พรรคก้าวไกล เข้าทำเนียบ พรรคการเมืองลำดับที่ 111 ที่ถูกศาล รธน.สั่งยุบพรรค

พรรคก้าวไกล เข้าทำเนียบ พรรคการเมืองลำดับที่ 111 ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

คอนเทนต์แนะนำ

สายเหนือเริ่มแน่น! ปชช.ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา

เปิดยิ่งใหญ่! เทศกาลอาหารสมุทรปราการ กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

หมอสุรัตน์ เปิดข้อมูลชัดๆดื่มแค่ไหนถึงตาย ฉะคอนเทนต์ขยะ

จากกรณีที่ วันนี้ (7 ส.ค.67) คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 9 ต่อ 0 เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีการสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งชุดที่ 1 และ 2 ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 จนถึง 31 มกราคม 2567 รวมทั้งสิ้น 11 คน เป็นเวลา 10 ปี

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญขึ้น ในปี 2540 พบว่า มีพรรคการเมืองถูกสั่งยุบไปแล้ว 110 พรรค ถ้ารวม พรรคก้าวไกล ที่โดนคำสั่งในวันนี้ก็จะรวมเป็นทั้งสิ้น 111 พรรค โดยสาเหตุและที่มาของการยุบพรรค แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ การที่พรรคการเมืองไม่ปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด, การขาดคุณสมบัติความเป็นพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด และมีพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับคดีล้มล้างการปกครอง

สำหรับคดีแรกที่มีการยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรค เกิดขึ้นในปี 2541 โดยอัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ยุบ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า โดยกล่าวหาว่ากระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66 (2) และ (3) แต่สุดท้ายพรรคเก่าแก่อย่าง พรรคประชาธิปัตย์ รอดไม่ถูกยุบ แต่ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ไม่รอดถูกสั่งยุบ และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคจำนวน 9 คน เป็นเวลา 5 ปี ทำให้ พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า เป็นพรรคแรกที่เจอคำสั่งนี้

จากนั้นก็มีคำสั่งยุบพรรคการเมืองตามมาเรื่อยๆ ดังนี้

• ปี 2541 1 พรรค
• ปี 2542 4 พรรค
• ปี 2543 4 พรรค
• ปี 2544 18 พรรค
• ปี 2545 19 พรรค
• ปี 2546 10 พรรค
• ปี 2547 11 พรรค
• ปี 2548 10 พรรค
• ปี 2549 4 พรรค
• ปี 2550 11 พรรค
• ปี 2551 3 พรรค
• ปี 2553 3 พรรค
• ปี 2555 2 พรรค
• ปี 2556 2 พรรค
• ปี 2557 2 พรรค
• ปี 2558 1 พรรค
• ปี 2559 2 พรรค
• ปี 2560 1 พรรค
• ปี 2562 1 พรรค
• ปี 2563 1 พรรค
• ปี 2567 1 พรรค

อย่างไรก็ตาม มีพรรคการเมืองขนาดใหญ่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจนกลายเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และนี่คือ เหตุยุบพรรคครั้งใหญ่ที่เราขอย้อนให้ทุกคนมาทบทวนความทรงจำ

• ยุบพรรคไทยรักไทย ปี 2550

วันที่ 30 พ.ค. 2550 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9 ต่อ 0 ยุบพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ของ ทักษิณ ชินวัตร จากเหตุคำร้อง มีการกระทำล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฯ และกระทำการอันอาจเป็นภัยความมั่นคงแห่งรัฐ หรือขัดต่อข้อกฎหมายฯ จ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทย, พรรคพัฒนาชาติไทย และพรรคแผ่นดินไทย ทำให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 111 คน พรรคพัฒนาชาติไทย ถูกตัดสิทธิ 19 คน พรรคแผ่นดินไทย ถูกตัดสิทธิ 3 คน เป็นเวลาคนละ 5 ปี

• ยุบพรรคพลังประชาชน ปี 2551

วันที่ 2 ธ.ค.2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน จากกรณีที่ ยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค ทุจริตการเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย ส่งผลให้ กรรมการบริหารถูกตัดสิทธิ 37 คน เป็นเวลา 5 ปี

นอกจากนี้ ปีเดียวกัน พรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่กรรมการบริหารพรรคกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเช่นกัน โดยคดีนี้ ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทย 43 คน และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย 29 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

• ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ปี 2562

วันที่ 7 มี.ค.2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ กรณีเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีฯ อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีการเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ถูกตัดสิทธิทางการเมืองทั้งหมด 37 คน คนละ 10 ปี

• ยุบพรรคอนาคตใหม่ ปี 2563

วันที่ 21 ก.พ.2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคให้กู้เงิน จำนวน 191 ล้านบาท ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมองว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมือง ทำให้กรรมการบริหารพรรค 16 คน ถูกตัดสิทธิการเมืองเป็นเวลา 10 ปี รวมถึง นายธนาธร หัวหน้าพรรค จนกระทั่งสมาชิกพรรคได้ออกมาก่อตั้ง พรรคก้าวไกล ในเวลาต่อมา

• ยุบพรรคก้าวไกล ปี 2567

วันที่ 7 ส.ค.2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล ด้วยมติ 9 ต่อ 0 เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีการสั่งตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล รวมทั้งสิ้น 11 คน เป็นเวลา 10 ปี ได้แก่

(1) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(2) ชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(3) ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
(4) ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
(5) ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ
(6) สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้
(7) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง
(8) อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(9) เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(10) สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนปีกแรงงาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
(11) อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ

และนี่บันทึกประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรื่องคำสั่งการยุบพรรคการเมืองที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็สะเทือนหัวใจกองเชียร์ และอุณหภูมิด้านการเมืองให้ร้อนระอุทุกครั้ง