ได้เข้าเรียนแล้ว! ผอ.-คุณครูลงขันช่วยเหลือหนูน้อย 10 ขวบได้เรียนหนังสือ ไม่มีบ้าน ต้องอาศัยนอนกุฏิวัด พี่ชายบวชเณรเรียนให้ 5 ชีวิตมีข้าวกิน
ฝันเป็นจริง! ปลื้มใจ น้องสมิง เด็กวัย 10 ขวบ ได้เรียนสมใจหวัง หลังจากต้องหยุดเรียนไป 2 ปี เนื่องจากพ่อแม่ฐานะยากจน เก็บของเก่าขาย อาศัยกุฏิพระหลับนอน พี่ชายวัย 13 ปี จบ ป.4 ต้องบวชสามเณรเพื่อให้มีข้าวกิน สุดท้ายเรื่องถึงหู ‘ครูแว่นดำ’ รีบเข้าช่วย ลงขันซื้อชุดนักเรียน และพาเข้าเรียน ส่วน ‘น้องสมิง’ ดีใจ ฝันโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ
วันที่ 19 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟสบุ๊ก ‘ครูแว่นดำ’ ได้โพสต์เรื่องราวและคลิปเด็กอายุ 10 ขวบ ต้องหลุดจากระบบการศึกษา ไม่ได้เรียนหนังสือไปกว่า 2 ปี เนื่องจากฐานะยากจน ไม่มีแม้กระทั่งบ้านอาศัย ต้องอาศัยวัดอยู่ ซึ่งหลังจากทราบเรื่องทางคุณครูรายดังกล่าวและผู้บริหารโรงเรียนได้เข้าไปช่วยเหลือ ก่อนจะพาเด็กคนดังกล่าวไปซื้อชุดนักเรียน และให้โอกาสแก่เด็กได้เข้ามาเรียนหนังสือ หลังจากเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้บรรดาชาวโซเซียล แห่ชื่นชมตัวคุณครูกับการช่วยเหลือดังกล่าว
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ไปที่ โรงเรียนเทศบาลวัดตรังคภูมิพุทธาวาส ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้พบกับ นายชาตรี บุญมี หรือ ‘ครูแว่นดำ’ รอง ผอ.โรงเรียนฯ และนายกาลสิษฐ์ เพชรคง ผอ.โรงเรียนฯ และคณะครู ก่อนที่จะนำผู้สื่อข่าวไปพบกับ ‘น้องสมิง’ หรือ ด.ช. อนิรุท สงวนนามสกุล อายุ 10 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กที่ปรากฏเป็นเรื่องราวอยู่ในโซเซียล ซึ่งกำลังขะมักเขม้นกับการเรียน ในระดับชั้น ป.1 และพบว่า ‘น้องสมิง’ มีความตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก และสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น หลังจากต้องหยุดเรียนไปถึง 2 ปี
โดย ‘น้องสมิง’ ได้อาศัยอยู่ในกุฏิ ภายในวัดตรังคภูมิพุทธาวาส ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนออกไปประมาณ 1 กม. และหลังจากที่ได้เข้ามาเรียนหนังสือ ได้เดินเท้าไปและกลับโรงเรียนในทุกวัน พร้อมทั้งข้ามถนนด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับครอบครัวของ ‘น้องสมิง’ จึงได้พบกับ นายวีรวัฒน์ สงวนนามสกุล อายุ 45 ปี ผู้เป็นพ่อ นางวันดี สงวนนามสกุล อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ สามเณรสมิท อายุ 13 ปี พี่ชาย และ น้องไอซ์ อายุ 2 ปี น้องสาว ซึ่งครอบครัวนี้ทั้งหมด 5 ชีวิต ได้ขออยู่อาศัยในกุฏิภายในวัด ซึ่งมีสภาพที่แคบ และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ มากนัก โดย ‘น้องสมิง’ และพี่ชาย คือสามเณรสมิท ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน 1 ห้อง ส่วนพ่อแม่และน้องสาวได้อาศัยรวมกันอีก 1 ห้อง ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก อาศัยช่วยงานวัด และเก็บของเก่าขาย พร้อมทั้งสามเณรสมิท ได้ออกบิณฑบาตเพื่อนำอาหารที่ได้รับมาแบ่งปันให้กับครอบครัวได้กินกัน
นายชาตรี บุญมี หรือ ‘ครูแว่นดำ’ กล่าวว่า ได้มีแฟนเพจทักมาว่า ได้ไปเจอ ‘น้องสมิง’ อาศัยอยู่ในวัด โดยไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะพ่อแม่ไม่ได้ทำงาน เก็บของเก่าขาย ฐานนะยากจน ไม่มีรายได้จากทางอื่น ไม่มีเงินซื้อสมุดหนังสือ อุปกรณ์การเรียน และเสื้อผ้า และได้หยุดเรียนไป 2 ปี หลังจากทราบเรื่องจึงอยากจะช่วยเหลือ จึงได้ให้แฟนเพจประสานว่าให้นำเด็กมาที่โรงเรียน โดยที่ทางคณะครูจะช่วยเหลือเด็กที่ จนรุ่งเช้ามา ทางแม่ของ ‘น้องสมิง’ ได้นำเด็กมาพบกับครู โดยที่เด็กมีความตั้งใจอยากจะเรียนหนังสือมากอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ทางคณะครู ผอ. ผู้ใหญ่ใจดี ได้สมทบทุนสนับสนุนเงินกันได้ส่วนหนึ่ง โดยที่ได้นำเด็กและแม่ขึ้นรถ นำไปซื้อเสื้อผ้า ชุดนักเรียน ก่อนจะนำมาเข้าเรียนในวันนั้นเลย
นายชาตรี กล่าวอีกว่า ต่อมาจึงสืบเสาะปรากฏว่าพี่ชายของ ‘น้องสมิง’ ก็ไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนกัน จบเพียงระดับชั้น ป.4 ได้บวชเป็นสามเณรอยู่ โดยนำข้าวจากการบิณฑบาตมาเลี้ยงดูครอบครัว นำเงินที่ได้เป็นปัจจัยมาให้น้องชาย คือ ‘น้องสมิง’ มาโรงเรียน ซึ่งก็คุยกับทาง ผอ.ว่าจะต้องนำพี่ชายของเขามาเรียนที่โรงเรียนอีกคน เพราะยังไม่จบระดับชั้น ป.6 เลย โดยทางเราก็ยินดีและจะนำมาเรียนที่โรงเรียนอีกคน เพราะยังไงเขาก็คือเด็ก จะต้องได้รับการศึกษา
ส่วน นางวันดี อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า อยากให้ลูกได้เรียนทันเพื่อน อยากให้มีความรู้ ดีใจมากที่ลูกสมิงได้เรียน และลูกสมิทจะได้ไปเรียนอีกคน รายได้ตอนนี้ก็ไม่แน่นอน บางวันก็ได้ 200 บ้าง 300 บ้าง บางวันก็ไม่ได้ อาศัยข้าวจากวัดกินกัน บางวันก็อดกันบ้าง ก่อนหน้านี้ก็ทำงานรับจ้างจับกุ้ง รับจ้างทั่วไป ซึ่งก็มีงานบ้างบางวัน สามีก็ทำเหมือนกัน โดยได้ออกจากบ้านเช่า เพราะไม่มีเงินจ่ายก็เลยมาอยู่วัด ตอนนี้ก็เป็นห่วงลูกมาก อยากให้ลูกได้เรียนจบสูงๆ อย่างน้อยๆ ก็ ม.3 ซึ่งน้องสมิง อยากไปโรงเรียน ถึงแม้แม่ไม่มีเงินให้เขาไปโรงเรียน เขาก็ยังไป หลังจากนี้ก็จะไม่เกิดลูกอีกแล้ว
ขณะที่ พระประมอน อมโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดตรังคภูมิพุทธาวาส และเลขานุการเจ้าคณะตำบลกันตัง กล่าวว่า แรกๆ ช่วงเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา ก็เห็นครอบครัวนี้มาเดิน มากวาดขยะอยู่ในวัดทุกวัน โดยที่พระก็ให้อาหารกลับไปบ้านทุกวัน ต่อมาช่วงเดือน มี.ค. ทั้ง 5 คนก็ได้มานอนกันบนศาลในวัด และเป็นช่วงมีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ก็ได้ให้ลูกชายคนโตมาบวช จะได้มีที่อยู่ จากนั้นก็ได้ให้ทั้งหมดไปอาศัยอยู่ในกุฏิของวัด ซึ่งว่างอยู่ และดูแล้วว่าเหมาะสม ซึ่งจะให้อยู่ไปได้นานแค่ไหนก็ต้องดูความเหมาะสมกันต่อไป แต่หากดูแล้วมันก็ไม่เหมาะเท่าไร แต่เมื่อเขามาขอพึ่ง พระเราก็ต้องช่วย เพราะถือเป็นภาระของพระในการสงเคราะห์ อนุเคราะห์ จนกว่าเขาจะขยับขยายสถานที่ หางานได้ จะให้ไปอยู่ข้างนอกก็สงสาร ตอนนี้ที่วัดก็ได้ช่วยเหลือให้ที่อยู่อาศัยคนลำบากกว่า 10 คน โดยก็เงินอาหารวัด และก็ช่วยงานวัด
ด้าน ด.ช. อนิรุท สงวนนามสกุล อายุ 10 ขวบ กล่าวว่า ดีใจมากและชอบที่ได้เรียนหนังสือ ตอนนี้ก็พออ่านออกเขียนได้อยู่นิดๆ ชอบวิชาคณิตศาสตร์ โตขึ้นฝันอยากเป็นตำรวจ เพราะจะได้จับโจร ซึ่งเสียใจที่ไม่ได้เรียน อยู่ในวัดก็ช่วยกวาดขยะ ช่วยพ่อแม่เก็บของเก่า วันแรกที่ได้ไปโรงเรียนก็ไม่มีเงินติดกระเป๋าไปโรงเรียน ส่วนข้าวก็จะมาขอพระ และให้แม่ได้กินก่อน ส่วนผมกินทีหลัง.
Advertisement