"นัท มีเรีย" รับแล้ว เลิก "อั้ม อธิชาติ" จริง ปัดตอบปมมือที่สาม
นัท มีเรีย รับแล้วเลิก อั้ม อธิชาติ จริง ปัดตอบปมมือที่สามเพราะเป็นเรื่องเกินควบคุม ยันยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ชีวิตตอนนี้มีความสุขดี
คอนเทนต์แนะนำ
ค้างคาอึมครึมมานาน ในที่สุดก็ยอมรับด้วยตัวเอง ว่าได้เลิกรากับสามี อั้ม อธิชาติ มาได้สักพักแล้ว สำหรับนักร้องสาว นัท มีเรีย หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเม้าท์ออกมาว่า พระเอกตัวท็อป ส่อแววเตียงหัก นอกใจภรรยานักร้องดังยุค 90 ไปติดสาวคนใหม่ หลังแต่งงานกันมา 10 ปี ซึ่งภรรยาก็รู้ดี แต่กัดฟันทนมานาน 4-5 ปีแล้ว พราะรักและไม่อยากตกเป็นข่าวใหญ่ และแน่นอนด้วยคีย์เวิร์ดต่างๆ ทำให้หลายคนพุ่งเป้ามาที่คู่สามี-ภรรยาอย่าง อั้ม อธิชาติ และ นัท มีเรีย
ล่าสุด นัท มีเรีย เปิดใจถึงข่าวเลิกรากับสามีอย่างเป็นทางการ โดยไม่ขอตอบปมมือที่สาม
จริงๆ แล้วแต่ใครจะคิดตีความอย่างไรเลยค่ะ นัทก็ห้ามความคิดใครไม่ได้จริงๆ แต่ว่าถ้าให้พูด ณ วันนี้ มีโอกาสได้พูดแล้วนัทก็ขออนุญาตแจ้งพี่ๆ สื่อมวลชนและประชาชนให้ทราบ ว่านัทได้ยุติความสัมพันธ์กับคุณอั้มแล้ว ยุติความสัมพันธ์ในความเป็นสามี-ภรรยา แล้วมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ
นัทขออนุญาตไม่ตอบในเรื่องของเหตุผลหรือสาเหตุนะคะ เพราะจริงๆ แล้วนัทคิดว่าการใช้ชีวิตคู่มันมีหลายปัจจัย เราได้พูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รับรู้กันทั้งสองฝ่ายแล้วก็จบกันด้วยดี ก็ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด ขอให้เป็นเรื่องที่คนสองคนคุยกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยุติมาได้สักพักแล้วค่ะ
ข่าวลือโยงบุคคลที่สาม-หย่า
ที่โยงถึงบุคคลที่สาม จริงๆ มันนอกเหนือความควบคุมของนัทจริงๆ นะคะ ก็ต้องทำความเข้าใจ ตัวนัทค่อนข้างเข้าใจในทุกๆ สถานการณ์ทุกเหตุการณ์ ก็เลยคิดว่ามันเป็นธรรมดาที่คนจะตีความกันไป แต่ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด เอาเป็นว่านัทกับคุณอั้มได้คุยตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่ะ
เรื่องหย่า คือนัทไม่ได้จดทะเบียนค่ะก็เลยไม่ได้หย่า
เรื่องลงรูปขาวดำ
จริงๆ แล้วรูปขาวดำมันเป็นรูปที่นัทชอบอยู่แล้ว เพราะมันเป็นภาพอาร์ต เราไม่ค่อยลงรูปขาวดำซักเท่าไหร่ แต่พอเราไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเราได้ถ่ายอะไรที่มันเป็นภาพมุมมองแปลกๆ บ้าง ที่ไม่ใช่แบบเดิมที่เราลง จริงๆ มันไม่มีนัยยะอะไรทั้งสิ้น แต่ว่ามันอาจจะอยู่ในช่วงจังหวะเวลานั้นพอดี ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เศร้า เราแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศอยากใช้ชีวิตตามปกติ หรือแม้แต่ข้อความนัทมองว่านัทเป็นคนที่เขียนอะไรที่ค่อนข้างมีอะไรให้คนคิดแล้วเตือนตัวเองด้วย มันเป็นเหมือนปรัชญา ความคิด มุมมอง ทัศนคติ ซึ่งนัทลงของนัทมาหลายปี ถ้าใครไปย้อนดูนัทมองว่าการที่เราได้อยู่กับปัจจุบันอยู่กับความรู้สึกที่มันพลังงานดีๆ พลังงานบวก อยากให้อยู่กับลมหายใจ เราอย่าประมาทกับชีวิต มันเป็นเรื่องการมองโลกที่ดี ก็เขียนไปเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าจะถูกตีความตรงนี้ แต่ก็ต้องขอขอบคุณจริงๆ หลายคนให้กำลังใจและเป็นห่วงนัท
สำหรับความรู้สึกหรือจิตใจตอนนี้มีความสุขมากๆ ค่ะ มีความสุขดี มีความสุขทั้งกายทั้งใจ นัทโชคดีคือหนึ่งนัทเป็นคนที่โชคดีที่มีคนรอบข้างที่ดี แล้วก็เป็นคนที่มองอะไรค่อนข้างง่ายๆ บวกๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกสวยนะ นัทว่าทุกคนมีทั้งชีวิตความสุขความทุกข์อยู่ในชีวิตอยู่แล้ว แต่นัทเลือกที่จะมองในสิ่งดีที่ตัวเองมีอยู่ นัทมีสิ่งดีๆ อยู่รอบตัวนั้นมากมาย เพราะฉะนั้นมันทำให้นัทเดินได้อย่างมีความสุขจริงๆ
เอาจริงๆ คือ 15 ปี ก็คือคบกัน 5 ปี แล้วก็แต่งงานกัน 10 ปี เราก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แล้วก็มีทั้งความสุข ความทุกข์ มีทั้งสิ่งที่ต้องฝ่าฟันกันมาด้วยกัน แต่ว่ามันไม่มีอะไรผิดเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งมันจะเกิดการที่เราจะต้องแยกย้ายกันเดิน ในสิ่งที่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เพราะฉะนั้นนัทอยากให้มันเป็นเรื่องของความเข้าใจว่านัทมีความสุข และนัทต้องขอขอบคุณกับทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลยค่ะ
มีน้ำตาไหมหรอ? นัทว่าน้ำตามันมาหลายวาระหลายโอกาสนะ นัทบอกแล้วว่าชีวิตคู่มันไม่ได้ยิ้มอย่างเดียว มันต้องมีมุมที่ไม่ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ แต่ว่าวันนี้นัทไม่ได้มีน้ำตาที่เป็นเรื่องอะไรที่ไม่ดีแล้ว มันเป็นเรื่องที่มันมีความหมายในทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเครียดอะไร และตอนนี้นัทมีความสุข คืออยู่กับปัจจุบันจริงๆ ค่ะ
ก็ใช้ชีวิตตามปกติตามความเป็นจริง คือเราใช้ชีวิตให้เป็นเรื่องที่ง่ายๆ สบาย ไม่ซับซ้อน และมีความสุขกับการที่เราได้ใช้ชีวิตในการทำงาน อยู่กับคนที่เรารัก เรามีคนที่เรารักตั้งเยอะแยะ แล้วนัทยังรู้สึกว่าเรายังมีอะไรที่เราต้องทำอีกเยอะแยะ ก็เลยไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอะไร ก็ใช้ชีวิตตามปกติค่ะ
สุขภาพที่ป่วยเนื้องอก
นัทเองก็มีเนื้องอก เป็นเนื้องอกค่อนข้างใหญ่แต่ไม่อันตรายอะไร คือเขาก็ยังอยู่กับเรานี่แหละค่ะ เพราะว่านัทค่อนข้างจะผอมมันก็เลยจะเห็นชัดหน่อย เพราะมันอยู่ในท้องน้อยข้างล่าง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องผ่า ก็ต้องขอบคุณที่หลายๆ ท่านเป็นห่วงแล้วก็อยากจะให้เอาน้องออก แต่พอดีมันมีกระบวนการที่นัทจะต้องมอนิเตอร์ต่อว่าถ้าเกิดอีกซักระยะหนึ่งที่เราหมดฮอร์โมน พอถึงเวลานั้นถ้าเราจะเอาออกแล้วเขายังใหญ่อยู่ ก็เอาออกได้ก็จะค่อนข้างปลอดภัย แต่ถ้าเกิดช่วงนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไม่ได้มีปัญหาอะไรก็อยู่กับน้องเขาไปก่อน ถึงเวลาเขาก็จะเล็กลงไปเองตามวันและเวลาตามวัย
มันหลายๆ ปัจจัยค่ะ เพราะว่าหนึ่งนัทเคยผ่านการทำ IVF ทำน้องเด็กหลอดแก้วมาแล้วมาสี่รอบ มันก็เป็นฮอร์โมนที่เราใช้ มันก็เป็นการกระตุ้นอย่างหนึ่งให้มันเจริญเติบโตขึ้น ตอนนี้นัทก็ปรับมารับประทานอาหารที่มันมีพืชผักมากขึ้นได้สองปี ซึ่งที่ดูลีนๆ มันเหมือนกับเราทานดี ไม่ทานเนื้อสัตว์มาก พอเราทานดีก็เหลือเรื่องนอน พอปรับเรื่องนอนมาให้เร็วขึ้น นัทว่ามันอยู่ที่หลายๆ อย่าง แล้วก็สุขภาพจิต ถ้าเกิดเรามีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งกายและใจ นัทเชื่อว่าเดี๋ยวมันผ่านไปได้
มุมมองความรักหลังจากนี้
นัทมองว่าความรักเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ทุกคนควรจะมีความรักค่ะ แล้วความรักอยู่กับเราตลอดเวลา นั่นคือตัวเราเอง เมื่อไหร่ที่เรารักตัวเอง เราสามารถที่จะรักคนอื่นได้ แล้วเราก็รู้ว่าจริงๆ เรามีสิ่งที่ดีๆ อยู่รอบตัวเราเยอะมาก นั่นคือความรัก ความปรารถนาดี อยู่ที่เราจะเห็นจะมองหรือเปล่า บางทีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าความรักมันอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ แล้ววันนี้นัทอยากจะบอกว่านัทขอขอบคุณทุกๆ คน ทุกๆ กำลังใจที่ให้ความรักนัทแล้วก็เพื่อนสนิทเพื่อนที่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จักแต่เขามีความรักให้เรา นั่นแหละค่ะความรักที่มันส่งมาถึงนัท แล้วมันทำให้ความรักมันขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานที่ดีๆ อยากจะขอขอบคุณทุกกำลังใจทุกคอมเม้นต์ ขอบคุณทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทุกอย่างดีเสมอค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ รักทุกคนเช่นกันนะคะ
โดยหลังจบสัมภาษณ์เปิดใจ สื่อมวลชนได้ส่งกำลังใจให้กับนัท มีเรีย เป็นจำนวนมาก
สำหรับ นัท มีเรีย ได้แต่งงานครั้งที่ 2 กับ อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2557 ก่อนจะเผชิญข่าวเลิกราอย่างหนาหูเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
Advertisement
