ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับกองปราบ หลังถูกเพจชื่อดัง อ้างว่าเป็นคนของกระทรวงใหญ่ รีดเงิน 3 แสนบาท โดยทางเพจเอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน มาข่มขู่ว่าจะเปิดโปง
เจ้าของคลินิกเสริมความงาม ร้องกองปราบ ถูกเพจข่าวดัง ข่มขู่ ขอยืมเงิน 3 แสนบาท -เพจเป็นหนึ่งมีหลักฐานคลิปเสียงอ้างนำเงินส่งผู้ใหญ่ในกระทรวง
วันนี้ (8 ม.ค.66) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ จากมูลนิธิเป็นหนึ่ง พาผู้เสียหาย เจ้าของสถานบริการเสริมความงามแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ภูมิระพี สังข์ทอง ผกก.กลุ่มงานเวรอำนวยการ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อร้องให้ตรวจสอบกรณีถูกเพจชื่อดัง มีพฤติการณ์ข่มขู่เรียกเงิน
ผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองเปิดสถานบริการเสริมความงามใน จ.นครราชสีมา โดยเปิดเมื่อ 3 ปีก่อน และถูกร้องเรียน ก็ถูกดำเนินคดี และเสียค่าปรับ คดีจบไปหมดแล้ว และเพิ่งจะกลับมาเปิดคลินิกอีกครั้ง ได้ไม่นาน เพจชื่อดังดังกล่าว ก็ทักมา ในทำนองว่า รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น กับทางคลินิก จากนั้น ได้ทักมายืมเงิน 3 แสนบาท โดยอ้างว่า มีปัญหาต้องการใช้เงิน และทักมาในลักษณะ จี้ทวงแบบถี่ ๆ จนตนเอง ตกใจ ทั้งที่ไม่รู้จักกัน และมองว่า อาจจะถูกข่มขู่คุกคาม หรือไม่ และทราบข้อมูลมาว่าอดีตพนักงานที่เคยทำงานกับทางคลินิก น่าจะ เอาข้อมูลต่าง ๆของทางคลินิก ไปบอกกับทางเพจดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งตนเองจะตรวจสอบหากเป็นจริงจะดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด
ทางด้านต้นอ้อ ระบุว่า เพจดังกล่าว เปิดมาเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการศัลยกรรม แต่กลับมีพฤติการ ในลักษณะที่รีดเงินจากสถานเสริมความงาม หลังจากที่เพจเป็นหนึ่งได้ เปิด เผยข้อมูลเกี่ยวกับเพจดังกล่าวที่กระทำการในลักษณะนี้ได้มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งติดต่อเข้ามาว่าถูกกระทำในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน หนึ่งในนั้นเป็นอดีตผู้สมัครมิสแกรนด์ในจังหวัดภาคอีสานแห่งหนึ่งที่เคยถูกเพจข่าวจะทำการในลักษณะเดียวกันเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2566 และพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทางสื่อมวลชน
นอกจากนี้ ตนเองยังมีคลิปเสียงสนทนา ระหว่างผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามในจังหวัดนครราชสีมา กับทางเพจข่าวนี้ โดยทางเจ้าของเพจอ้างว่า จะต้องนำเงินส่งผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ ตนเองจึงอยากฝากถึง ผู้บริหารของกระทรวง ที่มีหน้าที่กำกับดูแล สถานเสริมความงามทั่วประเทศว่า ได้มอบอำนาจให้เพจข่าวนี้มาดำเนินการในลักษณะนี้จริงหรือไม่
ทางด้าน นายสิรวิทย์ ช่วงเสน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายมูลนิธิเป็นหนึ่ง ระบุว่าพฤติการณ์ของเพจข่าวที่ทักแชทเข้ามาพูดคุยกับเจ้าของสถานเสริมความงาม นั้น ความผิดยังไม่สำเร็จ แต่จะมาขอให้ตำรวจตรวจสอบว่าลักษณะพฤติการณ์เข้าข่ายข้อหารีบรับหรือไม่
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ภูมิระพี สังข์ทอง ผกก.กลุ่มงานเวรอำนวยการ บก.ป. รับเรื่องไว้ เพื่อสอบสวนในเบื้องต้นก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
Advertisement