14 กุมภาพันธ์ 2565 ตามความคืบหน้า น.ส.ดาว เปิดเผยว่า เหตุในช่วงวันที่ 9 กุมพาพันธ์ที่โรงเรียนได้มีการทำพิธีไหว้ครูแต่นักเรียนคือลูกชายของตนด้วยความดื้อทำธูปไหว้ครูที่อยู่ในกรวยหายไป 1 ดอก และหลังจากนั้นได้ทำการไหว้ครูเพียงดอกเดียวคุณครูคนดังกล่าวจึงได้นำเรื่องไปเรียนผอ.ก่อนที่เช้าวันที่ 11 ผอ. ได้มาเรียกลูกชายของตนไปทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าเสาธงต่อหน้าเพื่อนๆหลายๆคน ขณะเข้าแถวหน้าเสาธง
ทั้งนี้ จากการสอบถามนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกายก็ระบุว่าครูที่ตนนำดอกไม้ไปไหว้ก็ไม่ได้บอกครูนั้นไม่พอใจที่ตนนำธูปไปไหว้ครูเพียงดอกเดียวแต่อย่างไรจนกระทั้งเช้าอีกวัน ผอ. ได้เรียกให้ตนออกจากแถวหน้าเสาธงเพื่อมายืนหน้าเสาธงก่อนที่จะทำการบิดท้อง 5 ครั้งและบิดหู 2 ของพร้อมทั้งทุบหลังจำนวนหลายครั้งจนทำให้ตนนั้นอาย และได้รับบาดเจ็บกระทั้งพ่อมารับพี่สาวของตนและได้นำเรื่องเล่าให้พ่อฟังก่อนที่พ่อจะทำการปรึกษากับแม่และพาเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองชัยภูมิ
ส่วนเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ต่างพากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังเช่นกันว่าผอ.คนดังกล่าวนั้นได้เคยทำนักเรียนในลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้งและครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกจึงทำให้นักเรียนทุกกลัว ผอ. รายนี้
ทั้งยังขอความเป็นธรรมให้ลูกชายและอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบเพราะว่าครั้งนี้ไม่ได้เกิดกับลูกชายของตนเป็นคนแรกและยังมีลูกของคนอื่นที่เรียนอยู่โรงเรียนนี้ถูกทำร้ายมาก่อนเช่นกันอีกทั้งหลังจากที่ตน และลูกชายได้เข้าแจ้งความไปทางผอ.ก็ได้เข้ามาหาที่บ้านพร้อมกับคำขอโทษแล้วแต่ตนเห็นว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงและมีผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากจึงยังไม่ให้ผอ.ขอโทษแต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขบวนการให้ถึงที่สุด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวโดยได้พบ น.ส.ศรประกาย เหมือนขุนทด ครูประชั้นของนักเรียนชั้น ป.5 กล่าวว่า วันนั้นหลังจากที่เกิดเรื่องตนก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปเรียนต่อ ผอ. ของทางโรงเรียนจริงและยืนยันว่าตนนั้นได้บอกนักเรียนคนดังกล่าวแล้ว แต่ทางนักเรียนก็ได้บอกกับทางตนว่าทำเล่นๆ ก่อนที่จะมีท่าทีเยาะเย้ย ตนจำนำเรียนผอ.ก่อนเข้าแถวในวันนั้น
ด้าน นางพัทธนันท์ พัฒนพุฒิเลิศ ผอ.โรงเรียน ตำบลซับสีทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ตนนั้นยอมรับผิดว่าตนได้ทำต่อเด็กชายชั้นป.5บริเวณหน้าเสาธงจริงอีกทั้งพร้อมยอมรับว่าตนนั้นได้บิดพุง บิดหู และทุบหลังจริง แต่ยืนยันว่าที่ทำลงไปเพราะไม่ได้ทำไปด้วยความเกลียดชังโดยหลังจากที่ได้ทราบเรื่องในตอนเช้า จึงเรียกเด็กได้ออกมาสอบถามและได้สอบถามถึงเรื่องธูปหนึ่งดอกหรือไม่เด็กก็ตอบว่าทราบว่าไว้ไหว้คนตายจึงลงโทษดังกล่าวและให้ไปกราบขอโทษครูประจำชั้น
ซึ่งครูประจำชั้นก็ได้ประครองพร้อมกับร้องไห้ที่เด็กสำนึกผิดก่อนว่ากล่าวตักเตือน โดยหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองก็รู้สึกไม่สบายใจจึงเดินทางไปที่บ้านเด็กเพื่อพบผู้ปกครองและกล่าวขอโทษต่อหน้าผู้ปกครองแล้วแต่ทางผู้ปกครองยืนยันว่าจะดำเนินคดีแต่ในส่วนของตนก็จะเดินทางไปที่สภ.เมืองชัยภูมิในวันนี้พร้อมยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างอีกต่อไปด้วย
ด้าน ผอ.โรงเรียน ยอมว่าตนยอมว่า ได้บิดพุง บิดหู และ ทุบหลังจริง แต่ยืนยันว่าที่ทำลงไปเพราะได้บอกเด็กนักเรียนแล้ว แต่นักเรียนได้หัวเราะเยาะ ก่อนที่ตนจะเสียความรู้สึกก่อนจึงกระทำการดังกล่าว อีกทั้งในวันนั้นตอนช่วงเย็นตนก็ได้เดินทางไปที่บ้านของทางนักเรียนเพื่อกล่าวคำขอโทษต่อหน้าผู้ปกครองแล้ว แต่ทางผู้ปกครองยืนยันว่าจะดำเนินคดี
ต่อมา พ.ต.อ.สมิต นันท์ฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เชิญผู้ปกครองของนักเรียนชายชั้น ป.5 และ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยทาง ผอ. ก็ยอมรับผิดทุกกรณีและพร้อมเยียวยาทั้งตัวนักเรียนและผู้ปกครองในทุกส่วนและจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว เพื่อจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้นอีกต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คลัสเตอร์โรงเรียนดังโคราช ติดเชื้อแล้ว 30 ราย สั่งกักตัวครู-นักเรียน 317 รายในหอพัก
- มาแล้วนักเรียนจ๋า ชุดโกโกวาที่หนูอยากได้ คุณครูสุดปัง สวมชุดดังเข้าสอนนักเรียน
- เกินไปไหม!? ครูสาวทำโทษนักเรียนหญิงไม่ใส่ซับใน โดยให้นักเรียนชายจ้องอก
Advertisement