"อาเนวิน" ควง "อาหนู" พา หลานอิ๊งค์ ทัวร์สนามช้างฯ โชว์ระบบความปลอดภัย
"อาเนวิน" ควง "อาหนู" พา หลานอิ๊งค์ ทัวร์สนามช้าง เซอร์กิต โชว์ระบบความปลอดภัยนักแข่ง สยบรอยร้าว เพื่อไทย-ภูมิใจไทย
วันที่ 3 เม.ย. 68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ต.รอนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยมีนาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย รอให้การต้อนรับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อเดินทางมาถึงได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงมหาดไทยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ภายใต้แนวทางนโยบาย 5 ด้าน
อาทิ การจัดระเบียบสังคมปราบปรามผู้มีอิทธิพล การดำเนินงานป้องกันปัญหายาเสพติด การส่งเสริมรายได้ สร้างอาชีพให้กับชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่น ประปาท้องถิ่นสะอาดดื่มได้ เป็นต้น พร้อมรับชมวีดิทัศน์ภารกิจขับเคลื่อนนโยบายสำคัญกระทรวงมหาดไทยของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาเจอทุกท่าน เพราะแค่เดินเข้ามาพบเจอก็รู้สึกถึงความมีสีสัน วันนี้ทุกคนใส่ผ้าไทยที่สวยงามมากๆ มั่นใจว่าท่านจะเป็นตัวแทนในการจำหน่ายผ้าไทยของเราให้ทุกกลุ่มและทั่วโลก พร้อมขอแสดงความยินดีกับนายก อบจ. ที่ได้ผ่านการเลือกตั้งมา และได้ดำรงตำแหน่งในวันนี้
จากนั้นได้กล่าวเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการบริหารราชการระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด ”สานกำลัง สร้างเมือง สู่อนาคต“ โดยระบุว่า ตนมั่นใจในส่วนของท้องถิ่นว่าทุกคนได้ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะในส่วนกลางโดยรัฐบาลได้มอบนโยบายใหญ่ แต่คนที่จะสามารถทำให้นโยบายเกิดขึ้นได้คือทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายก อบจ.
ก่อนย้ำว่า “วันนี้ อยากให้สบายๆ เพราะไม่ได้ใส่เครื่องแบบ ใส่ผ้าไทยที่สวยงาม สามารถยิ้มให้กันได้ ยินดีที่ได้มา และพบเจอกับทุกท่าน หลายจังหวัดที่ตนเองได้ไปได้พบกับผู้ว่าราชการเกือบทุกจังหวัดที่มาต้อนรับ หลายจังหวัดทำงานกับพี่น้องประชาชนจริงๆ และทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนจริงๆ”
ปลายปีที่ผ่านมามีภัยพิบัติต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนสำคัญที่จะใช้งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชน สามารถเข้าไปถึงในแต่ละบ้านได้รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรในท้องที่นั้นๆ สิ่งสำคัญคือ การจะทำให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและนายก อบจ.สามารถประสานนโยบายให้มีทิศทางเดียวกัน เพื่อพัฒนาจังหวัดนั้นๆ ไปในทางที่ตรงกัน ความสามัคคีและการสื่อสาร จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ปัญหาของประเทศไทยและหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือที่มีปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 และมีเหตุแผ่นดินไหว แม้ จ.บุรีรัมย์อาจจะไม่ได้รับผลกระทบมาก ใหญ่ที่สุดคือกรุงเทพมหานครที่ไม่ได้มีผลกระทบทั้งหมด แต่เป็นเรื่องของตึกหนึ่งที่มีปัญหา ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับจังหวัดไหนนั่นคือภาพรวมของประเทศไทย ทุกคนจึงมีส่วนสำคัญในการทำให้ประเทศไทย มีความเชื่อมั่น เป็นภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ฉะนั้นขออย่าคิดว่าเราเป็นจังหวัดเล็กๆ เทียบกับจังหวัดใหญ่ไม่ได้ สมมติว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในจังหวัดเล็กๆ จังหวัดใดก็ตามมีผลทั้งสิ้น เพราะทุกจังหวัดคือประเทศไทย ทุกคนมีส่วนทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าแข็งแกร่ง จึงขอความร่วมมือจากทุกท่าน รัฐบาลอยากจัดสรรงบประมาณให้ทั่วถึงและเหมาะสม เราพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกคน
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึง 4 ประเด็น ที่อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายก อบจ.ร่วมกันทำ ประเด็นแรกคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านการศึกษา สาธารณสุข การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกพูดถึงพลังงานสีเขียว จังหวัดใดที่อยากจะเน้นการท่องเที่ยวต้องโฟกัสเรื่องนี้ เพราะโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มีเทคโนโลยีและ AI เข้ามามากมาย ย่อมใช้พลังงานเยอะ เราสามารถประหยัดพลังงานพลังงานได้อย่างไร จึงอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องการรีไซเคิล และการประหยัดพลังงาน
รวมถึงเรื่องการศึกษา เพราะเป็นการเตรียมเพื่อนำไปสู่อนาคตที่เข้มแข็งได้ ประเทศเราขาดการพัฒนาด้านการบุคคลรุ่นต่อไปจะมีการเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้ทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วัยทำงานต้องเรียนเร่งด่วนเพื่อให้มีทักษะเพิ่มขึ้น ขณะนี้รัฐบาลมีโครงการ ODOS ให้เด็กได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยในสาขาต่าง ๆ โครงการ Zero Dropout ไม่ให้เด็กออกจากระบบการศึกษา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ
ประเด็นที่สองคือ การจัดทำยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัดร่วมกันเพื่อให้จังหวัดและท้องถิ่นมีทิศทางเดียวกัน ทั้งยังต้องประสานงานกับจังหวัดที่ใกล้เคียง ตนเองพร้อมรับฟังจังหวัดต่าง ๆ เสนอผ่านทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อนก็ได้ เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีความต้องการที่ต่างกัน
ประเด็นที่สามคือ การจัดเก็บรายได้และงบประมาณ การขอรับอุดหนุนจากส่วนกลางให้มีความสอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลและความต้องการของประชาชน ยกตัวอย่าง ปัญหายาเสพติดที่อยากจะให้ทุกที่ปลอดยาเสพติด หากเรามีประชาชนที่เข้มแข็งก็สามารถพัฒนาประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงต้องฝากให้ทุกจังหวัดช่วยดูแลเข้มข้น เป็นนโยบายที่รัฐบาลเน้นมาโดยตลอด จนกว่ายาเสพติดจะหมดไปให้ได้
ประเด็นที่สี่คือ การสร้างความร่วมมือกับรัฐบาลในการดำเนินนโยบายรัฐบาลให้บรรลุตามแผนจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัความสำเร็จในการดำเนินงานมีผลต่อการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป ในปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.04
น.ส.แพทองธาร ย้ำว่าอยากให้ทำประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เรามีหน้าที่สวมหมวกเป็นผู้ดูแลท้องถิ่น ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดคือ ตัวแทนของรัฐบาลที่จะทำให้นโยบายจากรัฐบาลไปถึงพี่น้องประชาชนทุกคนจริง ๆ จึงขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน ตนเองอยากใกล้ชิดหรือสร้างปัญหามากยิ่งขึ้น ถ้ามีคิวจะไปจังหวัดไหน ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายก อบจ.สามารถขอเวลาได้ อนุญาตเลย จะได้คุยกันรับรู้ปัญหาทุกจังหวัด
“เป็นนายกฯ อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ต้องมีเอนเนอจี้ด้วย จะได้ปรับเปลี่ยนกัน” น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับกำหนดการในวันพรุ่งนี้ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบรรยายพิเศษหัวข้อ "แนวทางการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ยุคใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์การบริหารส่วนจังหวัด"
ภายหลังจาก น.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดงานเสร็จสิ้น นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ได้สวมเสื้อ “ฅ บุรีรัมย์” มารอต้อนรับ ซึ่งทันทีที่นายกฯ ได้พบนายเนวิน ได้ยกมือสวัสดี และทักทายอย่างเป็นกันเอง ในระหว่างเดินทางเยี่ยมชมสนามช้างฯ โดยมีการชมระบบการจัดการสนาม และระบบความปลอดภัย โดยมีนายโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการสนามฯ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของนายเนวิน ได้เป็นผู้อธิบาย และสาธิตระบบความปลอดภัยผ่านรีโมตคอนโทรล ที่ใช้ในการสื่อสารกับนักแข่งรถให้นายกรัฐมนตรีรับฟัง ก่อนที่นายเนวินจะนำนายกรัฐมนตรีและคณะเข้ารับชมห้องควบคุมปฏิบัติการ
จากนั้นนายเนวิน ได้พานายกรัฐมนตรี เข้าพักผ่อนที่ห้องรับรอง ก่อนที่จะเดินทางกลับ
Advertisement
