"เจี๊ยบ ชมพูนุช" เคยเจอสายตาดูถูก เป็นดาราไม่ใช้แบรนด์เนม แต่ใช้กระเป๋าผ้า?

นักแสดงสาวมากความสามารถ เจี๊ยบ ชมพูนุช ที่วันนี้จะขอมาเคลียร์ข่าวเป็นนักแสดงสายติสท์เลือกรับงานจริงไหม พร้อมอัปเดตความรักกับหวานใจปูไข่ พงศ์สิริ หลังคบกันมานาน 9 ปี แต่ก็ยังไม่พร้อมแต่งงาน หรือว่าจะเข็ดกับความรักในอดีตที่เคยประกาศว่าจะไม่คบคนในวงการและคนเบื้องหลังอีกเด็ดขาด ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

 

ล่าสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเขามีการรวมตัวของนักแสดง เบญจา คีตา ความรัก เพื่อไว้อาลัยให้กับแตงโม?
เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ วันนั้นมันเกิดขึ้นก่อนงานวันไว้อาลัยของน้องโมวันสุดท้าย แล้วพี่ซี ศิวัฒน์ เป็นคนรวบรวมน้องๆ ทุกคนในละคร คือแค่พูดว่าเราจะมารวมตัวกันเพื่อเป็นการระลึกถึงโมเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนบอกไป

 

 

แต่ละคนคือคิวยากมาก?
เจี๊ยบ : ยากมาก แต่วันนั้นเจี๊ยบว่าน่าจะรวมกันได้ไม่เกินชั่วโมงครึ่ง ทุกคนบอกวันนี้ๆ แต่ว่าเราต้องร้องเพลงด้วยกันนะ เราก็บอกได้พี่ซีไม่ติดเลย พี่ซีคือน่ารักมาก เทปที่เอาไปลงยูทูบของพี่ซี พี่ซีปิดการรับรายได้ พวกเราทุกคนโอเคมาก มันเป็นเหมือนการกลับมาเจอกัน มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเราคิดถึง จบงานถ่ายละครเสร็จก็แยกย้ายกันไป เจี๊ยบว่าน่าจะต้องมีแบบ 19 ปีได้

 

เจอกันมีน้ำตาไหลไหม?
เจี๊ยบ : ตอนที่เจอกันโมเมนต์แรกมันกรี๊ด มันไม่ต้องต่อก็ติด ตื่นเต้น ดีใจ แต่พอเรามานั่งรวมตัวแล้วพูดถึงน้องโมเมนต์นั้นมันก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ก็เป็นไปด้วยความคิดถึง

 

 

เรื่องความรัก คุณคบกับคุณปูไข่มา 9 ปีเหรอ?
เจี๊ยบ : ค่ะ 9 ปี

 

 

ยังไม่แต่งเหรอ 9 ปี?
เจี๊ยบ : ยังไม่พร้อม เหมือนก่อนหน้านี้เจี๊ยบกับปูไข่เราทำอาชีพเดียวกันมาตลอด 7 ปี เราเป็นนักแสดงเหมือนกัน พอช่วงโควิดเราตกงานปุ๊บ อาชีพนักแสดงต้องหยุดชะงักหมด มันไม่มีรายได้เหมือนเดิม มันทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ เราสองคนไม่มีความมั่นคงอะไรเลย จริงๆ ช่วงนี้เจี๊ยบว่าปูไข่เขาพยายามพัฒนาศักยภาพตัวเองในด้านอื่นๆ อย่างตอนนี้เขาก็เปลี่ยนสายงานแบบชัดเจน ซึ่งหนูก็สนับสนุนตรงนั้น

 

 

ไปรู้จักกันได้ยังไง?
เจี๊ยบ : จริงๆ เป็นเพื่อนกันมาก่อน เคยเจอกัน มึงมาพาโวย ไม่เคยหวาน ไม่เคยสวีท อยู่ดีๆ วันนึงเหมือนเขารู้สึกว่าเขาคุยกับเราแล้วเขาสบายใจ เขาก็เหมือนแบบโทรหาเราบ่อยขึ้น

 

เขาบอกชอบเลยไหม?
เจี๊ยบ : ใช่ แต่ว่าตอนแรกเจี๊ยบไม่รู้ น้องวิว วรรณรท เป็นคนถามเจี๊ยบว่าพี่เจี๊ยบหนูว่าพี่ปูไข่เขาโทรหาพี่เจี๊ยบบ่อยแปลกๆ นะ เหมือนตอนนั้นเจี๊ยบถ่ายละครอยู่กับวิว เวลาปูโทรมา ปูจะไม่ใช่แบบเธออยู่ไหน ทำอะไร จะมาแบบขอโทษนะคะ มึงอยู่ไหน คือไม่มีผู้ชายที่ไหนจีบเราแบบนี้

 

 

วันที่เรารู้ว่าเขาชอบเรา ตอนนั้นเป็นยังไง เกิดอะไรขึ้น?
เจี๊ยบ : ก็ช็อกนิดหน่อย เหมือนเขาบอกว่า เออ..ชอบหว่ะ เจี๊ยบก็แบบ...แล้วไง แต่เขาก็บอกว่าเขายังไม่อยากจีบ หนูก็แบบชอบแต่ยังไม่อยากจีบ หนูก็เงียบไว้นิดนึง หนูก็บอกว่าได้ ไม่จีบก็ไม่เป็นไร แต่ว่าถ้าเห็นเจี๊ยบไปเดินกับใคร หรือเจี๊ยบไปกินข้าวดูหนังกับใคร แล้วมีข่าวหลุดออกมา ต้องอย่าโกรธเจี๊ยบนะ

 

ตอนนั้นที่พูดไปไม่ได้มีโมเมนต์ของความกั๊กอะไรเลย แต่หนูแค่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับหนูนะ ถ้าวันนึงหนูไปเดทกับใครแล้วเขาเห็นข่าวเรา เขาจะมาโกรธ ซึ่งต้องเข้าใจเจี๊ยบด้วย เพราเเจี๊ยบโสด เจี๊ยบมีสิทธิ์ที่จะเลือก

 

พอเขาบอกว่าชอบเสร็จทำไมเขาถึงหายไป 1-2 อาทิตย์?
เจี๊ยบ : เหมือนกับตอนนั้นเขาเริ่มเทิร์นตัวเองไปทำงานเบื้องหลัง แล้วเขาบอกว่าปูอยากโฟกัสเรื่องงาน เจี๊ยบก็บอกว่าได้จ๊ะ ไปโฟกัสเรื่องงานเลยไม่ซีเรียสเลยเพื่อน

 

เพราะตอนนั้นเป็นเพื่อนกัน นางก็คงแบบไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนมาไม้นี้ เขาก็หายไปสัก 2 อาทิตย์ แล้วกลับมาบอกว่าเออ..กูจะจีบแล้ว เราก็บอกได้ก็จีบสิ คือวันนั้นมีคนจีบหนูอยู่บ้าง ไม่ใช่ไม่มีจีบเลย แต่หนูรู้สึกว่าหนูไม่ได้จพเป็นที่จะไปบอกเขาว่าใครจีบหนูอยู่บ้าง หนูใช้ความรู้สึกในการคุยว่าใครที่รู้สึกไม่ใช่หนูก็จะตัดเลยทันที หนูจะไม่เก็บไว้เป็นความวุ่นวายในชีวิต

 

ในส่วนของคุณปูไข่อะหรที่รู้สึกว่าใช่ ทั้งที่มันไม่มีความหวานเลย?
เจี๊ยบ : เจี๊ยบบอกเขาว่าถ้าเธอคิดจะจีบฉัน เธอต้องไม่พูดคำหยาบกับฉัน

 

 

กฎเหล็กก็คือถ้าคบกันห้ามคำหยาบ?
เจี๊ยบ : ในชีวิตเจี๊ยบ พ่อ แม่ พี่ น้อง คนรักห้ามพูดคำหยาบกัน

 

 

แล้วเขาเริ่มเปลี่ยนตัวเองเมื่อไหร่?
เจี๊ยบ: เปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่คุยกัน เจี๊ยบก็บอกว่าโอเค ถ้าจีบต้องห้ามพูดคำหยาบ เขาก็เทิร์นตัวเองหม่พูดคำหยาบ

 

 

แล้วใครชอบขี่มอเตอร์ไซค์?
เจี๊ยบ : ปูไข่ เราก็ไม่ได้ห้ามเพราะรู้สึกว่ากิจกรรมนี้เจาก่อรหน้าจะเจอเจี๊ยบ ถ้าเหมือนเขาจะมาคบเจี๊ยบแล้วหยุดกิจกรรมที่เขาชอบเจี๊ยบว่ามันไม่แฟร์สำหรับเขา

 

9 ปีให้ของขวัญอะไรกัน?
เจี๊ยบ : ไม่ให้ อ่อ..วันเกิดปูไข่เจี๊ยบให้ที่ปั่นน้ำผลไม้ ปูไข่เขาเป็นคนสุดมาก อย่างออกกำลังกายก็ต้องออกสุด แล้วก็เขารู้สึกเหมือนร่างกายเขาขาดวิตามินบางอย่าง เจาอยากกินน้ำผัก ผลไม้ปั่น แล้วพูดกับเจี๊ยบ ขอเจี๊ยบเรื่องที่ปั่นน้ำผลไม้หลายรอบมาก หนูไปเดินห้างแล้วหนูไปเจอ หนูจำได้ราคามัน พันเจ็ดร้อยกว่าบาท เขาก็บอกว่าอยากได้รุ่นนี้ หนูมีเครดิตการ์ด มีพ้อยท์ มีสะสมเดอะวันการ์ด ใช้ทุกอย่างคิดราคาออกมา เหลือ 475 บาท แล้วหนูก็จ่ายเงินแล้วบอกว่าแฮปปี้เบิร์ธเดย์

 

 

แสดงว่าปูไข่พูดหวานไม่เป็นเลย?
เจี๊ยบ : เวลาอยู่กัน 2 คนก็จะมีบ้าง แต่เขาเป็นคนที่เราต้องไม่คาดหวังกับเขา อย่าคาดหวัง

 

เขาหวงคุณไหม หึงไหม?
เจี๊ยบ : ไม่หึง ไม่ห้ามแต่งตัวโป๊ แต่ว่าหวงไหมก็หวง เวลาลงรูปในไอจีให้เขาดูเฉพาะชุดว่ายน้ำ เขาก็จะดูองค์ประกอบ การตกกระทบ เงาของพระอาทิตย์ เจี๊ยบคิดเองนะว่าเขาหวง แต่ไม่พูด

 

คู่นี้เขาบอกรักกันทุกวัน?
เจี๊ยบ : เหมือนเราคุยโทรศัพท์ กับคนอื่นเราก็แบบโอเคนะ แล้ววาง แต่กับปูไข่เราก็แบบ i love you นะ สำหรับหนู หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะหนูทำมาตลอด 9 ปี หนูเลยไม่รู้สึกว่ามันหวาน

 

 

เท่าที่ฟังมาเราก็พร้อมกับชีวิตคู่แล้วนะ ถ้าไม่ติดช่วงโควิด คิดว่า?
เจี๊ยบ : ยังค่ะ เจี๊ยบอยากให้ปูมั่นใจในตัวเขาเอง เจี๊ยบอยากให้เขามีความรู้สึกว่าเขาดูแลเราได้ พอเหมือนมันทำงานในวงการมาเรื่อยๆ จะรู้สึกว่ามันไม่มีความมั่นคงเกิดขึ้นในนั้นอยู่กลายๆ อาจไม่100% แต่มันมีความรู้สึกนั้นอยู่

 

 

คำว่าแต่งงานจะเกิดขึ้นมันต้องมากับคำว่าพร้อม พร้อมในมุมมองของเจี๊ยบคืออะไร?
เจี๊ยบ : หนูอาจจะดูแลครอบครัวหนูได้ดีกว่านี้หนูก็มีโกลของหนู เขาก็มีโกลของเขา หนูรู้สึกว่าหนูยังทำโกลของหนูไม่สำเร็จเลย หนูก็จะไม่ไปเร่งรัดเขา เขาก็จะไม่ต้องมาเร่งรัดหนูด้วย

 

 

เข็ดหรือระแวงกับความรักไหมที่ต้องดูให้มันมั่นใจแล้วมั่นใจอีก?
เจี๊ยบ : จริงๆ เจี๊ยบเป็นคนไม่ค่อยออกมาพูดเรื่องส่วนตัวที่ไหน เจี๊ยบต้องมั่นใจในตัวเขาระดับนึงแล้ว เจี๊ยบรู้สึกว่าเรื่องความรักครั้งเก่ามันทำอะไรเจี๊ยบไม่ได้เลย เพราะสิ่งที่เจี๊ยบเจอตรงหน้าทุกวันเขาดีมากกว่านั้น เราอยู่กันด้วยความสบายใจ มันมีความสุขเวลาอยู่ด้วยกัน แล้วมันสนุก มันจะเดินต่อไปข้างหน้าได้ง่าย

 

 

บทเรียนจากความรักที่ผ่านมามันสอนอะไรเราบ้าง?
เจี๊ยบ : มันจะพัฒนาให้เราโตขึ้น จะทำให้เรารู้ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่แบบไหน แล้วมันทำให้เรารู้ว่าการรักตัวเอง การเป็นตัวของตัวเองมันสำคัญแค่ไหน การเป็นตัวของตัวเอง หรือเราไม่ได้รักตัวเอง ในโมเมนต์ที่เรารู้สึกด้อยค่าตัวเองมันจะทำให้ชีวิตส่วนอื่นของเรามันหม่นหมองไปหมดเลย

 

อะไรที่ทำให้คิดว่าเราคบกันมาได้ยาวนานขนาดนี้?
เจี๊ยบ : หนูว่าความซื่อสัตย์กับความเป็นตัวของตัวเองแล้วก็เวลาเจี๊ยบอยู่กับปูแล้วเขาให้เกียรติเรามากๆ เขาทำให้เรารู้สึกว่าเธอสวยในแบบของเธอ เธอไม่จำเป็นต้องไปมองว่าคนอื่นเขาดีกว่าเธอตรงไหน เขาจะรู้สึกว่าเจี๊ยบดีอยู่แล้ว ที่เขาเลือกก็เพราะว่าเธอเป็นแบบนี้ ไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่สวยกว่านี้ หรือไม่ต้องการผู้หญิงที่เก่งกว่านี้ พยายามแบบให้ค่าตัวเองมากๆ หนูเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง

 

 

เจี๊ยบอยู่วงการมา 19 ปี ไม่ค่อยมีข่าวเสียหายเลย เจี๊ยบเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงไหม?
เจี๊ยบ : หนูก็ไม่รู้ ไม่สูง

 

 

หลายคนจะมองว่าเจี๊ยบติสท์แตกเลือกรับงาน อยากจะแก้ข่าวไหม?
เจี๊ยบ : ไม่ติสท์แตกเลย เรื่องรับงานเป็นคนมีงานอะไรมาเจี๊ยบทำ เจี๊ยบเป็นคนไม่เลือกงานด้วยซ้ำ เพิ่งมาเริ่มเลือกงานจริงๆ จังๆ คือ 2 ปีหลังมานี้ เจี๊ยบรู้สึกว่าบางงานที่ไม่อยากทำจริงๆ ก็จะเพิ่งกล้าที่จะปฎิเสธ ก่อนหน้านี้มีงานอะไรติดต่อมาหนูจะไม่ปฎิเสธเอาหมดเลย มันก็มีทั้งแง่ดีและแง่ไม่ดี คือถ้าเราไม่ปฎิเสธเลยจะดูว่าเราเป็นคนอะไรก็ได้ ยังไงก็ได้ บางทีเราก็ถูกมองข้ามความสำคัญไปในบางครั้ง คืองานถ้าหนูสบายใจหนูอยากทำ

 

 

มีงานประเภทอะไรบ้างที่รู้สึกว่าไม่เอาแบบนี้?
เจี๊ยบ : หนูจะไม่รับงานที่หนูรู้สึกว่าถ้าหนูรับแล้วหนูทำได้ไม่ดี

 

 

ทำงานมาหลายปี คนคิดว่าต้องรวยมาก แต่ไม่เคยเห็นใช้แบรนด์เนมเลย?
เจี๊ยบ : ก็มีใช้บ้าง แต่หนูไม่ได้ใช้บ่อย เวลาหนูจะซื้อแล้วหนูเสียดายเงิน มันแพง เจี๊ยบเป็นคนจับจด เวลาเจี๊ยบจะซื้ออะไรอย่างนี้ เจี๊ยบจะไม่ไปครั้งเดียวแล้วซื้อเลย ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วเจี๊ยบจะเอามานั่งดูว่าอยากได้ไหม คือหนูเอาเงินไปเที่ยว หนูชอบเที่ยว

 

 

เราเป็นดารา พอไม่มีแบรนด์เนมปุ๊บก็ต้องมีข่าวเม้าท์ เคยมีคนดูถูกไหม?
เจี๊ยบ : ไม่ได้ถึงขนาดมีคนมาพูดว่าอี๋ แต่ว่าบางทีเรารับรู้สายตาได้ บางทีหนูใช้แต่ย่ามผ้า เวลาไปไหนคือเสื้อยืด กางเกงยีนส์ แต่หนูไม่ได้สนใจ หนูมีความสุข

 

 

ชีวิตนี้รถประสบอุบัติเหตุกี่ครั้งแล้ว?
เจี๊ยบ : เยอะค่ะ นับครั้งเล็ก ครั้งใหญ่คือยิบย่อย ช่วงเบญจเพศจะหนักหน่อย ช่วง 24-25-26 ช่วง 2 ปีนี้ ถ้าบอกเบญจเพศไม่มีจริง บางทีเจี๊ยบก็คิดนะ เพราะมันเกิดขึ้นกับเจี๊ยบจนแบบเหนื่อยใจกับตัวเอง

 

ที่หนักๆ กี่รอบ?
เจี๊ยบ : รอบแรกคือขับรถขึ้นทางด่วน รถคันหน้าเบรกแตก แล้วเขาถอยมา หนูเพิ่งขับรถใหม่ๆ หนูก็ตกใจ หนูอยู่ขวาสุด หนูก็หักพวงมาลัยไปซ้ายสุด หน้ารถชนกับบังเกอร์ทางด่วน หนูขับกะบะ คัชซีเบี้ยว กระดูกนิ้วแตกอย่างเดียว อันนี้คือต้นปี ปีนั้นหนูเกิดอุบัติเหตุใหญ 3 รอบ พอกลางปี ขับรถไปทำงานอยู่บนทางด่วน รอบนี้เปลี่ยนคัน ไปซื้อรถมือสอง ขับๆ อยู่ได้ยินเสียงรถตัวเองเหมือนยางแตก แล้วรถมันหมุน

 

 

ตอนนั้นจำได้เป็นทางด่วนศรีสมาน คือปกติจะมีรถวิ่งตลอดเวลา ตอนนั้นไม่รู้ห้อยพระอะไร ไม่มีรถตามเจี๊ยบมาเลย รถก็หมุนๆ จนเจี๊ยบเอารถเข้าข้างทาง เจี๊ยบนั่งตัวสั่น ก็รอดมาได้ รอบที่สามไปกับพี่ชายและรุ่นพี่อีกคน คือเราขับรถกลับเส้นพุทธมณฑลสาย 3-4 มันจะทำทาง มันเป็นสะพาน พี่ชายเจี๊ยบจะขับรถขึ้นสะพาน แต่นางแซงรถคันหน้า

 

 

แต่มันมีรถจากฝั่งนู้นเขาแซงมาเหมือนกัน มันจะชนกันด้วยความเร็วบนคอสะพาน พี่ชายเจี๊ยบเลยหัก พอหักเหมือนตัวคอสะพานทำให้รถมันลอยขึ้นไป แล้วก็ตีลังกา พี่ชายเจี๊ยบนั่งหน้า เพื่อนนั่งหน้า ทุกคนคาดเข็มขัด หนูคนเดียวที่อยู่ข้างหลังแล้วหนูนอนเหมือนแบบหลับอยู่ หนูลืมตาขึ้นมาพี่ชายกับเพื่อนเขาเอาแขนไขว้เป็นกากบาทไว้ เจี๊ยบลอยอยู่ข้างหลัง รถตะแคงข้าง หัวหนูอยู่ฝั่งถนน จังหวะนั้นรถเมลขับเฉียดหัวหนูไป พอเหตุการณ์สงบ ทุกคนตะโกนเรียกเจี๊ยบ เจี๊ยบบอกเจี๊ยบโอเค เจี๊ยบไม่เป็นไร