ย้อนรอยแม่จูงลูก 3 ขวบก่อนฆ่า เพื่อนบ้าน ชี้วางแผน พูดชัด “จะทำให้พ่อมันอกแตกตาย” (คลิป)

จากกรณีพบศพ ด.ช.ไทเกอร์ อายุ 3 ขวบ เสียชีวิตปริศนาอยู่ในท้องนา ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมกับญาติ ซึ่งยืนยันว่าเป็นน้องไทเกอร์ ที่หายไปกับแม่ก่อนหน้านี้ ศพอยู่ในสภาพลอยอืดสวมใส่เสื้อสีแดง ไม่สวมกางเกง เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1-2 วัน โดยมีข้อสันนิษฐานว่าแม่จะเป็นผู้ทำร้ายจนเสียชีวิตหรือไม่นั้น (อ่าน : แม่เด็ก 3 ขวบ พาชี้จุดพบศพ “น้องไทเกอร์” ในป่ากก ปัดทำลูกตาย – ตร.จ่อแจ้งข้อหา)

วันที่ 19 ต.ค. 61 ที่สถานีรถไฟภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา นายเชิดชัย อุดมทรัพย์ หรือ กบ คนเฝ้าห้องน้ำประจำสถานีรถไฟภาชี เล่าว่า วันที่ 14 ต.ค. 61 เวลา 10.00 น. ตนเห็นนางรุ่งทิพย์กับลูกชายวัย 3 ขวบ สวมเสื้อสีแดง นั่งอยู่บริเวณเก้าอี้ข้างป้อมตำรวจใกล้กับห้องน้ำ นางรุ่งทิพย์มีลักษณะเหมือนคนเมา ดูหงุดหงิดและไม่พูดไม่จากับใคร อีกทั้งยังดูเหมือนคนเครียด ซึ่งตนไม่กล้าเข้าใกล้ แต่สังเกตว่านางรุ่งทิพย์ไม่ได้มีของกินให้ลูกกิน มีเพียงน้ำเปล่าขวดเล็กขวดเดียว

นายเชิดชัย เล่าต่อว่า นางรุ่งทิพย์พาลูกมาอุจจาระที่พื้น บริเวณข้างห้องน้ำ ตนจึงเข้าไปห้าม เนื่องจากกลัวว่าจะสกปรก และบอกไปว่าเดี๋ยวตำรวจจะมาต่อว่า นางรุ่งทิพย์มีท่าทีหงุดหงิดและนำกางเกงของลูกชายไปยัดทิ้งในบ่อของเสีย ที่บริเวณหลังป้อมตำรวจ ก่อนที่จะพาลูกเดินผ่านห้องน้ำไป โดยไม่ใส่กางเกงให้ลูก ซึ่งหลังจากนั้นตนไม่เห็นนางรุ่งทิพย์และลูกอีก และไม่รู้ว่าเดินไปตามทางรถไฟหรือไม่

ทั้งนี้ ตอนที่รู้ข่าวว่ามีเด็กเสียชีวิต ตนไม่เคยคิดว่าจะเป็นคนที่ตนเคยเจอมาก่อน ซึ่งตนรู้ตอนที่พบศพแล้วว่าเป็นแม่ลูกคนเดียวกัน รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าทำไมคนเป็นแม่ถึงกล้าฆ่าลูกตัวเองได้ ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุตนก็ไม่ได้เอะใจ อย่างไรก็ตาม เรื่องเกิดไปแล้วตนก็พูดอะไรไม่ออก

ทีมข่าวลงพื้นที่ร้านค้าริมถนนภาชีท่าเรือ บริเวณตรงข้ามกับซอยทางเข้าทุ่งนา จุดพบศพน้องไทเกอร์ นางระเบียบ คำวอน แม่ค้าร้านของชำ เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ต.ค. 61 เวลา 08.23 น. นางรุ่งทิพย์เดินข้ามถนนมาจากอีกฝั่ง เข้ามาที่ร้านค้าของตน ในสภาพตัวเปื้อนโคลน ไม่สวมรองเท้า หัวและร่างกายมีรอยถลอกและมีเลือดออก ตนพยายามถามว่าไปทำอะไรมา ถึงมีเลือดออกแบบนี้ แต่นางรุ่งทิพย์ก็ไม่ตอบ และพยายามเดินไปเปิดตู้แช่น้ำดื่ม ซึ่งตนคิดว่าเป็นคนน่าสงสัยจึงไม่ให้เปิดตู้เย็น และบอกว่าถ้าต้องการหรืออยากกินอะไรก็ให้บอกตน เดี๋ยวจะเปิดตู้หยิบให้เอง แต่นางรุ่งทิพย์บอกว่าไม่มีเงิน แล้วก็พูดภาษาเขมรคนเดียว หลังจากนั้นก็นั่งที่ร้านต่อประมาณ 15 นาที ก่อนเดินออกจากร้านไป นางระเบียบ กล่าวต่อว่า ตนจำได้ว่านางรุ่งทิพย์เคยมาที่ร้านตนเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ตอนนั้นนางรุ่งทิพย์เดินมาตามถนน แล้วมานั่งที่ร้าน บอกตนว่าอยากกินเบียร์ ตนก็ถามกลับไปว่ามีเงินหรือไม่ นางรุ่งทิพย์ตอบกลับมาว่าไม่มีเงิน ตนก็บอกว่าถ้าไม่มีเงิน ก็กินไม่ได้ เพราะเป็นของซื้อของขาย หลังจากนั้น นางรุ่งทิพย์ก็นั่งอยู่อีกพักหนึ่งแล้วก็เดินออกไปจากร้าน ซึ่งตนมั่นใจว่านางรุ่งทิพย์ คือผู้หญิงคนเดียวกันกับที่มานั่งร้านตนเมื่อปีที่แล้ว

หลังจากรู้ว่ามีเด็กตายในทุ่งนาใกล้ ๆ ตนก็นอนไม่หลับ เพราะรู้สึกสงสารเด็ก ตั้งแต่อยู่มาก็ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ อีกทั้งรู้ว่าเด็กเสียชีวิตในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อแต่ไม่สวมกางเกง ก็ทำให้ตนใจหายอย่างมาก ซึ่งตนคิดว่าถ้าหากวันที่ 16 ต.ค. มีตำรวจมาบอกตนว่ามีเด็กหาย ตนคิดว่าก็อาจจะสามารถช่วยชีวิตเด็กไว้ได้ทัน เพราะได้เจอกับแม่เด็กแล้ว

ขณะที่ในเวลา 17.00 น. นายบุญมี ศรีคง พ่อของน้องไทเกอร์ นำศพน้องไทเกอร์มาถึงวัดสลักเหนือ เพื่อทำพิธีทางศาสนา โดยมีการสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรกในเวลา 19.00 น. นายบุญมี เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรระบุน้องไทเกอร์ขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ไม่ได้มีร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งตนก็ถามภรรยาแล้วว่าทำลูกหรือไม่ แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับและพูดวกวน เหมือนคนมีอาการทางจิต โดยตนก็คิดว่าภรรยาน่าจะเป็นคนก่อเหตุ แต่ทางคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยเห็นภรรยาทำร้ายลูก เคยเห็นแค่ตีสั่งสอน โดยเพื่อนบ้านก็เคยบอกตนว่าภรรยาตีลูกแต่ตนไม่เชื่อ เพราะไม่เห็นกับตา จึงคาดว่านางรุ่งทิพย์ไม่กล้าทำให้ตนเห็นเพราะตนรักลูกมาก ส่วนเรื่องที่ภรรยาติดเหล้ายอมรับว่าจริง ซึ่งตนเคยห้ามแต่อีกฝ่ายไม่ฟัง และหากอีกฝ่ายจะมาขอขมาลูกตนก็ยินดี

ส่วนน้องไทตั้น ลูกชายวัย 3 เดือน ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ ผลชันสูตรออกมาว่าหัวใจล้มเหลวเสียชีวิต ซึ่งโดยส่วนตัวก็คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับภรรยา เพราะลูกชายก็สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงตั้งแต่เกิด คลอดเองที่ห้อง และต้องเข้าตู้อบเป็นเวลานาน โดยช่วงที่เกิดเหตุ ภรรยาตนยังไม่ติดเหล้า แต่จะกินช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งวันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็น ตนกลับมาที่ห้องเห็นลูกนอนหลับอยู่ข้าง ๆ ภรรยา ที่กำลังหลับเช่นเดียวกัน ตนจึงเข้าไปอาบน้ำ จากนั้นไม่นานออกมาจับแขนลูก พบว่าลูกมีท่าทีแน่นิ่ง แต่ไม่มั่นใจว่าเสียชีวิตหรือไม่ จึงรีบนำลูกไปส่งโรงพยาบาล โดยเมื่อไปถึงแพทย์ระบุว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาจะนอนทับ จึงไม่ติดใจในส่วนนี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางมาที่ห้องเช่า ที่น้องไทเกอร์อาศัยอยู่ ในซอยติวานนท์ 34 ย่านนนทบุรี โดย นางน้ำค้าง หลิมสกุล เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 61 ช่วงเวลาใกล้เที่ยงคืน เห็นนางรุ่งทิพย์อุ้มน้องไทเกอร์ออกมาจากห้องพัก แล้วออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าทะเลาะกับสามีและถูกสามีทำร้าย จึงต้องการกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ตนจึงห้ามไว้ และบอกว่าให้กลับไปที่บ้าน ซึ่งเจ้าตัวก็กลับเข้าบ้านไป จากนั้นไม่นาน นางรุ่งทิพย์เดินจูงน้องไทเกอร์ออกมาอีกครั้ง โดยมีกระเป๋าสะพาย 1 ใบ ถือถุง 1 ถุง และกระเป๋านักเรียนของน้องไทเกอร์ เดินออกไปทางปากซอยโดยไม่ได้พูดอะไร ซึ่งตนพยายามห้าม แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ตนจึงรีบโทรศัพท์ตามนายบุญมีให้กลับบ้านมา จากนั้นประมาณ 10 นาที นายบุญมีกลับมาที่บ้านและพยายามขับรถจักรยานยนต์ออกตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งวันที่ 16 ต.ค. 61 นางรุ่งทิพย์กลับบ้านมาคนเดียว แล้วอ้างว่าฝากน้องไทเกอร์ไว้ที่ตน ตนก็เริ่มเอะใจจึงเริ่มออกตามหา และพยายามสอบถามนางรุ่งทิพย์ว่าเจ้าตัวเดินทางไปอย่างไร เมื่อทราบว่าเดินทางด้วยรถไฟก็ออกตามหา จนพบว่าน้องเสียชีวิตแล้วตามที่เป็นข่าว โดยส่วนตัวเชื่อว่านางรุ่งทิพย์เป็นคนฆ่าลูกชาย เพราะก่อนเกิดเหตุ 2 วัน เจ้าตัวเคยพูดว่าจะทำให้พ่อมันอกแตกตาย นอกจากนี้ นางรุ่งทิพย์มักทำร้ายลูกบ่อยครั้ง เนื่องจากเมา ซึ่งบางครั้งตนก็คิดว่าน้องไทเกอร์ตายไปก็ดี เพราะมีชีวิตอยู่ก็เหมือนมีกรรม ส่วนลูกชายอีกคนที่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 3 เดือน ชื่อน้องไทตั้น ตนก็เห็นนางรุ่งทิพย์อุ้มลูกออกมาพร้อมบอกว่า ลูกขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะเมาแล้วนอนทับจนลูกเสียชีวิต โดยหลังจากนี้ตนจะไม่ขอให้นางรุ่งทิพย์กลับมาอยู่ที่ห้องเช่าอีก เพราะไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น