แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 เริ่มคลี่คลายลง แต่โควิดยังคงมีอยู่ หน้ากากอนามัยยังเป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยสูงสุด จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ยังคงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน ดำเนินการถ่ายทำรายการด้วยความระมัดระวังสูงสุด
ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในการประชุมทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ฉบับปรับปรุง แก่ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ และสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 ว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 เริ่มคลี่คลายลง และข้อปฏิบัติหลาย ๆ อย่างจะเริ่มผ่อนคลาย แต่โควิดยังคงมีอยู่ หน้ากากอนามัยยังเป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยสูงสุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ยังคงเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน ดำเนินการถ่ายทำรายการด้วยความระมัดระวังสูงสุด
ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง กล่าวว่า ที่ผ่านมาการประชุมทำความเข้าใจแนวปฏิบัติในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. ได้นำข้อเสนอในที่ประชุมไปแก้ไขปรับปรุงแนวปฏิบัติและเสนอต่อ กสทช. ก่อนเสนอศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยได้ข้อสรุป และกำหนดเป็นแนวปฏิบัติในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และวีดิทัศน์ ฉบับปรับปรุง (ฉบับที่ 1)
นางสาวมณีรัตน์ กำจรกิจการ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับปรุงแนวปฏิบัติในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โดยมีประเด็นสำคัญ คือ ทุกคนในกองถ่ายต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ต้องตรวจ ATK ก่อนเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดการปฏิบัติหน้าที่เพื่อลดความเสี่ยง เว้นแต่พิธีกร นักแสดง และผู้ร่วมรายการที่จำเป็นต้องออกหน้าจอ สามารถถอดหน้ากากอนามัยระหว่างการถ่ายทำรายการได้ แต่ยังคงต้องยึดหลักของการรักษาระยะห่าง และใช้มาตรการอื่นๆ ประกอบ เช่น การมีฉากกั้น จำกัดจำนวน และระบุบุคคลให้ชัดเจน และบันทึกประวัติการทำกิจกรรม นอกจากนี้ ยังต้องมีความเคร่งครัดเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มผู้เปราะบาง กลุ่ม 608 หรือเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบ
ทั้งนี้ในการประชุมผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ได้มีข้อซักถามเกี่ยวกับพิธีกร นักแสดงที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งถูกกำหนดให้สวมหน้ากากอนามัยระหว่างปฏิบัติงาน แต่มีความจำเป็นต้องแสดงสีหน้าท่าทางออกหน้าจอ โดยกรณีดังกล่าวมีคำแนะนำว่า สามารถถอดหน้ากากอนามัยระหว่างการถ่ายทำรายการได้หากเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่จะต้องมีความระมัดระวังสูงสุด โดยใช้มาตรการอื่นๆ ประกอบ มีการลงนามรับทราบความเสี่ยง และจะต้องมีการขึ้นข้อความเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกันว่า พร้อมใจที่จะดำเนินการตามมาตรการในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ฉบับนี้
นางสาวมณีรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงาน กสทช. พยายามผ่อนคลายมาตรการในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์อย่างรอบคอบ และไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม ซึ่งมาตรการในการถ่ายทำรายการโทรทัศน์อาจมีความเข้มงวดกว่าหลักปฏิบัติทั่วไปของประชาชน แต่เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดภายในกองถ่าย และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชนในฐานะสื่อมวลชน จึงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการปฏิบัติตามอย่างมีวินัย อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการสาธารณสุขเพิ่มเติม ก็จะเชิญสื่อมวลชนเข้ามาหารือเพื่อกำหนดมาตรการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกันในการเริ่มปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน.
Advertisement