หมอเดว เผยเหตุการณ์เด็กคลั่งอาจเกิดขึ้นอีก ขอทุกฝ่ายช่วยป้องกัน

หมอเดว เผยเหตุการณ์เด็กคลั่งอาจเกิดขึ้นอีก ส่วนเหตุสลดที่ พารากอน อย่าโทษอย่างใดอย่างหนึ่งอย่าโยนกันไปมาให้ทุกฝ่ายหันกลับมามองตัวเองและช่วยแก้ปัญหา

คอนเทนต์แนะนำ

กรมชลประทานรับมือน้ำท่วมใต้ ระดมเครื่องจักร-เครื่องสูบน้ำจุดเสี่ยง

บิ๊กก้อง เผยคดีดิไอคอนขึ้นอยู่กับดีเอสไอ ลุ้นหมายเรียก ฟิล์ม รัฐภูมิ

“บิ๊กก้อง” ชี้พฤติการณ์ ดาว พี่สาวเมียตั้ม พบรับเงินไปแบ่งกัน

จากกรณีเกิดเหตุสลดในห้างสยามพารากอน เขตปทุมวัน ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวมือปืนรายนี้ได้ที่ บริเวณชั้น 3 พร้อมกับอาวุธปืนขนาด 9 มม.โดยผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนชาย อายุ 14 ปี 

ด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาในเด็ก ผอ.ศูนย์คุณธรรม เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก เคยมีตัวอย่างมาเเล้วหลายเคสที่ผู้ใหญ่ก่อเหตุหรือเเม้เเต่ครั้งหนึ่งที่ผู้ใหญ่ไปยิงเด็กในโรงเรียนอนุบาลที่ภาคอีสานไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุขึ้นอีก

ถ้าถอดบทเรียนจากกรณีพวกนี้คือ

1.อาวุธปืนมาได้ยังไง การครอบครองทุกวันนี้ครอบครองพกพากันง่ายมาก อย่าว่าเเต่เด็ก เเค่ผู้ใหญ่เจอกันบนถนนก็ลงมาทะเลาะกันเเล้ว อารมณ์คนร้อนขึ้น อยากฝากคำถามไปถึงคนที่ดูแลเรื่องนี้ว่าจะจัดการเรื่องอาวุธยังไง เพื่อให้การครอบครองอาวุธมีเหตุเเละผล ที่สำคัญมีความผิดชอบเเละไม่สามารถเข้าถึงอาวุธได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ยิ่งช่องทางออนไลน์ที่มีการสอนทำให้อาวุธรุนเเรงขึ้นก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม

2.แหล่งชุมชนจะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เฝ้าสังเกตคนที่พกอาวุธเข้าไปในที่สาธารณะ ชุมชนสมัยก่อนเข้มเเข็งมากช่วยกันสอดส่องดูแลไม่เหมือนสังคมเมืองในปัจจุบัน ตนเชื่อว่ามีผู้ใหญ่ที่มีจิตอาสาจะทำหน้าที่ดูแลได้ เเต่อาจต้องมีการอบรมการรับฟังปัญหา เเละสอนเด็กในเรื่องของการจัดการอารมณ์

3.ครอบครัว เคสนี้เด็กยังอายุน้อยมาก อยู่ในสภาวะวัยรุ่น สมองในส่วนของอารมณ์มีความไวต่อสิ่งเร้ามาก พ่อเเม่อาจจะต้องเข้าใจวัยรุ่นมากขึ้น อาจจะต้องใส่ใจเเละให้เวลากับบุตรหลาน หลายบ้านสื่อสารกันไม่เข้าใจ พร้อมจะบวกกันไม่ใช่ในเชิงบวก การสื่อสารจริงๆ ผู้ใหญ่ต้องเปิดใจรับฟังเด็ก พูดให้น้อยลง ใช้คำถามปลายเปิด ลีลาการฟัง เหน็บเเนมประชดประชัน ไม่ควรใช้กับเด็ก

4.ระบบการศึกษา พ่อเเม่อาจคาดหวังเรื่องเกรด ต้องลดลง ต้องมีเวลาศึกษาวิชาชีวิตด้วย ทุกวันนี้ระบบการศึกษาไทยเป็นแบบเเพ้คัดออก เครียดทั้งคนชนะเเละคนที่เเพ้ มีเเรงกดดันเยอะ ขัอสอบยากขึ้น อยากให้ผู้ใหญ่ทุกวันนี้ ลองย้อนกลับไปเรียนแบบเด็กปัจจุบัน อาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ เด็กถูกไล่บี้มาตั้งเเต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย จนถึงวัยทำงาน ถามว่าเด็กจะไม่ป่วยซึมเศร้าได้หรือ เด็กไม่มีพื้นที่เเสดงออกระบายอารมณ์ ก็หันหน้าเข้าคอม หรือเล่นเกม

5.ปัจจุบันนี้เกมมีการจัดลำดับเรท เเต่เด็กอายุต่ำกว่าเรทก็ยังสามารถเข้าถึงได้โดยที่ผู้ขายไม่มีความผิด เกมไม่ผิด เเต่ผู้ปกครองก็ต้องดูแลลูกด้วยไม่ให้เป็นโรคเสพติดเกมสอนให้เขาใช้ชีวิตลดการเเข่งขัน

เด็กทุกวันนี้มีความกดดันมาก ตั้งเเต่เล็กจนโต ครอบครัวเปราะบาง สังคมอ่อนเเอ ภาพของความคลุ้มคลั่งแบบนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นได้อีก วันนี้จะโทษความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ อย่าโยนกันไปมา ต้องดูทั้งภาพรวม ภาครัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมายกลับไปดูเรื่องอาวุธ ที่สาธารณะ ดูแลเรื่องความปลอดภัย พ่อเเม่หันกลับมาดูแลลูก ระบบการศึกษา หันกลับมาดูเรื่องเกรด ข้อสอบ จะยากไปเพื่ออะไร หันมามุ่งเน้นการใช้วิชาชีวิต คนดูแลเกมหันกลับมาดูเรื่องเรท เกมที่มีความรุนเเรง การเข้าถึงได้ง่ายเกินไป ทั้งหมดนี้ต้องช่วยกันเเก้ไข.