แอร์ไม่เย็น อาจไม่ใช่ แอร์เสีย ! เปิด 4 วิธีเช็กปัญหาแอร์ไม่เย็น พร้อมวิธีดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องปรับอากาศ
เนื่องด้วยสภาพอากาศของประเทศไทยค่อนข้างร้อนอย่างเป็นปกติไม่ว่าจะในช่วงฤดูไหนของปี สิ่งที่หลายบ้านขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ "เครื่องปรับอากาศ" หรือ แอร์ ที่จะช่วยทำให้อากาศภายในบ้านเย็นสบายขึ้น ยิ่งเมื่อเปิดควบคู่ไปกับพัดลมด้วยแล้วนั้น ก็ยิ่งทำให้อากาศเย็นสบายขึ้นในอุณหภูมิที่เหมาะสม และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ด้วย
แต่เมื่อใช้งานไปได้ในระยะเวลาหนึ่ง แอร์เสีย ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว และที่เจอบ่อยที่สุดเลยก็คือ แอร์ไม่เย็น! หลายคนอาจคิดว่าเมื่อเครื่องปรับอากาศที่บ้านมีปัญหา ก็ต้องเรียกช่างเข้ามาซ่อมทันที แต่รู้ไหมว่า บางจุดที่เสี เราสามารถซ่อมได้เองโดยที่ไม่ต้องรอหรือเสียค่าใช้จ่ายเลยสักบาท
ไม่ได้ล้างแอร์
สิ่งสกปรกและฝุ่นที่สะสมแน่น เป็นสิ่งแรกๆ ที่อาจทำให้แอ์ที่บ้านของคุณไม่เย็นได้ เพราะมันอาจไปอุดตันที่ไากรองอากาศของทั้งเครื่องแอร์และคอมเเพรสเซอร์แอร์ ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี
มีสิ่งกีดขวางทางลมของแอร์
ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งใกล้ขอบของผ้าม่านมากเกินไป หรือมีการตั้งตู้ขนาดใหญ่กีดขวางทางลม ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์เย็นช้า หรืออาจไม่เย็นเลยก็ได้ เนื่องจากแอร์ไม่สามารถกระจายความเย็นไปทั่วห้องได้
ติดตั้งแอร์ที่มี BTU ไม่เหมาะสมกับขนาดของห้อง
BTU แอร์ไม่สัมพันธ์กับขนาดห้อง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็นได้ เพราะสำหรับใครที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องแอร์มากนัก ก็จะเข้าใจว่าการใช้แอร์ขนาดเล็กในห้องใหญ่จะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า รวมไปถึงหากเปิดทิ้งไว้ห้องก็จะเย็นไปเอง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นความเข้าใจที่ผิดมากๆ เพราะว่าค่า BTU (British Thermal Unit) ของแอร์จะต้องมีความสัมพันธ์กับขนาดของห้อง
ลืมเติมน้ำยาแอร์หรือเปล่า ?
การที่น้ำแอร์หมดหรือไม่ได้เติมน้ำยาแอร์ตามค่าที่กำหนดไว้ก็อาจส่งผลให้แอร์ไม่เย็นได้ แต่หากเพิ่งเติมน้ำยาแอร์ไป แต่แอร์กลับไม่เย็นให้ลองสังเกตที่ท่อส่งน้ำยาแอร์ว่ามีการอุดตันหรือไม่ หรืออาจจะเกิดจากการรั่วที่แอร์ก็เป็นได้ เพราะสาเหตุเหล่านี้มักเกิดจากการที่เติมน้ำยาแอร์ไปแล้ว แต่น้ำยาแอร์ไม่ไปหล่อเลี้ยงภายในเครื่องแอร์ให้เพียงพอต่อการทำความเย็นตามที่ตั้งค่าเอาไว้
เปิดโหมดทำความเย็นผิด
บางครั้งการที่แอร์ไม่เย็น อาจไม่ได้เกิดจากการเสีย หรือความผิดปกติของระบบ แต่อาจเกิดขึ้นได้เพราะเจ้าของบ้านเผลอเปลี่ยนโหมดทำความเย็นเป็น โหมดพัดลม ตรงนี้ต้องเช็กกันให้ดี
ให้เรื่องของการเรียกช่างแอร์มาที่บ้าน เป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อแอร์ไม่เย็น อย่าพึ่งคิดว่าแอร์เสีย ลองเช็กด้วยวิธีเหล่านี้ก่อน
1 ปรับโหมดแอร์
หยิบรีฌมทแอร์ขึ้นมาแล้วลองเช็กให้ดีก่อนว่า โหมดที่กำลังใช้งานอยุ่ในตอนนี้เป็นโหมดทำความเย็นอยู่หรือเป็นโหมดพัดลม(Fan) ถ้าเป็นโหมดทำความเย็น อุณหภูมิที่ปรับเอาไว้ สูงเกินไปจนทำให้รู้สึกไม่เย็นหรือเปล่า
2. เช็กคอมเพรสเซอร์แอร์
ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นคอมเพรสเซอร์ตัวที่อยู่ในบ้าน (คอยล์เย็น) ทำงานปกติ แต่ตัวที่อยู่นอกบ้าน (คอยล์ร้อน) ไม่ทำงาน อาจจะเนื่องด้วยปัญหาไฟตก เพราะเมื่อไฟตกแล้ว แอร์จะทำงานแต่ไม่ให้ความเย็น ดังนั้นวิธีแก้ง่ายๆ ด้วยการสับเบรกเกอร์แอร์ลง แล้วสับขึ้นไปใหม่ เพียงเท่านั้นความเย็นก็จะกลับมาเหมือนเดิม
3 เช็กฟิลเตอร์แอร์
ฟิลเตอร์แอร์ หรือแผ่นกรองอากาศ จุดนี้เป็นที่สะสมของฝุ่นที่อาจหนามากเกินจนแอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็ฒประสิทธิภาพ และมีวิธีที่สามารถแก้ได้ง่ายๆ นั่นก็คือ การถอดฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาด แล้วนำกลับไปไว้ที่เดิม เพียงเท่านี้แอร์ก็จะสามารถกลับมาเป็นปกติ ทำความเย็นได้แล้ว
4 เช็กท่อน้ำยาแอร์
มาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าแอร์ยังไม่เย็นก็ต้องเช็กว่าเครื่องปรับอากาศชของเรามีน้ำยาแอร์หรือไม่ วิธีการเช็กท่อน้ำยาแอร์ก็เพื่อสังเกตดูว่ามีน้ำแข็งเกาะหรือน้ำหยดอยู่หรือไม่? ถ้าหากว่ามีก็แสดงว่าน้ำยาแอร์ตัวกัน เกิดการรั่วซึม ทำให้น้ำยาแอร์ขาด จึงมีแต่ลมออกมาแทนที่ความเย็นของแอร์ ซึ่งถ้าหากเป็นเคสนี้แล้ว หากเราไม่มีอุปกรณ์สำหรับตรวจเช็กก็จำเป็นที่จะต้องเรียกช่างมาตรวจสอบ
หากไม่อยากให้เกิดปัญหา แอร์เสีย หรือ แอร์ไม่เย็น สิ่งที่เราควรทำมากที่สุดคือ การดูแลรักษาแย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแอร์ในยาวนานมากขึ้น
ทำความสะอาดฟิลเตอร์
หนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหา แอร์ไม่เย็น น้ำแอร์หยด เนื่องจากการสะสมของปริมาณฝุ่นที่มากเกินไป หากอยู่ในช่วงที่มีฝุ่นละอองมากๆ ควรถอดออกมาทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ล้างแอร์
การล้างทำความสะอาดแอร์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในอย่าง คอยล์ร้อนและคอยล์เย็น จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากแอร์ผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 4-6 เดือน ควรเรียกช่างซ่อมแอร์มาล้างอัดฉีด
หมั่นเช็กระดับน้ำยาแอร์
น้ำยาแอร์คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยทำความเย็น โดยเมื่อแอร์ผ่านการใช้งานไปได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว น้ำยาแอร์จะน้อยลงหรือหมดไป จึงควรหมั่นเช็กระดับน้ำยาแอร์ประมาณ 4-6 เดือนต่อครั้ง โดยสามารถให้ช่างซ่อมแอร์ช่วยเช็กให้หลังจากการล้างอัดฉีดแอร์ก็ได้
ข้อมูลจาก : ddproperty , scasset
Advertisement