วันที่ 13 มี.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีวิป 3 ฝ่ายยังหารือแก้ไขญัตติที่มีชื่อนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้คำว่า "พ่อ" แทน และขอเวลาการอภิปราย 2 วันว่า อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นกระบวนการที่ควรจะเป็นอย่างนั้น โดย 3 ฝ่ายต้องไปพูดคุยหารือกับนายวันมูฮัมหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
ส่วนมองว่าการอภิปราย 2 วัน ฝ่ายรัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่วิป 3 ฝ่ายคุยกันว่ามีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน หากไม่มีอะไรมาก
"วันก็วัน ครึ่งวันก็ครึ่งวัน แต่หากมีอะไรมาก 2 วัน ก็ต้องให้เขา ถ้ามันมีมากพอ"
แต่ที่สำคัญคืออภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และเรื่องที่อภิปรายก็ไม่ได้มีอะไรมาก เนื่องจากเข้ามาทำงานไม่ได้นาน และมีน้อยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่หากจะตีว่าเกี่ยวพันกับรัฐมนตรีก็ได้ แต่ต้องไปดูว่าต้องมีอะไรจริงๆ แต่การที่ไม่เลือกมาอภิปราย ก็แสดงว่า ไม่มีอะไรมากกับรัฐมนตรี หากมีมากก็คงจะขึ้นมาอภิปรายแล้ว
เมื่อถามว่า หากใช้คำว่า"พ่อ" ในญัตติการอภิปรายยังสามารถพูดถึงนายทักษิณได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การใช้คำว่า "พ่อ" ในญัตติ เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร จริงๆ มีกติกาอยู่แล้ว ว่าจะอธิบายอะไร หากโยงบุคคลภายนอก ปกติไม่ควรเกี่ยว แต่หากคิดว่าเขาทำลายอะไร และมีหลักฐานชัดเจนจะเอาผิดเขา ก็อภิปรายได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรับผิดชอบทุกคนภายนอก ที่ควรมีสิทธิ์ปกป้องตนเอง แต่หากเปิดมาแล้ว มีข้อมูลชัดเจน เขาจะฟ้องอะไรก็ฟ้องไม่ได้ เพราะมันคือข้อเท็จจริง แต่หากเป็นการพูดลอยๆ ก็สามารถฟ้องได้
มันพูดได้อยู่แล้ว จริงๆ การอภิปรายไม่ไว้วางใจเปิดช่องให้ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ถ้า แต่ถ้าเป็นเกมการเมืองเขาป้องกันไม่ให้ไปพูดถึงคนอื่นไปแต่เขานู่นนี่พูดให้เขาเสียหาย มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น เขาไม่มีสิทธิ์จะมาตอบ คนอื่นจะไปตอบแทนก็ไม่รู้จะไปตอบอย่างไร อันนี้ต่างหาก หมายถึงบอกว่า คุณอภิปรายคนนอกไม่ได้ เพราะคนที่ถูกอภิปรายเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะแก้ไข ตนมองว่า เป็นไปตามกฎ ระเบียบ ที่มีอยู่ก็แก้ไขปัญหาได้แล้ว ถ้าไม่คิดเรื่องเกมการเมือง ตนคิดว่าอย่าคิดเลย ขอใช้คำเก่า ประเทศบอบช้ำมานานแล้ว ตนว่าให้เป็นเรื่อง 3 ฝ่ายและประธานสภาผู้แทนราษฎรหารือกัน ส่วนเราก็พร้อม
Advertisement