อ.อ.ป. แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับสุขภาพ ‘ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์’ และแนวทางการรักษา หลังครบกำหนดกักกันโรค 30 วัน
วันนี้ (9 สิงหาคม 2566) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จัดแถลงข่าว “ความคืบหน้าเกี่ยวกับสุขภาพ “ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์” และแนวทางการรักษา" ณ ห้องประชุม 101 (ชั้น 1) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายประสิทธิ์ เกิดโต โฆษกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เปิดเผยว่า หลังจากที่ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ได้ย้ายเข้ามาที่ศูนย์วิจัยและควบคุมเฝ้าระวังโรคสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดลำปาง (ส.คช.) ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2566 เบื้องต้น สัตวแพทย์ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจเบื้องต้นในกระบวนการกักกันและเฝ้าระวังโรค ซึ่งผลจากห้องปฏิบัติการให้ผลลบต่อการตรวจโรคดังนี้
ประกอบกับช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ สามารถกินอาหารและน้ำได้ดี ขับถ่ายปกติ สามารถนอนราบบนพื้นทรายได้เฉลี่ยคืนละ 1 - 3 ชั่วโมง โดยในทุกๆ วัน สัตวแพทย์จะเข้าทำความสะอาดแผลฝีที่สะโพกทั้งสองข้าง ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีขนาดลดลง และหากพ้นกระบวนการกักโรคแล้ว สัตวแพทย์จะเคลื่อนย้ายช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลช้าง โดยการรักษาสัตวแพทย์จะต้องคำนึงถึงลักษณะนิสัยช้าง พฤติกรรม สุขภาพทั่วไป ได้แก่ การกิน การดื่ม การขับถ่าย การนอน และ กิจวัตรประจำวัน ร่วมกับความเจ็บป่วยต่างๆ (เช่น ตา ขาหน้าเหยียดตึง, แผลฝี ฯลฯ) และสุขภาพจิต ความเครียดของช้าง เป็นต้น
โฆษก อ.อ.ป. กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อให้การตรวจวินิจฉัยและรักษาช้างพลายศักดิ์สุรินทร์มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจรักษา ซึ่งปัจจัยสำคัญในการให้ความร่วมมือจะขึ้นอยู่กับการยอมรับในตัวควาญของช้าง โดยช้างพลายศักดิ์สุรินทร์กับควาญช้างต้องใช้เวลาร่วมกันระหว่าง ฝึกให้ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์คุ้นเคยกับ “คำพูดและอากัปกิริยาต่างๆ” ของควาญช้างในเบื้องต้น ส.คช. ได้กำหนดให้ควาญช้างฝึกให้ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์เดินออกจากบริเวณที่เลี้ยงในระยะทางประมาณ 100 เมตรทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง รวมทั้งให้ควาญช้างเข้าไปสัมผัสบริเวณขาช้างในระหว่างช้างยืนอาบน้ำ และสัมผัสเปลือกตาช้างในขณะที่ช้างนอน เพื่อให้ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์คุ้นเคยกับกิริยาดังกล่าวก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนตรวจวินิจฉัยจากสัตวแพทย์
สำหรับแนวทางการรักษา “ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์” สัตวแพทย์จากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ได้ร่วมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนคณะเทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ผู้แทนคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ผู้แทนคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ผู้แทนคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ผู้แทนคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ผู้แทนกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้แทนจากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พบว่า ช้างพลายศักดิ์สุรินทร์มีอาการเจ็บป่วยจากภายนอกและภายในร่างกาย ได้แก่ ตาด้านขวามีอาการคล้ายต้อกระจก, ขาหน้าด้านซ้ายมีอาการเหยียดตึงและผิดรูป และมีการทำงานของไตบกพร่อง ซึ่งมีแนวทางการรักษา ดังนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อช้างพลายศักดิ์สุรินทร์เข้าสู่กระบวนการรักษาของ ส.คช. แล้ว จะได้รับการดูแลสุขภาพทั้งทางกายและสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด โดยสัตวแพทย์จะมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ทั้งจากเลือดและอุจจาระอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพิจารณาคัดเลือกควาญช้างที่เหมาะสมกับช้าง ซึ่งปัจจุบันช้างพลาย ศักดิ์สุรินทร์มีควาญช้างอยู่ 3 คนซึ่งทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
นอกจากมีควาญช้างเป็นเพื่อนคอยดูแลแล้ว ในอนาคตอาจจะพิจารณาหาเพื่อนช้างที่สามารถเข้ากับเจ้าพลายได้ให้อยู่เป็นเพื่อน ให้เจ้าพลายใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด สมกับที่ชาวไทยร่วมใจกันนำพาเจ้าพลายกลับมารักษาตัว และให้ใช้ชีวิตในปันปลายในบ้านเกิดเมืองนอน และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ขอยืนยัน ตั้งปณิธานว่าจะดูแล รักษา เจ้าพลายศักดิ์สุรินทร์ให้ดีที่สุด โฆษก อ.อ.ป. กล่าวทิ้งท้าย
Advertisement