ตำรวจภูธรภาค 3 ชี้แจงการใช้ รถตู้ตำรวจ ของสภ.พลกรัง โดยยืนยันว่าเป็นการใช้เพื่องานของราชการ โดยเดินทางจาก จ.นครราชสีมา ไปจับกุมผู้ต้องหาที่ จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้บันทึกภาพ และโพสต์ข้อความเกี่ยวกับรถตู้ของ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา ที่หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการนำรถของทางราชการไปใช้ส่วนตัวหรือไม่
ล่าสุดวันที่ 20 กันยายน 2564 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ชี้แจงว่า เป็นการใช้รถตู้ของ สภ.พลกรัง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ซึ่งตำรวจสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยอาสาสมัครพลเรือนเดินทางจาก จ.นครราชสีมา ไปจับกุมผู้ต้องหาที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง 2 แม่-ลูก เสียชีวิตที่ จ.นครราชสีมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน
ตามที่สื่อมวลชนและสังคมออนไลน์เสนอข่าวและโพสต์ข้อความว่า มีการนำรถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง จ.นครราชสีมา บรรทุกคนมาเที่ยวที่หาดชะอำ เป็นการนำรถของทางราชการมาใช้ส่วนตัวหรือเปล่า ซึ่งต่อมาพล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ระบุว่าได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
และในวันที่ 20 กันยายน 2564 สื่อ-สร้าง-สาร ตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 เวลาประมาณ 06:30 น. เกิดเหตุอุกฉกรรจ์มีการยิงกันตายกลางเมืองนครราชสีมา ต่อมาทราบว่า นายไสว อดีตนายก อบต.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ใช้อาวุธปืนยิงนางวนิดา เสตะปุตตะ อดีตสมาชิกอบจ. เขต 5 จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นภรรยาของนายไสว และนายเจษฎา เสตะปุตตะ อดีตเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อบต.บ้านเกาะ บุตรชายของนางวนิดา เสียชีวิตรวม 2 ศพ แล้วหลบหนี
เหตุเกิดที่ร้านอาหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ศาลจังหวัดนครราชสีมาออกหมายจับที่ 134/2554 ไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายไสวมาโดยตลอด
ผ่านไป 10 ปี จนเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 นายไสว ได้โทรติดต่อหา พ.ต.ท.พรเทพฯ (ขอใช้นามสมมุติเพื่อประโยชน์ทางการสืบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทางแอปพลิเคชันไลน์บอกว่า ขณะนี้พักอาศัยและทำงานอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี กำลังมีปัญหากับญาติของตนเองอยากให้ พ.ต.ท.พรเทพ มารับเพื่อจะย้ายที่พักอาศัยโดยขอให้ไปส่งที่ จ.ปทุมธานี และขอให้ พ.ต.ท.พรเทพ ใช้รถยนต์ตู้ตำรวจมารับเพื่อไม่ให้ถูกสงสัยในระหว่างเดินทางหากพบเจอด่านตรวจและภายในรถขอให้มี พ.ต.ท.พรเทพ คนเดียว ส่วนคนที่เหลือในรถขอให้เป็นชาวบ้านทั่วไปเพราะให้ดูเหมือนมาท่องเที่ยว ประกอบกับคลางแคลงใจว่าอาจจะถูก พ.ต.ท. พรเทพตลบหลังจับกุมได้
พ.ต.ท.พรเทพ จึงได้แจ้งให้ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ ไสยบุญ ผกก.สภ.พลกรัง เพื่อทราบและทำหนังสือขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อใช้เดินทางไปจับกุมตัวนายไสวในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พรเทพ ก็ได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมให้ข้อมูลของนายไสวทั้งหมดไว้ด้วย และหากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ของตำรวจภูธรภาค 8 สามารถจับกุมได้ก่อนที่พ.ต.ท.พรเทพ จะเดินทางถึงก็ให้จับกุมได้ทันทีไม่ต้องรอกัน
ต่อมาวันที่ 15 กันยายน 2564 พ.ต.ท.พรเทพ พร้อมอาสาสมัครพลเรือนใช้รถยนต์ตู้ของ สภ. พลกรัง หมายเลขทะเบียน ฮษ 8452 กรุงเทพมหานคร เดินทางไป จ.สุราษฏร์ธานี
จนกระทั่งวันที่ 16 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 12:00 น. ถึงพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ของตำรวจภูธรภาค 8 ว่า สามารถจับกุมตัวนายไสว ได้แล้ว
พ.ต.ท.พรเทพ จึงได้แจ้งให้ตำรวจสืบสวน ของตำรวจภูธรภาค 3 ทราบเพื่อให้เดินทางไปรับตัวนายไสว เมื่อประสานต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว พ.ต.ท.พรเทพ จึงเดินทางออกจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกลับ จ.นครราชสีมา
จนกระทั่งวันที่ 17 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 11:00 น. ระหว่างเดินทางกลับ พ.ต.ท.พรเทพ และอาสาสมัครพลเรือนจึงแวะทานอาหารกลางวันกันที่หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งก็ปรากฏตามวิดีโอที่มีผู้ถ่ายและโพสต์นั้น
การชี้แจงข้างต้นยืนยันว่า เป็นการใช้รถยนต์ตู้ของ สภ.พลกรัง เพื่องานของทางราชการโดยมิได้ใช้เป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด มีเอกสารหลักฐานประกอบการชี้แจงทั้งหมด เช่น เอกสารการขออนุมัติใช้รถยนต์ตู้เพื่อไปสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับและเอกสารการสื่อสารต่าง ๆ ระหว่าง พ.ต.ท.พรเทพกับนายไสวผู้ต้องหา และพ.ต.ท.พรเทพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 ทั้ง ก่อน-ขณะ-หลังจับตัวนายไสว ผู้ต้องหา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สั่งสอบตำรวจโคราช ใช้รถหลวง ขนครอบครัวไปเที่ยวชะอำ
- ตำรวจใช้รถหลวงไปงานหมั้นสาวไม่ผิด พบขออนุญาต จบงานล้างคืนไร้รอยชน (คลิป)
- ตำรวจแจงขายกระท่อมไม่ผิด แค่ไปนั่งเซลฟี่หวังช่วยแม่ค้า บิ๊กกากีติงอย่าหาทำ (คลิป)