สาวทิ้งสวนไป 1 ปี กลับมาอีกทีเจอกุ้ง หอย ปู ปลา อยู่เต็มบ่อ จับขายได้เงินเป็นแสน

เจ้าของสวนเกษตรเมืองตรัง ทิ้งสวนไว้ 1 ปี กลับมาอีกทีเพื่อสูบน้ำออกจากสวนแต่ต้องเซอร์ไพรส์หนักมาก เมื่อเจอกุ้งหอยปูปลาตัวใหญ่ไซซ์บิ๊ก สร้างรายได้เกือบ 300,000 บาท

คอนเทนต์แนะนำ

นัดหยุดโลก! “ทาเครุ vs รถถัง” จ่อดวลหมัด ศึก ONE 172 ที่ญี่ปุ่นปีหน้า

สุนิสา คัมแบ็กหลอกเหยื่อแต่งงานทั้งชายและสาวหล่อ สูญเงินนับล้าน

นายกฯ ปัดตอบ ส่ง สจ.จอย ลงสมัคร นายกอบจ.ปราจีนฯ ในนามเพื่อไทย

วันนี้ 10 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนเกษตรบ้านหยงสตาร์ หมู่ที่ 2 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนของ น.ส.ทัศนีย์ สระแก้ว หรือเอียด อายุ 49 ปี กำลังสูบน้ำเค็มออกจากสวนเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ โดยพบว่าภายในสวนที่ตนปล่อยทิ้งร้างมานาน 1 ปีเต็มไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งกุ้งกุลาดำหรือกุ้งลายเสือ กุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งขาว ปูดำ หอยและปลาหลากชนิด ที่ไหลเข้ามาทางประตูน้ำซึ่งอยู่ติดกับป่าโกงกาง เชื่อมต่อกับแม่น้ำปะเหลียน และเจริญเติบโตเองโดยไม่มีการให้อาหารใดๆ ทำให้เจ้าของสวนดีใจเป็นอย่างมาก เพราะจะได้กินสัตว์น้ำที่ปลอดภัย ตัวใหญ่แบบไม่ต้องซื้อหา แถมยังได้ขายสร้างรายได้เกือบ 300,000 บาท ในเวลาแค่ 2 วัน

สำหรับกุ้งลายเสือที่จับได้มีขนาด 10-12 ตัวต่อ 1 กิโล ขายกิโลกรัมละ 800 บาท แพ็กละ 5 ตัว น้ำหนัก 500 กรัม ขาย 400 บาท กุ้งแชบ๊วย กิโลกรัมละ 400 บาท ส่วนปูดำขนาด 2-3 ตัวต่อกิโล ขายกิโลกรัมละ 450 บาท ปลากระบอก กิโลกรัมละ 200 บาท และปลาอื่นๆ จะขายกิโลละ 50-100 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างทยอยกันมาเลือกซื้อถึงสวนอย่างคึกคัก

สวนแห่งนี้ แต่เดิมได้ทำสวนเกษตรแบบผสมผสาน มีการขุดร่องน้ำจำนวนหลายร่องเชื่อมต่อกัน เพื่อให้น้ำจากธรรมชาติไหลเข้าสวน และมีประตูน้ำเปิดปิด ป้องกันน้ำทะเลหนุน โดยให้พี่ชายเป็นคนดูแล ส่วนตนกับสามีทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ และจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละ 2-3 ครั้ง ซึ่งพี่ชายมักจะดักจับสัตว์น้ำในสวนขึ้นมาโชว์ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีสัตว์น้ำเข้ามาอาศัยอยู่อย่างชุกชุม เมื่อคุณเอียดกลับจากกรุงเทพฯ รอบนี้ จึงได้ทำการสูบน้ำในร่องสวนออกทั้งหมด เพื่อเป็นการล้างบ่อและสำรวจปริมาณสัตว์น้ำ ก็พบว่ามีกุ้งหอยปูปลาตัวใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะกุ้งลายเสือและกุ้งแชบ๊วยมีมากกว่า 300 กิโลกรัม ส่วนปูดำมีมากกว่า 400 กิโลกรัม

แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และปลอดภัย 100% นอกจากนี้ ยังมีฝูงเหยี่ยวแดงบินว่อนภายในสวน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเจ้าของสวนได้เป็นอย่างมาก ซึ่งในอนาคตจะเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรดินเค็ม เพื่อให้เยาวชนและประชาชนเข้ามาชมฝูงเหยี่ยว และตกปูตกปลาจากธรรมชาติ นำไปทำเป็นอาหาร ลดรายจ่าย สร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

น.ส.ทัศนีย์ สระแก้ว เจ้าของสวน กล่าวว่า ปล่อยแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ซึ่งเรามีประตูน้ำเขาเลยได้อาหารจากแพลงก์ตอน เราเลยมีกุ้ง มีปลา หอยและสัตว์ต่างๆ จำนวนมากเหมือนอยู่ในทะเลเพราะตรงนี้เป็นน้ำเค็ม คือเป็นสัตว์น้ำที่เข้ามาเองตามธรรมชาติ คิดว่าอุดมสมบูรณ์มาก สัตว์น้ำต่างๆ อยู่กันกระจัดกระจาย มีปลาตีนและหอยแปลกๆ เช่น หอยสันขวาน ซึ่งเป็นหอยที่โตตามธรรมชาติ ซึ่งแหล่งน้ำที่ไหนอุดมสมบูรณ์ก็จะมีหอยพวกนี้อยู่

ในอนาคตอยากเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่ต้องดูจังหวะและโอกาสก่อน เพราะตนอยู่แล้วมีความสุข ได้อยู่กับธรรมชาติ และอยากให้คนอื่นมีความสุขเหมือนตอนเย็นๆ อากาศดีและที่นี่มีฝูงเหยี่ยวมาบินว่อนแถวนี้เยอะมากเลย ซึ่งเป็นธรรมชาติที่หาได้ยาก และตนโชคดีที่มีตรงนี้ จึงอยากให้คนอื่นเข้ามาชม เข้ามาเที่ยว มาสัมผัสบรรยากาศยามเย็นที่เดินรอบๆ สวนก็จะพบปูและกุ้งมาเดินให้เห็น โดยใช้วิธีส่องไฟ ซึ่งเขาก็จะซ่อนจะแอบอยู่แต่เราก็สามารถมองเห็นได้