่ พ่อผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม หลังออกอากาศรายการต่างคนต่างคิดว่า ครอบครัวตกลงกันว่า จะดำเนินการทางกฎหมายกับนายเสือ หรือ นายป๊อก ให้ถึงที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นการจัดงานศพของลูกสาวแล้ว ทั้งนี้ ลูกสาว มีลูก 2 คน กับสามีเก่า คนโตอายุ 10 ขวบ คนเล็กอายุ 5 ขวบ โดยลูกคนโตทราบแล้วว่าแม่เสียชีวิต และเด็กรู้สึกเสียใจร้องไห้ คิดถึงแม่ ตนรู้สึกสงสารหลาน เพราะจะไม่มีแม่แล้ว ครอบครัวก็ได้ช่วยกันปลอบ ส่วนลูกอายุ 5 ขวบ ยังไม่ทราบว่าแม่เสียชีวิต ขณะนี้ เด็กทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของคุณยายมาตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อ น.ส.ใหม่ เสียชีวิตไปแล้ว คุณยายก็จะทำหน้าที่ดูแลเด็กทั้ง 2 คนต่อไป ทั้งนี้ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เป็นพิธีสวดอภิธรรมศพของ น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือ ใหม่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ด้าน พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ระบุถึงความคืบหน้าในคดีว่า สำหรับกรณีที่นางรำเพย แม่ของผู้ต้องหา แจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลคลินิกแห่งหนึ่งว่า น.ส.ใหม่ ประสบอุบัติเหตุมานั้น เนื่องด้วยนางรำเพย ยอมรับว่าเป็นเพราะกลัวความผิด และกลัวว่าลูกชายจะต้องได้รับโทษ หรือโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงไม่ยอมแจ้งคลินิกว่าผู้ตายถูกแทงมาก่อน ทั้งนี้ เมื่อพยาบาลเข้าไปตรวจชีพจร จึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ยืนยันว่า นางรำเพยไม่ได้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ได้พบ และพูดคุยกันกับนางรำเพยในที่เกิดเหตุ กระทั่งเข้าสู่กระบวนการซักถาม และทราบว่าลูกชายของนางรำเพยทำร้ายร่างกายน.ส.ใหม่ จริง ประกอบกับผลชันสูตรพลิกศพของแพทย์ที่จุดเกิดเหตุ ระบุว่าผู้ตายไม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มาเช่นกัน แต่มีร่องรอยบาดแผลที่ถูกอาวุธมีดแทงที่บริเวณราวนมฝั่งซ้าย จนตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต

พ.ต.อ.สมิทธิ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องอาวุธมีดของผู้ต้องหา ยังไม่แน่ชัดว่านางรำเพยมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาเป็นคนที่มีคดีติดตัวค่อนข้างโชกโชน ซึ่งอาจพกมีดในลักษณะนี้เป็นประจำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับแม่ของนายป๊อก เพราะต้องรอการสอบปากคำเพิ่มเติม และรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วจึงจะสรุปผลอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้กันนางรำเพยไว้เป็นพยาน ส่วนประเด็นเรื่องเพื่อนผู้ตายให้ข้อมูลว่า ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้ตายก่อนที่ผู้ตายจะหลบหนีนั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่น่าจะใช่เรื่องจริง เพราะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าผู้ตายถูกทำร้ายร่างกายมาก่อนหน้านี้ โดยวันที่ผู้ตายเสียชีวิต ผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ ไม่พบร่องรอยที่ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย หรือทารุณกรรม พบเพียงรอยบาดแผลที่ผู้ตายถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้ ยังไม่เคยพบว่าผู้ตายมีประวัติการแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน ซึ่งครอบครัวของผู้ตายก็มีหน้าที่การงานดี ไม่น่าจะยินยอมให้ผู้ตายมาถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงแจ้งข้อหาต่อนายทรงสิทธิ์ โอสถ ผู้ต้องหา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรัดติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ด้าน นางทับทิม (นามสมมติ) เพื่อนบ้านอีกรายหนึ่งซึ่งเป็นช่างเย็บผ้า เล่าว่า ก่อนจะเกิดเหตุ น.ส.ใหม่ ได้นำเสื้อผ้ามาให้ตนช่วยเย็บซ่อมแซม เมื่อได้รับเสื้อ และคลี่เสื้อผ้าออกดู จึงพบว่ามีร่องรอยของมีคมกรีด ถูกฉีกขาดค่อนข้างเยอะ เมื่อตนถามว่า เหตุใดเสื้อจึงขาดเยอะขนาดนี้ น.ส.ใหม่ ก็บอกว่า ทะเลาะกับแฟนมา แฟนเวลาโมโหจะทำลายเสื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้าขาดเยอะเป็นตะกร้า ทั้งยัง น.ส.ใหม่ บอกอีกว่า เสื้อผ้าราคาสูง หากจะทิ้งก็เสียดาย แล้วอาจจะไม่มีเสื้อผ้าใส่ จึงนำมาเย็บที่ร้าน

ทั้งนี้ ตนยังไม่ทันได้นับว่าเสื้อผ้ามีทั้งหมดกี่ชิ้น ก็มารู้ว่าเขาเสียชีวิตก่อน จึงรีบนำผ้าไปส่งที่บ้านหลังดังกล่าว โดยเอาเสื้อผ้าของ น.ส.ใหม่ ให้ไว้กับยายของ น.ส.ปุ้ย เพื่อนสนิท แล้วบอกยายว่า เสื้อผ้าที่เขามาฝากไว้กับตน ให้เอาไปจุดธูปแล้วบอกเขาด้วยนะ ว่าหนูไม่เอาตังค์จะได้ไม่เป็นหนี้บุญคุณกัน