ถาม เป็นผู้หญิงที่จิตใจเมตตา แต่เห็นบอกว่าอีกมุมหนึ่ง เก๋ ชลลดา เป็นผู้หญิงที่ใจร้อนมาก
เก๋ ชลลดา : จริงค่ะ ย้อนไปก่อนที่จะมีมูลนิธิ The Voice นะคะ เก๋เป็นคนใจร้อนมาก เป็นคนทำอะไร พูดปั๊บ ทำเลย คิดแล้วก็ทำเลย คิดแล้วก็พูดเลย เป็นคนใจร้อน ใจเร็ว ไม่ชอบการรอคอยคน แต่เราเป็นคนใจร้อน ไม่ได้เป็นคนขี้โมโห ไม่ได้เหวี่ยง วีน นะคะ เก๋เป็นคนทำอะไรเร็วก็จริง แต่ว่าชอบอะไรเร็วแล้วตัดสินใจได้เลย พูดง่ายๆ ไม่ชอบการลังเล ทำแล้วก็ทำเลย กล้าได้กล้าเสีย และก็ไม่ชอบคนที่งึกงัก ไม่โมโหง่ายดีกว่า ไม่เหวี่ยง ไม่วีน ไม่ทะเลาะ แต่ไม่ชอบการถูกเอาเปรียบ หรือแซงคิว บางทีเก๋ก็รู้ว่าเป็นแบบนี้ ทำให้เราเป็นคนอยู่ยากเหมือนกันนะคะ เก๋ไม่ชอบการไม่ถูกต้องเลย คือต้องเป็นเส้นตรงเลย
ถาม เป็นคนที่ชอบอะไรเร็วๆ แต่บางสิ่งบางอย่างช้า เป็นสาวรักนวลสงวนตัวในเรื่องความรักมาก
เก๋ ชลลดา : อาจจะเป็นเพราะว่าเรารู้เยอะ เห็นเยอะ เพื่อนแยะ เก๋เห็นเพื่อนผิดหวังเรื่องความรักมาเยอะ เห็นคนดีๆ ที่เคยกินข้าวมีความสุขอยู่ดีๆ ก็เสียหลัก กินข้าวไม่ได้ ลุกขึ้นมาแต่งตัวไม่ได้ ออกจากบ้านไหว เก๋ ก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่าคนที่จะมาทำร้ายเราเนี่ยต้องเลือกคนที่เข้ามาทำร้ายด้วยนะ หนึ่งก็คือคนในครอบครัวเขาอาจจะทำร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจทำให้เราเป็นห่วง ไม่สบายใจนะคะ อันที่สอง เชื้อโรค โรคภัยไข้เจ็บซึ่งมันบังคับไม่ได้ สามก็คืออุบัติเหตุ เก๋คิดแค่ 3 อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเนี่ย ใครหน้าไหนก็ตามที่ไม่ใช่ 3 ข้อนี้ เขาไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเราทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะฉะนั้นเก๋เลยคิดว่าความรักของเก๋ใช้หัวใจมาพร้อมสมองเสมอ คือไม่อยากผิดหวัง ไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียใจ เพราะฉะนั้นก็เลยเพลย์เซฟมาตลอดชีวิต จนกระทั่งแต่งงาน ทุกคนจะแซวว่าเก๋แต่งงานช้า เก๋บอกว่า เก๋ ไม่แปลกใจเลย เพราะว่าเก๋กำหนดชีวิตตัวเองไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เก๋ต้องรอบคอบ ตอนที่เก๋เข้าวงการใหม่ๆ แล้วไปเล่นมิวสิกวีดีโอ จำได้เลยผู้กำกับบอกเราว่าร้องไห้สิ ผู้ชายทำอย่างนี้กันเรา เราก็สวนเลยว่าไม่มีทาง ผู้ชายหนูไม่ทำอย่างนี้กับหนูหรอก หนูไม่ยอม เถียงผู้กำกับ ผู้กำกับบอกให้เปิดฝักบัวแล้วร้องไห้ ไม่มีโมเมนต์ร้องไห้ และเคยปฏิเสธบทหลายบทมากตอนที่เข้าวงการมาแรกๆ เพราะว่ามันต้องถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งก็เป็นภาพยนตร์หลายเรื่องมากๆ ทุกวันนี้ยังแซวน้องๆ หลายคนว่า เนี่ย ถ้าวันนี้พี่เล่นไป หนูไม่ได้เกิดแล้วนะเป็นโจ๊กกันไป (หัวเราะ)
ถาม ชีวิตของ เก๋ ชลลดา ครั้งหนึ่งเคยเจอแฟนขี้หึงมาก
เก๋ ชลลดา : โดยส่วนตัวถ้าได้ไว้ใจแล้วจะไว้ใจเลย เชื่อใจเลยแล้วเป็นคนไม่ขี้หึง แต่ปรากฏว่าความรักของเก๋ค่อนข้างตรงข้ามมากเลย เก๋ไปเจอผู้ชายที่ขี้หึงมาก เช็กโทรศัพท์เราแบบสุดๆ ดู recent call ถ้าเบอร์ไหนไม่ได้ขึ้นชื่อ ไม่ใช่เพื่อนเราโทรมาได้ยังไง เขาก็จะโทรกลับไปถาม อย่างถ้าสมมตินะคะ เก๋ใส่ชุดอย่างนี้ ตายแน่นอน ไม่ให้เราใส่แขนกุด สายเดี่ยว เกาะอกคือไม่ต้องพูดถึง แต่งหน้าทาปากได้ แต่ว่าไม่รู้เป็นอะไรกับตอนนั้นนะคะ เขาไม่ชอบให้เก๋ทาปากสีแดงเพราะรู้สึกว่ามันคือการเย้ายวนและเซ็กซี่ แล้วก็ไม่ชอบให้ใส่กระโปรงสั้น กระโปรงผ่าก็ไม่ได้ แล้วก็รองเท้าส้นสูงคือถ้าเป็นรองเท้าที่เปิดเห็นนิ้วเท้าเขาบอกว่าเป็นรองเท้าที่โป๊มาก ยิ่งคบกันไปคบกันมา เก๋ก็จะใส่ชุดแบบอีกนิดเดียวก็จะเข้าข่ายเป็นนุ่งขาวห่มขาวแล้ว
ถาม แล้วตอนเริ่มต้นกับคนนี้ไปคบกันได้ยังไง
เก๋ ชลลดา : ก็คือเหมือนเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย ก่อนที่เราจะคบกัน เก๋ก็งง เพราะว่าเราก็เป็นคนที่แต่งตัวอยู่แล้ว แบบตอนที่เขาชอบเรา เขาชอบที่เราเป็นเรา แต่พอคบกันเขาอยากให้เราเป็นแบบที่เขาอยากให้เป็น แต่ถามว่าเก๋รู้สึกอึดอัดหรืออะไรไหม เอาจริงๆ นะคะ ไม่รู้สึกอะไร สารภาพเลย แบบพอมันเป็นความรักครั้งแรก มันจะมีความสุข อยากจะทำให้ อยากจะประคองให้ดีที่สุดก็เลยเข้าใจ เราก็เปลี่ยนให้เขา แล้วเขาเองก็เปลี่ยนหลายๆ อย่างให้เรา มันก็เลยเหมือนแลกกันโดยที่ไม่ได้รู้สึก แต่พอนานๆ วันเข้า ด้วยความที่ตอนนั้นเก๋เพิ่งเข้าวงการบันเทิงเต็มตัวด้วย ก็มาทำงาน เขามาดูเบื้องหลังการถ่ายแฟชั่ เก๋ เขาก็แบบไม่พอใจ กลับไปก็ทะเลาะกัน เขาก็บอกเราว่าไม่ถ่ายได้ไหม ยกเลิก รูปอันนั้นไม่เอาได้ไหม ถ่ายไปแล้ว ไม่เอาไม่ได้นะ มันต้องลงหนังสือ แล้วมันก็เลยมีปัญหา ส่วนเรื่องอะไรอีกบ้างที่เขามีกฎกติกากับเรา ก็จะมีเรื่องการขับรถยนต์ ซึ่งสำหรับเรื่องรถยนต์เป็นอะไรที่เป็นปัญหากับแฟนเก๋ 2-3 คนแรกมาก เพราะว่ารถของเก๋เปลี่ยนฟิล์มบ่อยมาก คุณพ่อคุณแม่เก๋บอกว่ารถติดฟิล์มกลางๆ ก็พอ เพราะว่ากันแสงกันแดด แต่ว่าอย่ามืดหมด อันตราย แล้วพี่เขาก็บอกว่าไม่ได้ เป็นผู้หญิงขับรถติดฟิล์มมืดๆ เดี๋ยวเราโดยทำร้ายหรือเกิดอะไรขึ้นคนไม่เห็นจะทำอย่างไร เราก็ลอกฟิล์มออกขับรถกระจกใสแว้บ แล้ววันดีคือดีก็จะมีข่าวปล้นนู่นนี่นั่น เขาก็เป็นห่วงเรา ก็ขับรถจากบางนา แล้วมาหาเราที่ปิ่นเกล้า เพื่อที่จะขับรถตามกันไป 2 คันไปมหาวิทยาลัยเพื่อที่เขาจะขับ คอยคุ้มครองคอยดูแลให้เรา แล้วต่อมาอีกคนให้ติดฟิล์มมืดไปเลย มืดจนขนาดเก๋ขับเองตอนกลางคืนยังมองไม่เห็นเลยค่ะ เพราะจะได้ปลอดภัย เขาเป็นห่วง ไม่อยากให้คนที่มองเข้ามาว่าเห็นเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียว
ถาม แต่ในบรรดาการห้ามของแต่ละคน จะสงสัยตอนที่เราบอกว่าก็ได้ เดี๋ยวฉันทำแบบนั้นให้ ซึ่งในตอนนั้นเองเราก็รู้สึกว่าเราทำได้
เก๋ ชลลดา : เราทำได้ค่ะ เพราะว่าทุกคนขอเราแบบน่ารักมากค่ะ แบบผมรักคุณนะ ฉันรักเธอนะ พี่รักน้องนะ พี่เป็นห่วงน้องนะ ทำให้พี่สบายใจได้ไหมมันจะเป็นคำพูดที่น่ารักค่ะ มันจะเป็นคำพูดดีๆ เก๋เป็นคนที่ถ้าพูดดีๆ จะทำให้
ถาม แล้วอย่างคนที่ขี้หึงจัดมาก คนนั้นเลิกกันยังไง
เก๋ ชลลดา : ตอนนั้นเก๋รู้สึกว่ามันคือการตีกรอบมากๆ ค่ะ พอเราอนุญาตให้เขาเข้ามามีบทบาทในการตัดสินของเราในทุกเรื่อง มันเป็นความพลั้งเผลอ เหมือนเราไปสปอยล์เขา เก๋ไม่อยากโทษเขา เก๋โทษตัวเองนะคะ คือเก๋ไปอนุญาตให้เขามีสิทธิ์มีเสียงขนาดนี้ เขาก็เลยย่ามใจเข้ามาทำทุกอย่าง มาจัดการชีวิตเราจนกลายเป็นการมาบงการชีวิตเรา เราก็เลยรู้สึกอึดอัดและรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ บังคับทุกเรื่องเลย เก๋ว่าความเชื่อใจมันไม่มากพอ
ถาม แล้ว เก๋ ชลลดา ตอนอกหักเป็นยังไง
เก๋ ชลลดา : ทุกการเลิกรา เก๋เสียใจทุกครั้งนะคะ เสียใจมีน้ำตาทุกครั้งพูดเลย แล้วก็พยายามอยู่ให้ได้ เคยเหมือนกันนะคะที่แบบเราเลิกกันแล้วเหรอ เดี๋ยวจะไม่มีโทรศัพท์สายนี้เข้ามา จะไม่มีคำพูดแบบนี้แล้วเหรอ จะไม่มีอะไรแบบนี้แล้วเหรอ เก๋ ก็จะปล่อยให้ตัวเองเศร้านะคะ ไม่ฝืน แต่ว่าจะเป็นการเศร้าที่ไม่นานมาก เก๋ก็จะส่องกระจกสะกดจิตตัวเองแล้วว่าเราอยู่มาได้ขนาดนี้แล้ว สมมตินะคะ เลิกกันตอนอายุ 25 ปี เราอยู่มา 25 ปีแล้วเรายังอยู่มาได้เลยโดยที่ไม่มีเขาคนนั้น พ่อแม่เพื่อนเราที่มีพอไหม แล้วหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร แล้วถ้าเรากลับไปเป็นแบบเดิมมีความสุขจริง มีเขาอยู่แต่เป็นแบบนั้นเอาไหม คือเก๋จะมีเหตุผลตลอดเลยค่ะ
ถาม เคยไหมที่เหตุผลเอาอารมณ์ไม่อยู่
เก๋ ชลลดา : ก็มีบ้างนะคะ มีพลาดพลั้ง มุทะลุไป เหมือนกับพลาดไปมีค่ะ แต่ว่า เอาก็เอา อีกสักตั้งหนึ่ง แล้วกระโดดกลับเข้าไปใหม่ในความสัมพันธ์นั้น ก็รู้สึกเลยว่าถ้าต้องเสียใจเนี่ย ต้องเตรียมสมน้ำหน้าตัวเองนะ บอกตัวเองไว้เลยว่าต้องเสียใจ เขาเปลี่ยนไม่ได้หรอก ทุกอย่างของการเลิกรา เก๋รู้สึกว่าคนเราถ้าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราคิดว่าเราเปลี่ยนเขาได้ ไม่ได้ว่าเขาไม่ดีนะคะ แต่เราจะเปลี่ยนให้เขาเป็นอย่างที่เราถูกใจให้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วในโลกนี้มันไม่มีความพอใจนั้นหรอก ซึ่งมันก็ไม่ได้อยู่ดี เขาไม่มีทางเปลี่ยนให้เรา มันก็จะเป็นความสัมพันธ์ที่ยื้อกันไปอย่างนี้ และมันก็จะเสียเวลา เก๋รู้สึกว่ายิ่งนาน ยิ่งเจ็บนาน ยิ่งเสียเวลางั้นตัดเลยเถอะ
ถาม เป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ แต่ก็เป็นผู้หญิงที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียน เล่าหน่อยว่าจะต้องมีต้องทำอะไรบ้าง
เก๋ ชลลดา : เก๋ว่าจริงๆ แล้วมนุษย์เราทุกคนไม่ชอบการสั่ง แต่ชอบการขอหรือการโน้มน้าวใจ มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งด้วยพูดให้เขาทำตามกับเรา แทนที่เราจะบอกว่าทำอันนี้ๆ สั่งๆ มาด้วยกันเถอะ อะไรอย่างนี้ มาด้วยเถอะหรืออะไรอย่างนี้ คือ ต้องให้เราเห็นด้วยกันเราก่อนค่ะ รู้จักการพูดแบบพี่คะ แบบนี้ใครๆ ก็ทำกัน มันเป็นเรื่องปกติเลยนะคะ จริงๆ แล้วคู่เราไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไรนะ แต่ถ้าเราทำแล้วเราก็จะพิเศษขึ้นมาจากคนอื่น พี่ต้องทำแบบนี้กับเก๋ คนก็จะมองคู่เราด้วยความรักและชื่นชม พี่ไม่อยากจะไปไหนแล้วเป็นที่รักและเป็นที่ชื่นชมเหรอ เนี่ยเพื่อนๆ เก๋ ทุกคนก็จะอิจฉาเก๋หมดเลย ว่าเก๋ได้ผู้ชายโชคดีแบบนี้ ทีมงานถามว่ามีมารยาร้อยเล่มเกวียนไหม บอกว่าถ้าเรียกว่าวิธีการคิดแบบนี้คือมารยาร้อยเล่มเกวียน เราคงมีเป็นพัน หมายความว่าเราต้องคิดแล้วค่ะ คิดและรู้จักพูด และก็เสนอให้เขาเห็นต่าง เก๋พยายามจะพูดเป็นภาพสวยงามค่ะ ว่าคนเราเนี่ยคือจูงใจไปด้วยกันว่าพี่คะ เราไปด้วยกันกับความรักครั้งนี้เถอะค่ะ ทำให้โลกเห็นว่าความรักของเรามัน 99 เปอร์เซ็นต์ ทองคำยัง 99.99 เปอร์เซ็นต์เลย หนูไม่ได้ขอ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้นะคะพี่ แต่ว่าเราต้องไปด้วยกันนะคะพี่ เราเป็นคนพวกนโยบายเยอะ พูดแยะ
ถาม อีกเรื่องของเก๋ ชลลดา จากชายในฝัน กลายเป็นรักแท้ เรื่องราวเป็นอย่างไร
เก๋ ชลลดา : เก๋นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว ที่มีข่าวไม่ดี แล้วอยู่ดีๆ เราก็ฝันวันที่ 20 พฤศจิกายน ฝันดีมากอันนี้ ในฝันนะคะ ในฝันเหมือนเราไปล่องเรือเหมือนเรือสำเภา แล้วไม่รู้คิดอะไร ทำไมเอาไปฝัน เป็นเจ้าชายประเทศสเปน 3 คน อยู่ในเรือลำนี้ แล้วเรากำลังจะขึ้นเรือไป แต่ขอโทษนะคะ ผู้ชาย 3 คนนี้ หน้าเหมือนกันหมด เปลี่ยนแค่ทรงผม แต่เขาเป็นคนที่เราไม่รู้จัก ไม่คุ้นหน้าเลยนะคะ ผู้ชายในฝันเหมือนลูกครึ่งหน้าคมๆ เมดิเตอร์เรเนียนค่ะ หน้าเขาจะเข้มๆ และในฝันผู้ชายกำลังบอกเชิญขึ้นเรือ เดี๋ยวเราจะพาไปท่องเที่ยวเมืองเรา แล้วเก๋กำลังจะก้าวขึ้นเรือ ก็มีเสียง ตื่นได้แล้วแก เดี๋ยวตกเครื่อง เก๋ก็โอ๊ย !! อย่าปลุก เชื่อไหมคะระหว่างทางนั่งรถจากบ้านไปสุวรรณภูมิ พูดกับเพื่อนที่มาปลุกเราตลอดเลยว่าแกไม่น่ามาปลุกเลย เมื่อกี้กำลังจะเอื้อมมือ กำลังจะเลือกคนไหน แต่เราก็จำหน้าเขาไว้นะคะ แล้วเราก็บินไปเชียงใหม่ งานคือวันที่ 21 พฤศจิกายน ทำงานเป็นพิธีกร จำได้เลยพี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม อยู่ในเหตุการณ์ด้วย กำลังประกาศว่าลำดับต่อไปนะคะ ขอเชิญคุณพร้อม สิริสันต์ ขึ้นมาบนเวที เก๋เป็นพิธีกรเชิญผู้บริหาร เพราะเป็นบริษัทอินเตอร์ พร้อมเดินมาจะขึ้นเวที ไฟก็จับไปที่เขา เราหันไปปุ๊บ ตอนนั้นเก๋อึ้ง แล้วเดินลงจากเวทีไปเลย คือตกใจมาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ผู้ชายหน้าแบบนี้คือผู้ชายที่อยู่ในฝันเรา แล้วเราก็เดินลงมาจากเวทีแล้วบอกพี่คิ้ม หนูเจอผู้ชายในฝัน พี่คิ้มเขาก็บอกเราบ้าเปล่า กลับขึ้นไป มาบ้าผู้ชายอะไรตอนนี้ กลับขึ้นไปทำงานก่อน ตั้งสติๆ เราก็บอกว่าไม่ใช่พี่คิ้ม หนูไม่ได้บ้าผู้ชาย เพราะเราอยู่ในวงการบันเทิงมา เจอคนหน้าตาหล่อ เราไม่ได้ตื่นเต้น แต่เขาใช่คนที่อยู่ในฝันของเรา ถ้าเอาจริงๆ สเปกของเก๋ ไม่ได้ชอบคนตัวใหญ่ ล่ำเหมือนพร้อมนะคะ เก๋ชอบผู้ชายบางๆ มือสวยๆ ดูการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ว่าพร้อมรูปหล่อดูดีในสไตล์เขา แต่ว่าไม่ใช่คนที่เป็นสเปกที่กรี๊ดกร๊าด แต่เพราะเราเห็นเขามาก่อนในฝันของเราจริงๆ เชื่อไหมคะ อีเวนต์นี้ตื่นเต้น สมองไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อ่านสคริปต์ งง เบลอ แล้วขอโทษนะคะ ดูเป็นคนหิวมาก เราอ่านสคริปต์ไปแล้วก็มองเขาไป ทำไมมันเหมือนมาก ถามว่ามันใช่รักแรกพบไหม ความรู้สึกมันผสมผสานค่ะ ตอนนั้นเก๋จำแนกอารมณ์ไม่ถูก เราตื่นเต้นมาก
ถาม รอเวลาถึง 10 ปีแล้วค่อยแต่งงาน ทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ???
เก๋ ชลลดา : การเดินทางของความรัก เก๋อยากจะเก็บช่วงเวลาการเป็นแฟน พอเป็นแฟนกันแล้ว มันมีความสุขมากจริงๆเพราะพอเราเจอคนที่ใช่ คนที่พร้อม มันจะไม่มีปัญหาเลย ไม่เคยทะเลาะ ไม่เคยหึง ไม่เคยนอกใจ เก๋ขอบคุณเขาทุกปีนะคะทุกวันครบรอบของเราที่เรารู้จักกันก็คือทุกวันที่ 21 พฤศจิกายน ก็จะพูดตลอดเลยว่าขอบคุณมากเลย การ์ดทุกปีจะเขียนบรรยายความรู้สึกตลอดหนึ่งปีของการเดินทางของความรัก ก็จะบอกเขาทุกวันว่าขอบคุณมากเลยนะ เขาเป็นของขวัญจากพระเจ้าจริงๆ เป็นของขวัญจากฟ้าจริงๆ ที่มาให้เก๋ ความดีที่คนชอบพูด เก๋ได้ของขวัญแล้วเลยเป็นคู่ชีวิต คู่คิด เป็นเพื่อนแท้ยามแก่เฒ่าให้เก๋ จริงๆ คือเขาพร้อมมากในทุกอย่างดีกับครอบครัว รักเพื่อนฝูง แล้วพร้อมเขาเป็น A few good man แบบในภาพยนตร์เลย เขาเป็นคนดีของสังคมด้วย ไม่แซงคิว ไม่เอาเปรียบ ไม่ชอบอภิสิทธิ์ชน เขาน่ารักในทางของเขามากๆ ถามว่าทำไมถึงแต่งงานช้า เพราะว่าลึกๆ ในใจ เก๋กับพร้อมค่อนข้างจะสมัยใหม่นิดนึง เก๋ไม่ได้ต้องการแต่งงาน แต่ว่าเป็นการแต่งงานที่พอเราถึงจุดหนึ่งของชีวิต รู้สึกว่าเราควรจะมีความสุขบนความสุขของคนรอบข้างด้วย ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆและครอบครัวได้มายินดีกับเรา เพราะเก๋คิดว่าการแต่งงานไม่ใช่บทพิสูจน์ทุกอย่างในความรัก ซึ่งโมเมนต์ในการขอแต่งงานของพร้อม คือเกินความคาดหมายทุกอย่างเลยค่ะพี่ฉอด ที่เราดูจากเพื่อน จากอะไรมา ไม่คิดว่าจะเกิดกับเรา พร้อมเขาจะมีบางอย่างคือเขาจะมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง เก๋ว่าความรักส่วนหนึ่งที่เราดำรงมาได้ 9 ปีเต็ม เพราะว่ามันไม่ได้หวือหวาด้วยค่ะ เหมือนกับราบเรียบมั่นคง และมันสวยงามในแบบของมัน จนกระทั่งวันหนึ่งเก๋คิดว่าเขาคงไม่มีทางที่จะคุกเข่าขอแต่งงานเด็ดขาด ขาก็บอกกับเราว่าไม่มีนะ ไม่ทำนะ เพราะเขาจะพูดไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมันเกิดกับเราคืออะไรที่ไม่คาดหวัง พอได้มามันเหมือนเป็นของแถม เหมือนถูกรางวัลที่ 1 เป็นเซอร์ไพร์สที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็ปี 2017 เราไปเที่ยวกัน แล้วเขาพูดประมาณว่า วิวแบบนี้มันจะสวยมากต่อเมื่อเราจะรู้ว่าเราจะดูมันไปจนวันสุดท้ายชีวิตกับใคร แล้วเก๋ก็หันไปว่า ตกลง เขาบอกว่าผมยังไม่ได้ขอ (หัวเราะ) เขาก็บอกเก๋ว่า ผมก็บอกเก๋ แล้วว่าผมไม่ทำแบบนั้นหรอก ซึ่งทริปนั้นก็เที่ยวกันไปมีความสุขไปจบไปไม่มีอะไร จนกระทั่งเหตุการณ์จริง ทุกอย่างที่บอกว่าผมไม่เซ็ต ผมไม่เซอร์ไพร์ส ผมไม่นัดแนะ ทุกอย่างเลย เกิดขึ้นที่ Lake Como ที่ อิตาลี ที่ปราสาทหนึ่งที่เขาถ่ายเรื่อง Star Wars และ ปี 2019 ก็คือวิลลาคือปราสาท ที่เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวจอง พร้อมเขาก็จองเข้าไป ซึ่งวันที่พร้อมเขาจะขอเรา เก๋ก็รู้สึกแปลกใจที่สำคัญ เก๋คิดว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าทริปนี้มีพี่แพร และหลานๆ ของพร้อมเขาไปด้วย เราก็คิดว่าพร้อมเขาไม่มีทางที่จะขอเราต่อหน้าเด็กหรอก ซึ่งทริปนั้นคือราบรื่นมากเลยนะคะ แล้วเก๋ก็เอากล้องไปถ่ายรายการลงยูทูบด้วย ซึ่งระหว่างที่เราถ่ายอยู่ พร้อมเขาก็เดินมาจับแขนค่ะ แล้วเขาก็พาเราเดินไปแล้วคุกเข่า แล้วก็มีคนมาถ่ายรูปเรา ยังไม่ได้ขออนุญาตเลย เราก็บอกว่าขออนุญาตยังคะ แล้วเราก็บอก พร้อมว่าคุกเข่าทำไม ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลย แล้วพร้อมเขาก็หยิบแหวนจากสูทเขาออกมาขอเราแต่งงาน ซึ่งตลอดทริปเรายังพูดกันเลยว่าเมืองนี้เป็นเมืองของ จอร์จ คูลนีย์ นะ เขาเป็นผู้ชายที่เป็นหนุ่มโสด เขายังลงเอยกับผู้หญิงที่เขารักเลย ซึ่งในบทที่พร้อมเขามาพูดขอเราแต่งงาน เขาบอกว่าเขาไม่ใช่ จอร์จ คูลนีย์ นะ แต่เขาแค่ พร้อม สิริสันต์ คุณจะแต่งงานกับผมไหม ทุกการเซอร์ไพร์ส ทุกความรู้สึกที่เก๋ได้ยิน เพื่อนผู้หญิงที่โดนขอแต่งงาน ทุกความรู้สึกมันเกิดขึ้นหมดเลยกับตัวเราวันนั้น น้ำตาคือออกมาเป็นเม็ดๆ
สามารถชมคลิปย้อนหลังทางยูทูบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เคลลี่ ธนะพัฒน์ รับยังไม่พร้อมมีรักครั้งใหม่ แต่เชื่อว่าสักวันต้องเจอเนื้อคู่
- เปิดความลับที่ไม่เคยบอกที่ไหน คนแบบ ต๊อก ศุภกร มีแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ในโลก !
- แยม ฐปณีย์ ลุ้นเจอคนที่ใช่ หวังสละโสดตอนอายุ 60 ปี ตามคำทำนาย
Advertisement