ทนายเกิดผล แก้วเกิด เผย 3 ข้อ ประเด็นสำคัญ "ลุงพล" นายไชย์พล วิภา มีลุ้นในศาลชั้นอุทธรณ์ หรือไม่ก็อ่วมซ้ำข้อหาเจตนาฆ่า
วันที่ 20 ธ.ค.66 ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง เผยว่า คดีลุงพล ยังมีลุ้นในชั้นอุทธรณ์
1. ในคดีที่พนักงานอัยการฟ้องข้อหาร้ายแรง คือ เจตนาฆ่า ศาลชั้นต้นก็ไม่ได้ลงโทษในข้อหาดังกล่าว แต่ลงโทษข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาม
แสดงว่า โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ที่เป็นประจักษ์พยานมานำสืบให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าน้องชมพู่
2. ศาลรับฟังพยานหลักฐาน ที่เป็นโทษแก่จำเลย ยิ่งกว่าส่วนที่เป็นคุณ โดยอาศัยพยานหลักฐาน ทางนิติวืทยาศาสตร์เพียงบางส่วน เช่น เส้นผมผู้ตายที่ถูกตัดแล้วปรากฎในรถของจำเลย และ พิรุธ จากถ้อยคำการกล่าว อ้าง เรื่องฐานที่อยู่ ที่เลื่อนลอย และ ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ที่เป็นโทษต่อจำเลยเอง
3. และ…. คดีนี้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร ตรวจสำนวนและทำความเห็นแย้งว่าพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองมีข้อสงสัยตามสมควร ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยที่ 1 เห็นควรพิพากษายกฟ้อง
แสดงว่า ยังมีผู้พิพากษาระดับหัวหน้าศาล และอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 เห็นแย้งในปัญหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน แตกต่างจากองค์คณะศาลชั้นต้น ว่า คดีนี้ควรยกฟ้อง
ดังนั้น ลุงพลยังพอมีลุ้นต่อในศาลอุทธรณ์
ส่วนอัยการ ผมเชื่อว่า น่าจะอุทธรณ์ในประเด็นเจตนาฆ่า เพราะว่า
การทอดทิ้งเด็กไว้ลำพัง โดยไม่มีอาหารและน้ำ ปราศจากผู้ดูแล #ย่อมเล็งเห็นได้ว่าเด็กอาจเสียชีวิตเพราะขาดอาหาร หรือ สัตว์ทำร้าย จนถึงแก่ความตายได้
ต้องติดตามในชั้นอุทธรณ์ต่อไป
Advertisement