บุกกุฏิพระลงนะปิดทองเนินนมสาว อ้างแค่เพื่อนสนิท วัดดังคาดโทษชี้ไม่ถึงขั้นสึก (คลิป)

กรณีชาวบ้านในพื้นที่เชียงใหม่ ร้องเรียนว่าพบพระหนุ่มในวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งตัวเป็นจอมขมังเวทย์ เปิดกุฏิเป็นสำนักรับปลุกเสกเครื่องรางของขลัง และทำพิธีกรรมต่าง ๆ ด้วยการสัมผัสร่างกายสีกา โดยเฉพาะภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาทางโซเชียลมีเดีย อย่างการทำพิธี "ลงนะหน้าทอง" บริเวณหน้าอก ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม

นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กของพระหนุ่มรูปดังกล่าว ยังมีการโพสต์ภาพถ่ายของตัวเองในอิริยาบทต่าง ๆ ที่ไม่สำรวม และยังพบว่าเว้นจากการโกนคิ้ว โกนหนวด เหมือนพระสงฆ์อีกด้วย ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ชาวจ.เชียงใหม่ วิงวอนเรียกร้องให้คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมของพระรูปดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่าพระหนุ่มรูปดังกล่าวมีชื่อว่า "พระตั้ว" หรือที่หลายคนเรียกว่า "ครูบาเกม" จากข้อมูลพบว่าเป็นพระลูกวัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่ตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อช่วงปลายเดือนส.ค.64 ที่ผ่านมา กรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดและพระอีกหลายรูปตั้งวงสังสรรค์ดื่มเบียร์และกินหมูกระทะในยามวิกาล

ล่าสุดวันที่ 21 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกลับไม่พบพระรูปดังกล่าวแล้ว คาดว่าหลังจากที่มีกระแสข่าวออกมา "พระตั้ว" ได้หายออกจากวัดไปโดยไม่มีใครทราบ

ทีมข่าวได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปสำรวจบริเวณกุฏิพระตั้ว พบว่าเป็นตึกเดียวกับที่เกิดเหตุไฟไหม้ไปก่อนหน้านี้ สภาพภายในตึกค่อนข้างรก และมีคราบฝุ่น ซึ่งทีมข่าวได้ขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 จะมีทางเดินไปอีกโซนหนึ่ง ทีมข่าวได้พบห้องคล้ายห้องพักที่มีห้องน้ำอยู่ในตัว ไม่มีเตียงนอน มีแต่ข้าวของเครื่องใช้พวกผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม รวมไปถึงยังมีในส่วนของโต๊ะทำงานที่ทีเอกสารกองอยู่ โดยข้าง ๆ กันจะมีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ ทีมข่าวเปิดไปดูพบว่ามีหม้ออบ ที่ข้างในมีเทียนอยู่ภายใน นอกจากนี้ ภายในตู้ยังมีเสื้อผ้าอยู่บางส่วนด้วย

ต่อมาทางทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับทางพระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า ธีรสังวโร) เจ้าอาวาสวัดผาลาด ต.สุเทพ จ.เชียงใหม่ รักษาการเจ้าอาวาสวัดปันเสา กล่าวว่า อาตมาก็เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสคนเก่า เบื้องต้นข้อมูลที่ได้รับรายงานนั้น อาตมาสั่งให้เรียกพระลูกวัดรูปดังกล่าวมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางพระตั้วยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นช่วงประมาณต้นเดือนส.ค.64 ซึ่งเป็นช่วงที่เพื่อน ๆ ของพระตั้ว เดินทางเข้ามาเยี่ยม แล้วประจวบเหมาะกับพระตั้ว ก่อนที่จะบวชเคยเรียนวิชาลงของ และเรื่องราวของขลังมาก่อน เมื่อมาเจอหน้าเพื่อน ๆ ก็เลยขอให้ลงนะหน้าทอง จึงไม่ใช่การเปิดสำนักหรือเปิดวัดลงนะหน้าทอง ซึ่งพระตั้ว ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดี

แต่ทั้งนี้ก็ได้กล่าวตักเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจจะเกิดจากความคิดน้อย และเกิดจากคำว่าไม่เป็นอะไร จนเกิดเป็นเรื่องราวดราม่าขึ้นมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ข้อสรุปว่าพระอาจารย์ยังคงให้ "พระตั้ว" ปฎิบัติถือศีลและจำพรรษาที่วัดจนถึงวันออกพรรษา ไม่ได้มีบทลงโทษถึงขั้นจับสึกหรือดำเนินการลงโทษตามวินัยสงฆ์แต่อย่างใด เพราะตรวจสอบแล้วน่าจะเป็นภาพเก่าที่เพิ่งนำมาโพสต์ เนื่องจากดูจากรูปแล้วไม่มีพื้นที่ไหนในวัดปันเสา คล้ายเคียงกับในรูปที่เผยแพร่

ขณะที่พระอาจารย์ ก็ได้ทำทัณฑ์บนกับพระรูปดังกล่าวเอาไว้แล้ว พร้อมร่างสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้กับทางพระรูปดังกล่าวเซ็นเพื่อยืนยันว่าจะไม่ทำพฤติกรรมดังกล่าวอีก ขณะที่สำนักพระพุทธจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้เข้ามาดูและตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หากมองในตามหลักของพระพุทธศาสนาแล้ว อาจจะบอกได้ว่าไม่เหมาะสม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นกับแต่ละบุคคลที่เคารพและศรัทธา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ละบุคคล

ด้านพระบุญคำ พระลูกวัดปันเสา ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวไม่ได้รู้จักพระตั้วเป็นการส่วนตัว ทราบเพียงว่ามาขอจำวัดช่วงเข้าพรรษากับอดีตเจ้าอาวาสรูปก่อน ช่วงเดือนก.ค.64 ที่ผ่านมา อีกทั้งพระรูปดังกล่าวอยู่ที่วัดจะไม่ค่อยสุงสิงกับพระรูปอื่น ๆ รวมไปถึงไม่ค่อยร่วมกิจกรรมของสงฆ์ที่วัดจัดให้ พระตั้วจึงค่อนข้างเงียบ ๆ

ส่วนกรณีที่มีการการเปิดกุฏิเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามที่เป็นข่าวนั้น อาตมาไม่ทราบเรื่อง และไม่เคยเห็น เชื่อว่าภาพดังกล่าวไม่ใช่น่าจะใช่พื้นที่ภายในวัดปันเสาอย่างแน่นอน ส่วนญาติโยมที่มาหา อาตมาก็ไม่ค่อนเห็น นาน ๆ ครั้งจะมีโยมมาหาพระตั้ว โดยรวมเรื่องดังกล่าวไม่ได้ผิดเสียหมด จะผิดก็แค่ตัวบุคคลมากกว่า เพราะการลงนะหน้าทองก็แล้วแต่บุคคลจะมอง อาตมาไม่สามารถตอบได้ หลังจากเกิดเรื่องอาตมาก็ไม่ได้เจอพระตั้ว 2 วันแล้ว