นายสนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัมภาษณ์ถึง สถานการณ์การเมือง และฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการงบอุดหนุนโมโตจีพี 500 ล้าน ถ้าให้ไปไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งตนคิดว่าหากเรามองการเมืองไทยแบบไร้เดียงสา เราจะไม่เข้าใจอะไรเลย เหมือนการไปสนใจเฉพาะต้นไม้ต้นเดียวไม่มองทั้งป่า และทุกวันนี้การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย มีแต่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตกลงกันได้หรือไม่
ล่าสุดที่ได้ติดตามข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โวยวายว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกแล้ว สำหรับเรื่องถนนพระราม 2 ซึ่งการเมืองก็มีแค่นี้ คือ อวดดี อวดอ้าง แต่ไม่มีอะไรเลย หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ตนจำได้ในขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ปากกล้ามาก และรู้วิธีการแก้ไขปัญหาประเทศชาติหมด แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐมนตรีและต้องแก้ปัญหาราคาข้าวแพงขึ้น กลับขอให้คนไทยช่วยกันกินข้าวเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้สำหรับการเมืองไทย หากไม่มีนักการเมือง ตนมองว่าเมืองไทยก็คงไม่ล่มสลาย แต่เมื่อเราได้ผู้นำที่ดีซื่อสัตย์ เมืองไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งนักการเมืองทุกวันนี้คือการเจรจาต่อรองกันทั้งสิ้น และการเมืองไทยคือประชาธิปไตย 4 วินาที เพราะเมื่อถึงเวลาลงคะแนนเสียง นำบัตรประชาชนยื่นให้เจ้าหน้าที่ รับบัตรมาลงคะแนน เลือกผู้สมัคร และหย่อนบัตร หลังจากนั้นสิทธิ์ถือว่าจบ
เมื่อย้ำว่าการที่พรรคฝ่ายค้านยังไม่ก้าวข้ามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลต่อการอภิปราย และจะสามารถเปิดแผลรัฐบาลได้หรือไม่
นายสนธิ ระบุว่า การเมืองเมืองไทยเป็นการพูดต่อหน้าและแอบไปจับมือลับหลัง ซึ่งตนขอยกตัวอย่าง วันนี้เรามีโรฮิงญา เมียนมา ที่อยู่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือบัตรประชาชน ซึ่งออกโดยทางอำเภอ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีการซื้อขายกันมาอย่างยาวนาน แต่นายอนุทิน ชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่มารับตำแหน่งกับไม่เคยทำหรือพูดเรื่องนี้ และการที่ถูกรุกโดยชาวต่างชาติ นายอนุทิน ต้องรับผิดชอบ แต่สิ่งที่ทำอย่างเดียวคือ “โก้งโค้งหัวแทบจรดพื้น และยกมือไหว้ น.ส.แพทองธาร”
Advertisement