วันที่ 15 พ.ย. 67 นาย เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในวันที่ 19 พ.ย. 67 นี้ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กระทรวงการคลังจะมีการเสนอแนวทางการกระจายเงินช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ ให้ที่ประชุมพิจารณา
โดยเกณฑ์เบื้องต้น มีความเป็นไปได้ที่จะแจกเงินก้อนเดียวเป็นเงินสด 10,000 บาท จะเริ่มตั้งแต่ 50 ปี หรือ 60 ปี ซึ่งต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบาง ที่แจกผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 เมื่อเดือน ก.ย.
“ทั้งนี้จะต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางที่เคยได้รับเงิน 10,000 บาทไปแล้วก่อนหน้านี้ ช่วงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ที่สำคัญจะต้องมีการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ส่วนกลุ่มอายุที่ได้รับ กำลังพิจารณาว่าจะเริ่มตั้งแต่ 50 ปี หรือ 60 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาที่ประชุม” นายเผ่าภูมิ กล่าว
สำหรับการเสนอการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มนี้มีความสามารถในการทำรายได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งมองว่าการจ่ายเงินก้อนนี้จะมีคนที่ได้รับสิทธิ์ไม่เยอะเหมือนกับเฟสแรก ส่วนจะได้เมื่อไรนั้น ยังต้องรอการประชุมสรุปก่อนซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นปลายปีนี้หรือช่วงต้นปีหน้า สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะมีการเปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เร็ว ๆ นี้ขอให้รอติดตามความคืบหน้า
ยืนยันว่าประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” จะได้รับเงิน 10,000 บาทครบทุกคน เพราะรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับแล้วกว่า 1.8 แสนล้านบาท แต่ระยะเวลาเงื่อนไขจะเป็นอย่างไรจะต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับฟังความฟังความเห็นจากหลายหน่วยงานก่อนที่จะได้ข้อสรุป
สำหรับการประชุมนัดแรกวันที่ 19 พ.ย. 67 นี้ ในส่วนของกระทรวงการคลัง จะมีการเสนอเกี่ยวกับภาพรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นภาพใหญ่ทั้งมาตรการระยะสั้น-กลาง-ยาวเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นครบถ้วนทุกมิติ
ทั้งนี้ การแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางในช่วงที่ผ่านมานั้นกระทรวงการคลังได้มีการประเมินว่าได้ช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 คาดว่าจีดีพีจะโตถึง 4.3-4.4%
Advertisement