วันที่ 2 ม.ค. 68 นาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบเข้มข้นของฝ่ายค้า ในปี 2568 ไปพร้อมกับการรับมือกับนิติสงคราม คดี 44 สส. ที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช. ว่า ในสังคมเรียกร้องพวกเรา และมีเสียงสะท้อนว่าฝ่ายค้านทำงานไม่เต็มที่ ยังลุยไม่พอ แต่อีกด้านหนึ่ง ก็มีขบวนการนิติสงครามเล่นงานเราตลอดเวลา ตั้งแต่พรรคก้าวไกล โดนยุบพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค โดนสารพัด ต่อมาพรรคประชาชน สส.44คน ก็มีคดีรออยู่อีก
ที่ผ่านมาไม่ใช่เราตรวจสอบไม่เต็มที่ แต่เราต้องเอาเวลาไปคิดเรื่องคดีต่างๆ เยอะเหมือนกัน ยอมรับว่าเสียสมาธิ สุดท้ายแทนที่จะโฟกัสการตรวจสอบรัฐบาล ไม่มากก็น้อยเราต้องไปเสียเวลากับคดีความที่เราโดน ต้องมีการวางแผนล่วงหน้ากันเยอะๆ ว่าตกลงเราจะเหลือขุนพลต่างๆ เท่าไหร่ ต้องมีฉากทัศน์ที่เราเตรียมเอาไว้ เป็นต้น
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ประเทศของเราพอจะตรวจสอบก็ลำบาก เพราะคนตรวจสอบอาจจะซวยเสียเอง ยกตัวอย่างเหมือนปัญหากรณีเวลาวิ่งผลัด เรายังรู้ว่าเราต้องวิ่งไปตรงไหน ทีนี้ระหว่างวิ่งมันโดนยิงเสียก่อน บรรดาหมอ พยาบาล ที่เอาเปลลงไปหามคนบาดเจ็บ บางทีก็ต้องลงไปวิ่งเสียเอง หรือถ้าเปรียบเป็นเกมฟุตบอล ที่กรรมการพร้อมจะตัดสินให้เราผิดตลอดเวลา บางทีมีใบแดงแถมให้ไล่ออกจากสนามอีกด้วย
ซึ่งในทางการเมือง ตนรู้มันไม่ใช่เกม พรรคประชาชนจะรับมือนิติสงครามอย่างไร ตอบตรงๆ ว่า มีทั้งปัจจัยที่คุมได้และคุมไม่ได้ โดยสำหรับปัจจัยที่คุมได้ คือการรวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดี เราทำเต็มที่ แต่ว่าสุดท้ายดูเหมือนว่าประเทศเราก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพยาน หลักฐาน และกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย หรือไม่ อย่างไร ถ้าจะไล่เรียงพูดถึงตัวอย่าง ตนพูดเป็นชั่วโมงก็ไม่จบ ดังนั้น ตนคิดว่า บางอย่างเราคุมไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างที่บอกให้มันรู้กันไปว่าประเทศนี้ฝ่ายตรวจสอบ โดนเล่นงานทางกฎหมาย และตนคิด และตั้งคำถามเหมือนกันว่า ยิ่งฝ่ายตรวจสอบโดนแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันดีต่อประเทศไทยจริงหรือเปล่า
Advertisement