นายกฯขอประเมิน 2 สัปดาห์หลังตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายกฯ ขอประเมินหลังตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ภายใน 2 สัปดาห์ บอกเปิดฟรีวีซ่า เอื้อจีนเทาเข้าไทย เป็นคนละส่วน ชี้ท่องเที่ยวดีขึ้น GDP พุ่ง SME ได้ประโยชน์
วันนี้ (11 ก.พ.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความคืบหน้าในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากที่มีการตัดแขนตัดขาไปบางส่วนแล้ว ว่า ตอนนี้เท่าที่ดูในเรื่องของไฟนั้น สามารถลดลงไปประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะมีการประเมินอีก 2 สัปดาห์ จะได้ตัวเลขที่ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งจะเก็บตัวเลขจากการที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาหลอกลวงคนไทยลดน้อยลงอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมีการทำตัวเลขรายงานอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าจะเสนอได้ภายใน 2 สัปดาห์
คอนเทนต์แนะนำ
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะต้องมีการดำเนินการอย่างแน่นอน คนที่ทำผิดก็ต้องรับโทษไปตามนั้น
ส่วนที่มีการมองว่าฟรีวีซ่าเป็นช่องทางที่ทำให้จีนสีเทา เข้ามาใช้ประโยชน์ในช่องทางนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้มองเป็นคนละส่วนกัน เราไม่ทราบได้ว่า ใครเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อะไรบ้าง แต่นี่คือผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพราะถ้าหากจะบอกว่าต่อไปนี้ไม่มีมาตรการฟรีวีซ่าแล้ว ก็เป็นคนละส่วนกัน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวเลขปีก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศ 27 ล้านคน และปีที่แล้ว 35 ล้านคน อีกทั้งส่งผลให้ GDP ของประเทศขยับขึ้น สถานประกอบการ ผู้ประกอบการ SME ได้ประโยชน์ ซึ่งย้ำ ว่าตรงนี้เป็นคนละส่วนกัน เพราะฉะนั้นหากจะแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้วยการยกเลิกเรื่องฟรีวีซ่ามันเป็นคนละส่วนกัน การท่องเที่ยวเสียแน่นอน เพราะการท่องเที่ยวดีขึ้นมากๆเพราะมาตรการฟรีวีซ่า
ส่วนคนไทยและชาวต่างชาติที่ถูกบังคับให้ไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชายแดนกัมพูชาและเมียนมา ความคืบหน้าในการพูดคุยระหว่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง การทำงานแบบ Working group เพื่อความรวดเร็วในการจัดการปัญหา ซึ่งปัญหาการถูกหลอก ก็ตั้งทีมหลอกกันไปมา โดยจะใช้การประสานงานตรงนี้ทำงานระหว่างประเทศร่วมกันได้ ซึ่งตอนนี้ได้ประสานงานผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ช่วยดูในเรื่องนี้
Advertisement
