ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังไม่ส่งสัญญาณการปรับ พร้อมยอมรับว่ากระแสส่วนใหญ่มาจากการวิจารณ์ของสื่อมวลชน
ส่วนหากจะมีการปรับครม. จริงจะต้องมีการประสานไปยัง หัวหน้าพรรคหรือร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาฯ นางนฤมล ระบุ ก็ต้องคุยกันในพรรคทั้งหมด เพราะต้องเป็นมติของพรรคอยู่ดี ในขณะนี้ภายในพรรคก็ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ และจากการฟังข่าวในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา บรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ต่างก็ระบุว่ายังไม่ได้รับสัญญาเช่นกัน
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์กันหรือไม่ กระแสข่าวดังกล่าวที่ลือกันหนาหู และส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องจริง นางนฤมล รีบตอบกลับ พร้อมกับหัวเราะในทันทีว่า มันก็ไม่จริงหลายอย่างเหมือนกัน พร้อมกับระบุต่อว่า น่าจะเป็นการคาดการณ์ของสื่อและนักวิเคราะห์ ที่คาดว่าอย่างนั้นคาดว่าอย่างนี้
ส่วนทางมีการปรับคณะรัฐมนตรีจริงพรรคกล้าธรรมจะยังคงยืนยันในตำแหน่งเดิมใช่หรือไม่ นางนฤมล ระบุว่า ยังคงยืนยันในสัดส่วนเดิม และเป็นเรื่องที่พรรคอื่นจะต้องไปพูดคุยเจรจากันเอง
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคกล้าธรรมอยากได้กระทรวงมหาดไทย นางนฤมล ยืนยันว่าไม่มี และเรื่องดังกล่าวก็จะยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะอย่างกระทรวงมหาดไทย ก็อยู่ภายใต้กรรมกับดูแลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พอมาบอกว่าพรรคเราจะเข้าไปก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลกันเปล่าๆ และพรรคกล้าทำไม่เคยมีแนวคิดที่จะเอาสัดส่วนของพรรคอื่น และยืนยันว่าเรายังคงดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขณะนี้เองเกษตรกรก็ยังประสบปัญหาอยู่ พร้อมยอมรับว่าได้มีการหารือกับร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งก็มีความเห็นตรงกันว่า ยังพอใจในตำแหน่งและสัดส่วนเดิมอยู่ และยังไม่ได้มีความคิดที่จะขยับไปตรงไหน
ขณะเดียวกันนางนฤมลยังปฏิเสธให้ความเห็นว่าขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ โดยระบุว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตามต้องมีการหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในส่วนของพรรคเราก็ยืนยันในสัดส่วนเดิม พร้อมที่จะทำงานสนองนโยบาย ของนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่
โดยนางนฤมลยังยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกกังวลถึงกระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีที่หนักอยู่ในขณะนี้ เพราะในกระทรวงเกษตรเองก็ทำงานใกล้ชิดกับทั้งข้าราชการมาโดยตลอด และเป้าหมายก็พูดมาชัดเจน ทั้งฝ่ายบริหารที่เป็นข้าราชการการเมือง และข้าราชการประจำถึงภารกิจสำคัญในการถวายงาน และภารกิจการดูแล ความเป็นอยู่ของเกษตรกร ให้ได้รับความเป็นธรรมในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเรื่องการเมืองเราจะไม่เอามาเป็นปัจจัยในการทำงาน
Advertisement