แม่หนุ่มแทงแฟนสาวโต้ลูกซาดิสม์ จับกล้อนผมให้เลิกเที่ยว - พ่อตาฉะไร้สำนึก จี้มอบตัว (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับนายทรงสิทธิ์ โอสถ หรือ ป๊อก หรือ เสือ หลังก่อเหตุใช้มีดแทง น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือ ใหม่ แฟนสาว จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งนางลำเพย มูลอุ่น อายุ 51 ปี แม่ของนายทรงสิทธิ์ ได้พาขึ้นท้ายรถกระบะไปส่งที่คลินิก พร้อมกับอ้างว่าน.ส.ใหม่ ถูกรถชน สุดท้ายผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา (อ่าน : พ่อตาแค้น อยากฆ่าหนุ่มซาดิสม์แทงลูกสาว ฉะสันดานขี้คุก–แฉโหด กรีดเสื้อผ้าไม่ให้มีใส่)

วันที่ 19 ต.ค. 61 นางลำเพย มูลอุ่น แม่ของนายทรงสิทธิ์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนแจ้งพยาบาลว่า น.ส.ใหม่ ประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่รู้ว่า น.ส.น้ำไปแจ้งพยาบาลว่าอะไรบ้าง ซึ่งการที่กล่าวหาว่าตนเองหนี และทิ้งศพไว้ที่หน้าคลินิกนั้นไม่ใช่ความจริง เพราะตอนไปที่คลินิก น.ส.ใหม่ยังมีลมหายใจ ตนจึงบอกให้เจ้าหน้าที่คลินิกช่วยเรียกรถพยาบาลมาให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่ารถพยาบาลจะมารับภายใน 15 นาที ตนจึงตั้งใจว่าจะรอรถพยาบาลมารับ เพราะหากตนไปส่งเอง คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานกว่านี้ นางลำเพย กล่าวต่อว่า เมื่อรถกู้ภัยมาถึง ตนก็ยังยืนรออยู่ที่คลินิกไม่ได้หลบหนีไปไหน กระทั่งเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยจับชีพจรก็พบว่าไม่มีชีพจรแล้ว ตนก็ไม่คาดคิดว่า น.ส.ใหม่จะเสียชีวิต เพราะเห็นว่ามีบาดแผลเล็กน้อย ส่วนเรื่องเสื้อของผู้ตายถูกถกขึ้นมาจนถึงราวหน้าอก ตนเองไม่ทันได้สังเกตว่าถกขึ้นมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ หรือมีการยื้อแย่งทะเลาะวิวาทกัน ทำให้เสื้อถกขึ้นมาหรือไม่

สำหรับเรื่องที่ลูกชายตนถูกกล่าวหาว่าชอบทำร้ายร่างกายแฟนสาว ยืนยันว่าลูกชายไม่ใช่คนซาดิสม์ หรือโรคจิตวิปริต อย่างมากก็ทะเลาะกันบ้าง ส่วนเรื่องที่เพื่อนน.ส.ใหม่ อ้างว่ามีการใช้หลอดไฟยัดรูทวารหนัก ตนตั้งข้อสังเกตว่า หากทำแบบนั้นจริง หลอดไฟจะไม่บาดอวัยวะภายในก่อนหรือ นอกจากนี้ นางลำเพย ระบุว่า ลูกชายตนจับแฟนสาวตัดผมสั้นจริง แต่ไม่ใช่การกล้อนผมตามที่ถูกกล่าวอ้าง เนื่องจากน.ส.ใหม่ชอบแอบหนีเที่ยว ส่วนกรณีที่ลูกตนเข้าออกคุกเป็นประจำ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง บางครั้งก็โดนจับคดียาเสพติด คดีฆ่าคนตายและคดีที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้ ตนรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย เพราะถูกพ่อของน.ส.ใหม่โพสต์ข่มขู่ ทำให้ตนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตนเข้าใจความรู้สึกของครอบครัวผู้ตายดีว่าคงรู้สึกแค้น ตนก็อยากให้ลูกชายมามอบตัวดีกว่าให้ถูกตามล่า แต่ยังติดต่อลูกไม่ได้ อย่าไรก็ตาม รู้สึกกลัวครอบครัวของอีกฝ่าย เนื่องจากถูกอีกฝ่ายขับรถตามไปจนถึงบ้าน แล้วยังตะโกนว่า "ระวังตัวให้ดี กูเอามึงแน่"

ด้าน จ่าสิบเอกปรีชา รวมอยู่ พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เรื่องที่นางลำเพยอ้างว่าตนขับขี่รถไล่ตามเจ้าตัวนั้น ตนไม่ได้ขับรถไล่ตาม เพียงแต่ขับไปดูสถานที่เกิดเหตุ อีกทั้งเพื่อนบ้านเป็นคนบอกตนว่า บ้านหลังไหนเป็นบ้านของนายเสือ เมื่อตนเจอนางลำเพยก็ได้พูดเจรจากับอีกฝ่ายว่า “นี่คือการเจรจานะ เอาลูกมามอบตัว” ซึ่งขอยืนยันว่าไม่มีการข่มขู่จนเขารู้สึกกลัว ส่วนเขาจะกินนอนไม่ได้ เพราะรู้สึกกลัวครอบครัวตนจะไปทำร้ายนั้น ตนคิดว่านั่นเป็นความคิดของเขาเพียงฝ่ายเดียว เพราะหลังจากวันนั้น คนในครอบครัวตนก็ไม่มีใครไปหาเขาที่บ้านอีก ซึ่งตนก็อยากขอให้คนที่มีปัญญา ใช้สติพิจารณาดูว่า หากเกิดเหตุอย่างนี้จริง ทำไมไม่เรียกตำรวจมาจับผู้ก่อเหตุ เพราะจะต้องไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และหากเรื่องนี้ตนไม่ผิด ตนจะฟ้องกลับฝ่ายที่กล่าวหาตนแน่นอน

จ่าสิบเอกปรีชา กล่าวต่อว่า หากนางลำเพยอยากที่จะมาร่วมงานศพของลูกสาวตน ครอบครัวก็ยินดี เพราะตระกูลของตนมีจรรยาบรรณ มีฐานะและหน้าที่การงานดี จึงรู้ผิดชอบชั่วดี ตนขอรับรองด้วยเกียรติว่าไม่มีใครจะทำร้ายข่มขู่ได้แน่นอน ส่วนใครจะด่าว่าเจ้าตัวก็สิทธิ์ของคนอื่น ซึ่งส่วนตัวตนก็ยังไม่ให้อภัย เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ตนพูดจริง ไม่มีใครที่สูญเสียลูกแล้วจะมานั่งอมยิ้มได้ ส่วนกรณีที่นางลำเพยอ้างว่าครอบครัวตนไม่ยอมรับในตัวลูกสาวตน เพราะมีปัญหาภายในครอบครัว ทำให้ลูกไม่กล้ากลับมาที่บ้านนั้น ยืนยันว่าคนในครอบครัวตน หากใครจะไปอยู่บ้านใคร ก็ไปได้หมด ทุกคนรักใคร่กลมเกลียว ไม่มีใครไม่ต้อนรับลูกสาวกลับบ้าน มีแต่อยากจะเอาลูกกลับมาอยู่บ้าน