Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“กลุ่ม สว.สำรอง” จี้ “DSI" รับคดีฮั้ว สว. บล็อกโหวตเป็นคดีพิเศษ

“กลุ่ม สว.สำรอง” จี้ “DSI" รับคดีฮั้ว สว. บล็อกโหวตเป็นคดีพิเศษ

10 ก.พ. 68
19:05 น.
|
58
แชร์

กลุ่ม สว.สำรอง จี้ DSI รับคดีฮั้ว สว. บล็อกโหวตเป็นคดีพิเศษ ด้านอธิบดีดีเอสไอ เผย ทั้งการสอบพยาน หลักฐานสำคัญ เชื่อได้ว่ามีความผิดปกติจริง

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ กลุ่ม สว.สำรอง หรือ กลุ่ม สว.เพื่อประชาชน นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เร่งรัดคดี “โพยฮั้ว” ผลการเลือกตั้ง สว.2567 ให้เป็นคดีพิเศษ โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเรื่องร้องเรียนและให้ข้อมูลความคืบหน้า

โดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว แกนนำกลุ่ม สว.สำรอง เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้ง สว. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้กว่า 230 วัน มีการร้องเรียนมาตลอด ทั้งการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตและไม่เป็นธรรม ทั้งการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ประมาณ 570 เรื่อง และในหลายเรื่องเราได้ติดตามทวงถาม กกต. เรื่อยมา โดนเฉพาะในเดือน ม.ค.68 ทาง กกต. ได้ตอบกลับพวกเราว่าในหลาย ๆ เรื่องมีการยุติคำร้อง และยกคำร้องกว่า 200 เรื่อง ดังนั้น จึงยังเหลือประมาณ 300 กว่าเรื่องที่ยังอยู่ในส่วนการตรวจสอบของ กกต. แต่ตอนนี้เหลือเวลาประมาณ 100 กว่าวัน จึงตั้งข้อสงสัยว่า กกต. จะสืบสวนสอบสวนภายใน 100 วัน กับเรื่องกว่า 300 เรื่อง ให้เสร็จสมบูรณ์ เป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมได้หรือไม่ เพราะกลุ่มขบวนการฮั้วโหวต บล็อกโหวต จัดทำโพยเหล่านี้ ต้องยอมรับว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายขนาดใหญ่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย มีการกระทำผิดหลายพื้นที่ต่างกรรมต่างวาระ มีการดำเนินการอย่างปกปิดเร้นลับ มีการนัดหมายเฉพาะกลุ่ม มีการวางแผนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง สว. ระหว่างการเลือกตั้ง สว. และหลังการเลือกตั้ง สว. ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ยังมีพฤติการณ์ควบคุมกำกับกันในการลงมติหรือลงคะแนนต่าง ๆ

พล.ต.ท.คำรบ เผยต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีการจ่ายเงินให้กัน เราได้รวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะกรณีเมื่อวันที่ 23-24 มิ.ย.67 ก่อนมีการเลือกตั้ง กลับพบว่ามีการนัดหมายไปนอนตามโรงแรมต่าง ๆ รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการนัดหมายจัดทำโพย เขียนโพย มีฝ่ายเทคนิกออกแบบกำหนดเกณฑ์การกาเบอร์เพื่อให้ได้ สว. ตามที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม พวกเราได้มีการหาข่าวทางลับมาตลอด ประสานกับดีเอสไอมาต่อเนื่อง เนื่องด้วยเมื่อเดือน ส.ค.67 - ก.ย.67 เราได้มาร้องเรียนไว้ที่ดีเอสไอ ก่อนที่จะมีการสืบสวนมากันระดับหนึ่ง และพบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทั้งนี้ ในปัจจุบันเราพบโพยจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 10 โพยจากบุคคลต่าง ๆ และต่างที่ต่างถิ่นกัน โดยมีตัวตนจริงเพียง 10 กว่าโพย และเมื่อกางโพยดูพบว่าในจำนวนนี้มี สว. ที่อยู่ในสภาปัจจุบันอยู่ถึง 140 รายที่เกี่ยวข้อง และมีส่วนที่ได้มาเป็น สว.โดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้น อาจต้องมีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะพฤติกรรมกลุ่มนี้สรุปได้ว่ามีลักษณะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ดังนี้ 1.ความผิดในลักษณะการจัดตั้งกลุ่มกลุ่มขบวนการที่ปกปิดวิธีการดำเนินงานและมีความมุ่งหมายมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดฐานอ้างยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 2.ความผิดในลักษณะชักจูง ชี้นำ จัดตั้งกลุ่มขบวนการเลือก สว. อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนที่จัดตั้งล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (3) และ 3.ความผิดในการให้สัญญาจะให้ เพื่อให้บุคคลลงคะแนนในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมอันเป็นความผิดตาม พรป.ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 77 (1) และความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

พล.ต.ท.คำรบ เผยอีกว่า ตนมองว่าดีเอสไอมีศักยภาพทางเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากร จึงมาร้องขอให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้ไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ขณะที่ในส่วนของ กกต. จะดำเนินการในส่วนของ พรป.ว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา 2561 เพื่อที่จะได้ไปดำเนินการสอยหรือถอดถอนบุคคล ส่วนดีเอสไอจะดูเรื่องความผิดในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องแทน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าจากการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ สว. 100 กว่าคนในสภา อาจรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ จากสิ่งที่ตนทำไว้ได้ ทั้งนี้ ตนมองว่าหากต้องการผ่อนหนักเป็นเบา ตนอยากฝากให้เพื่อนสมาชิกว่าหากอยากบรรเทาขอให้กลับตัวมาเป็นพยาน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และตนขอย้ำว่า อยากขอให้ดีเอสไอรับดำเนินการเป็นคดีพิเศษ

ด้าน นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เผยว่า ขอยืนยันว่าทุกเรื่องที่ประชาชนคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรมยินดีรับเรื่องราวไปดำเนินการ พร้อมย้ำว่า กระทรวงยุติธรรมจะช่วยขจัดปัดเป่าความเดือดร้อนของผู้ร้อง เพราะเราทราบว่าทางผู้ร้องได้มีการมาร้องขอให้ดีเอสไอตรวจสอบตั้งแต่ช่วงกลางปีจนถึงท้ายปี 2567 และได้มีการติดตามทวงถามความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เรียนว่ากระทรวงยุติธรรมตระหนักดีว่า สว. ถือเป็นองค์กรสำคัญระดับชาติทางด้านนิติบัญญัติ เราจึงไม่ได้นิ่งนอนใจ อีกทั้งขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างรอกระบวนการตอบกลับจากทาง กกต. ว่ามีความประสงค์จะให้ดีเอสไอดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะทางดีเอสไอได้มีหนังสือแจ้งไปยัง กกต. ว่ามีผู้มาร้องเรียน แต่ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอก็ได้มีการตั้งเลขสืบสวนคู่ขนานกับการตรวจสอบของ กกต. ทั้งนี้ หาก กกต. ประสงค์จะรับเรื่องไปดำเนินการเอง กกต. จะต้องตอบกลับมายังดีเอสไอภายใน 7 วัน

“มาตรา 49 พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ กำหนดไว้ชัด เมื่อความปรากฏต่อพนักงานว่าหน่วยงานของรัฐได้รับเรื่องกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกและพรรคการเมือง ถือเป็นอำนาจของ กกต. ที่ท่านจะต้องแจ้งเรื่องกลับหน่วยงานภายใน 7 วัน แต่ถ้าเป็นความผิดอื่น มีการร้องเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวกับการเลือกและพรรคการเมืองนั้น ดีเอสไอจะพิจารณาได้” นายสมบูรณ์ ชี้แจง

ขณะที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผยว่า วันนี้ถือเป็นการยื่นเรื่องเพิ่มเติมจากทางผู้ร้อง เพื่อขอให้ดูเรื่องการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการรับเรื่องร้องเรียนให้มีการตรวจสอบกระบวนการได้มาของ สว. ไว้ตั้งแต่กลางปี 2567 และดีเอสไอก็ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง กกต. เพื่อให้ความปรากฏ และเพื่อให้ กกต. พิจารณาว่าในเรื่องนี้ กกต. จะรับเรื่องไปดำเนินการหรือไม่ หรือจะมอบหมายดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินการ แต่ขณะเดียวกันเราก็มีการดำเนินการตั้งเลขสืบสวนคู่ขนานกับ กกต. ซึ่ง กกต. เองก็ได้ตั้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายหน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอ สำนักงาน ปปง. เป็นต้น เพื่อร่วมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนในเรื่องของความผิดนั้น กกต. จะเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.67 กกต. ได้ส่งหนังสือมาถามดีเอสไอ ว่าทางเราได้รับเรื่องไว้ดำเนินเนินการกี่เรื่อง รับคำร้องอย่างไร ผลการดำเนินการเป็นเช่นไร จึงทำให้เราได้ตอบกลับไปยัง กกต. เมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 ว่า กกต. มีมติอย่างไร จะให้เราดำเนินการในส่วนไหนอย่างไร ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการแจ้งกลับจากทาง กกต. เพราะในส่วนของข้อกฎหมายได้กำหนดให้เจ้าภาพ คือ กกต. ส่วนดีเอสไอก็มีการตั้งเลขสืบสวน (เลขสืบสวนที่ 151/2567) ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในชั้นสืบสวน ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำพยาน การรวบรวมพยานเอกสาร พยานวัตถุ พยานบุคคลไว้ตามสมควร

เมื่อถามว่าเรื่องของผู้ร้องนั้น ถือว่าเข้าข่ายรับไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า เรื่องนี้กฎหมายได้กำหนดว่าเรารับเรื่องไว้ทั้ง 2 หน่วย แต่กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าเรื่องใดที่ กกต. จะสามารถเรียกไปทำได้ ก็เป็นอำนาจของ กกต. ตอนนี้เรารอคำตอบอยู่ และการจะรับเป็นคดีพิเศษนั้น ก็อยู่ที่ผลการประชุมของ กกต. ถ้า กกต. สรุปผลการประชุมมอบให้ดีเอสไอทำคดีอาญาในเรื่องใดนั้น ถ้าไม่เข้าความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 แต่เป็นคดีความผิดทางอาญาอื่น เราก็ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. เพื่อมีมติว่าจะรับหรือไม่รับไว้เป็นคดีพิเศษ

พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุต่อว่า สำหรับเลขสืบสวนที่ 151/2567 ซึ่งได้มอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ดำเนินการนั้น เราได้มีการมอบหมายในชั้นสืบสวน เพื่อให้คณะพนักงานสืบสวน กองกิจการอำนวยความยุติธรรม รวบรวมแสวงหาพยานหลักฐาน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีการสอบสวนปากคำพยานใครบ้าง แต่ก็เป็นการสอบถามปากคำบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ ส่วนสามารถตอบได้เลยหรือไม่นั้น ว่าเป็นการฮั้วการเลือก สว. ตนขอยืนยันว่าในตอนนี้ไม่สามารถตอบเช่นนั้นได้ แต่เราพบว่ามันมีความผิดปกติ ทั้งนี้ กรณีที่กลุ่มผู้ร้องได้มาร้องขอให้ตรวจสอบเรื่องอื่นเพิ่มเติม หรือในทางคดีอาญานั้น ยืนยันว่าสามารถใช้เลขสืบสวนเดิมได้โดยไม่ต้องตั้งเลขสืบสวนใหม่ ก็ถือเป็นเรื่องเดียวกันแต่เพียงแค่เป็นการมาร้องฐานความผิดเพิ่มเติม ส่วนกรอบการสืบสวนมีเวลา 6 เดือน แต่ยังสามารถขยายกรอบระยะเวลาได้ ถ้ามีเหตุจำเป็น

พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุด้วยว่า ถ้าหากว่าดีเอสไอสืบสวนแล้วพบการกระทำความผิดทางอาญาตามที่ผู้ร้องได้มาร้องเพิ่มเติมนั้น อย่างไร ณ ตอนนี้ขอรอหนังสือการตอบกลับจาก กกต. ในความผิดช่วงแรกก่อน ส่วนกรณีของวันนี้จะยังไม่ต้องแจ้งหนังสือกลับ กกต.

เมื่อถามว่าหากที่ประชุมของ กกต. ได้พบการกระทำความผิดจริงตามที่ผู้ร้องมีการร้องนั้น จะต้องเกิดการเลือก สว.ใหม่หรือไม่ อย่างไร พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ขั้นตอนการสืบสวนเรื่องนี้ต้องมีการยื่นคำร้องไปให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณา ดังนั้น ตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับทาง กกต. ว่า กกต. จะรับไว้ดำเนินการเองหรือจะมอบหมายให้ดีเอสไอทำในส่วนใดบ้าง ตอนนี้เรารอคำตอบอยู่ แต่ถ้า กกต. มอบให้ดีเอสไอดำเนินการในความผิดอาญาฐานใด เราก็สามารถรับสอบสวนไว้เป็นคดีพิเศษและทำสำนวนส่งพนักงานอัยการได้ในกรณีที่ กกต.  มอบหมาย ทั้งนี้ ให้คำมั่นได้ว่า ในการสืบสวนของดีเอสไอจะไม่มีกระบวนการแทรกแซง เพราะเราทำตรงไปตรงมาตามกฏหมาย จะไม่มีการแทรกแซงหรือการตั้งธง หรือตั้งเป้าใด ๆ ทั้งสิ้น .

Advertisement

แชร์
“กลุ่ม สว.สำรอง” จี้ “DSI" รับคดีฮั้ว สว. บล็อกโหวตเป็นคดีพิเศษ