เด็ก 9 ขวบฟ้องแม่ โดนอุ้มขึ้นรถใช้มือดันประตูหนี ตร.บุกดูกล้องเจอว่างเปล่า (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เกสร สิมา" ได้โพสต์ข้อความว่า หลานที่บ้านโดนรถตู้จับเด็กไปได้จับหลานที่บ้านไป 2 คน แต่คนร้ายเอามาส่งแล้ว ทำให้มีคนเข้าไปคอมเมนต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

วันที่ 22 ก.ย. 64 เวลา 19.00 น. ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บ้านป่าแดง หมู่ 1 ตำบลห้างสูง อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี น.ส.ณอร อิษฎากิรติ อายุ 28 ปี แม่และน้องข้าวฟ่าง อายุ 9 ปี เด็กหญิงที่ถูกลักพาตัว ซึ่งน้องข้าวฟ่างยังอยู่ในอาการตกใจเสียขวัญ กลัวคนแปลกหน้า

น.ส.ณอร เปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุ เวลาประมาณ 15.00 น. ทุกคนไม่อยู่บ้าน และหมู่บ้านค่อนข้างโล่ง เพื่อนบ้านก็ไม่อยู่บ้าน ซึ่งล่าสุดตนได้ลองไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้กับทางเข้าออกหมู่บ้าน พบว่ากล้องวงจรปิดเสีย และเหมือนดูเวลาอื่นที่ใกล้เคียงกับเวลา 15.00 น. ก็ไม่เห็นรถตู้คันที่ก่อเหตุ แต่ตนก็ยังเชื่อว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าลูกสาวไม่ได้โกหก เพราะอาการลูกเปลี่ยนไป ดูหวาดกลัวและไม่ยอมพูดอะไรเลย ใครถามเยอะ ๆ ก็จะร้องไห้

วันเกิดเหตุ 21 ก.ย. 64 เป็นเวลาช่วงกลางวัน ตนได้ออกไปหาหน่อไม้ในป่า ปล่อยให้น้องข้าวฟ่างและน้องมิว หลานสาววัย 1 ขวบ เล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ละแวกบ้าน ขณะเดียวกันก็มีรถตู้มาจอดที่ปากซอยหน้าบ้าน ห่างจากบ้านประมาณ 30 เมตร และมีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถตู้ กวักมือเรียกน้องข้าวฟ่างและน้องมิวให้เข้าไปหา บอกว่า "จะพาไปหาแม่" แต่น้องข้าวฟ่างก็ปฏิเสธว่าไม่ไป แต่ชายคนดังกล่าวพยายามลากตัวน้องข้าวฟ่างไป ขณะเดียวกันก็มีชายอีก 3 คนลงจากรถ โดยชาย 2 คน ก็จับแขนขาและแบกน้องข้าวฟ่างขึ้นรถ ส่วนชายอีกคนก็อุ้มน้องมิวขึ้นรถไป

น.ส.ณอร กล่าวต่อว่า จากการเค้นถามน้องข้าวฟ่าง ได้ข้อมูลว่าในช่วงที่น้องข้าวฟ่างขึ้นไปอยู่บนรถตู้นั้น คนขับก็พาขับวนหมู่บ้านประมาณ 2 รอบ และในระหว่างที่ขับวน น้องข้าวฟ่างก็สังเกตว่าในรถตู้นั้นยังมีเด็กชาย 3 คนและเด็กหญิงอีก 3 คน ที่ถูกลักพาตัวมาด้วย ขณะเดียวกันชายบนรถตู้ก็ข่มขู่น้องข้าวฟ่างว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร พร้อมกับให้เงิน 20 บาท ยังพยายามสอบถามน้องข้าวฟ่างตลอดว่าในบ้านมีเด็กอีกหรือไม่ และน้องข้าวฟ่างก็โกหกไปว่ายังมีเด็กอีกหลายคนอยู่ใกล้กับบ้าน คนขับจึงขับรถตู้วนมาจอดที่หน้าซอยบ้านอีกครั้ง คาดว่ามือของน้องข้างฟ่างน่าเผลอกดโดนปุ่มประตู ประตูรถตู้ก็เปิดออก น้องข้าวฟ่างจึงอุ้มน้องมิวลงจากรถและวิ่งไปบ้านตา อยู่หลังบ้านของตน แต่ก็ยังไม่ได้บอกตาในทันที และกลับไปเล่นกับเพื่อน ๆ ซึ่งตนเพิ่งจะทราบเรื่องราวเมื่อตอนกลับมาเจอลูกในสภาพหวาดกลัว

เบื้องต้น ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ตนก็อยากฝากเรื่องนี้เตือนภัยสังคม อย่าปล่อยให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว เพราะเราไว้ใจใครไม่ได้