นายกฯ ถกความปลอดภัยบนท้องถนน จ่อปรับกฎหมาย-ข้อบังคับให้ทันสมัย

“นายกฯ” ถกความปลอดภัยบนท้องถนน หลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสนักเรียน ขอหน่วยงานปรับกฎหมาย-ข้อบังคับให้ทันสมัย

คอนเทนต์แนะนำ

ที่สุดแห่งปี 2567 "โศกนาฏกรรมไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาคร่า 23 ศพ"

ทีมชาติไทย บุกพ่าย ฟิลิปปินส์ ตัดเชือกเลกแรก อาเซียนคัพ2024

กัน จอมพลัง เห็นใจ “แบงค์ เลสเตอร์” ทำเพื่อครอบครัว เป็นของเล่นคนรวย

วันนี้ (7 ต.ค.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเรื่องความปลอดภัยทางถนน ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมมีการหารือใน 3 ประเด็น คือ เรื่องโศกนาฏกรรมรถบัสนักเรียนเกิดเพลิงไหม้, มาตรการป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย และมาตรการกิจกรรม รวมไปถึงข้อกฎหมายที่หน่วยงานต่าง ๆ รับผิดชอบ และการเตรียมความพร้อมต้อนรับ Mr.Jean Todt UN Special Envoy for Road Safety ที่จะเดินทางมาประเทศไทยระหว่างวันที่ 1-6 พฤศจิกายนนี้

ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ ทำให้รัฐบาลต้องกลับมามองกรอบทุกอย่างอีกครั้ง และอยากจะให้มีการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งยังมีกฎระเบียบอีกหลายกฎที่ยังไม่อัปเดท และไม่ทันสมัยในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะต้องมีการพูดคุยในเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เพื่อปรับแก้กฎหมาย และข้อบังคับให้เข้ากับยุคสมัย

นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงคมนาคม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องวางแนวทางการใช้รถบัส เช่นเดียวกับบนเครื่องบิน ที่พนักงานบริการต้องบอกเส้นทางออกฉุกเฉินว่าอยู่ตรงไหน ระบบความปลอดภัยใช้อย่างไร รวมไปถึงข้อแนะนำที่มีประชาชนแนะนำในการใช้ประตูฉุกเฉินที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งอยากให้เข้าไปศึกษา เพราะบางอย่างก็มีประโยชน์

นายกรัฐมนตรี ย้ำในที่ประชุมอีกว่า รัฐบาลต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการของสหประชาชาติ ที่จะมีตัวแทนเดินทางเข้ามาร่วมประชุมที่ประเทศไทย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เพื่อให้ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ความปลอดภัยบนท้องถนนมีความสัมคัญ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดช่วยกันออกความเห็นในเรื่องนี้ และอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือความร่วมมือกับภาคเอกชน ที่หลังจากนี้จะต้องมีการจัดทำ WorkShop และผู้ประกอบการรถทัวร์ เพื่อมาพูดคุยกันว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง หรือมีสิ่งที่จะพัฒนาร่วมมือกันอย่างไร และอยากให้รัฐบาลช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งหลังจากการพูดคุยในวันนี้เสร็จเรียบร้อยต้องมีการ WorkShop เกิดขึ้น และจะนำกลับมาเสนอกันอีกรอบหนึ่งว่าจะเป็นในรูปแบบไหน