ชาวบ้านกุมขมับ สวนยางกว่า 80 ไร่ กลายเป็นทะเลสารเคมี

ชาวบ้านกุมขมับ สวนยางกว่า 80 ไร่ กลายเป็นทะเลสารเคมี หลังโรงงานเก็บกากสารเคมีไฟไหม้ แถมผ่านมา 3 วันเพลิงยังไม่สงบ 

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

วันที่ 25 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีโรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรมของ บ.วินโพรเสส ตั้งอยู่พื้นที่ ม.4ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เกิดเหตุเพลิงไหม้ ควันไฟดำทะมึนพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า โดยมองเห็นแต่ไกล ก่อนจะลามไหม้โกดังเก็บสารเคมีที่เหลือ พร้อมเกิดเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่อง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หน่วยกู้ภัย จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นที่และภาคเอกชน ระดมเข้าดับไฟ ชาวบ้าน 2 ตำบล ต้องอพยพออกจากบ้านที่อยู่อาศัย  ผ่านมา 3 วันแล้วเพลิงไหม้ยังไม่มีทีท่าจะดับ 

ทั้งนี้จากภาพถ่าย ภายในโรงงานที่เก็บสารเคมี พบว่า ก่อนเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น มีโกดังเก็บสารเคมี 5 หลัง แต่ละหลังพบมีการเก็บสารเคมี ทั้งวัสดุพลาสติกเหลือใช้ กระดาษ น้ำมันปนเปื้อน สารโซเวนปนเปื้อน สารกัดกร่อน น้ำมันเครื่องใช้แล้วบรรจุอยู่ในถัง 200 ลิตร นับหมื่นๆ ถัง วางซ้อนกันเต็มทุกโกดัง รวมทั้งบริเวณนอกโรงงาน ยังพบมีการนำมาวางไว้เกลื่อนกลาดทั่วบริเวณด้านนอกโกดัง

มีคราบน้ำมันล้นถังไหลนองพื้น พบผงฝุ่นเหล็กสีดำจำนวนมากกองสูงท่วมหัวภายในโกดัง น้ำมันปนเปื้อนถูกบรรจุในถังสีขาวทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่บรรจุอยู่ในกรงเหล็ก วางเกลื่อนทั่วโรงงาน และบริเวณทางเข้าโรงงานติดกับบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงาน ซึ่งมีคราบสีแดงสนิมทั่วบ่อ จึงไม่แปลกที่ตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา จะถูกชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียน เพราะมีการบริหารจัดการไม่ดี ทำให้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน และสิ่งแวดล้อมต่อเนื่องมาตลอด 

นอกจากสภาพภายในโรงงานก่อนจะถูกไฟไหม้ ยังมีผลกระทบที่สุดแสนจะเลวร้าย เกิดขึ้นในที่ดินของชาวบ้านหนองพะวา สวนยางเกือบร้อยไร่ที่เคยเก็บเกี่ยวได้ผลผลิต วันนี้ยืนต้นตายทั้งหมด ทิ้งไว้ให้เห็นเป็นสภาพของทะเลสารเคมี ผืนดินทั้งผืนกลายเป็นสีเหลืองปนสนิม บางแห่งที่มีน้ำก็กลายเป็นน้ำสีดำขุ่นเขียว ส่งกลิ่นเหม็นแสบจมูก ความเดือดร้อนของชาวหนองพะวาที่เป็นเหมือนมหากาพย์ยาวนานเกิน10ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยต้องทิ้งบ้านเรือน เหมือนเช่นเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ 

นายเพียบ สมานมิตร อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 4 หนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย  หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูสวนยางของตัวเอง เนื้อที่กว่า 80 ไร่ ที่อยู่ติดกับรั้วกำแพงของโรงงาน วันนี้กลายเป็นทะเลสารเคมี ต้นยางและต้นไม้อื่นๆ เหลือแค่ตอที่แห้งเหี่ยวเฉา และพื้นดินที่เป็นสีเหลืองไหม้สภาพแห้งแล้งบางส่วนที่เป็นเส้นทางน้ำยังหลงเหลือคราบน้ำสีเหลืองสลับ ดำและตะกอน ทั้งสังกะสีและตะกั่ว บางจุดพื้นดินทรายที่ถูกสะสมด้วยตะกอนสารเคมีกลายสภาพเป็นเสมือนหินที่เกิดจากการทับถมของตะกอนสารเคมี มองเห็นสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่น่าสะเทือนใจ  

นายเพียบ กล่าวว่า สวนยางที่เคยกรีดยางได้ก็มายืนต้นตายทั้งหมด แม้ว่าเราจะฟ้องชนะ แค่ค่าเสียหายก็ไม่มีทีท่าว่าจะได้ เพราะเจ้าของโรงงานบอกล้มละลาย 

นอกจากนี้ นายฝันเด่น จรรยาธนากร หรือ เล็ก ฝันเด่น พร้อมทีมดับเพลิงใจถึงใจประมาณ 10 คน เดินทางมาช่วยดับเพลิงไหม้ โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรมของ บ.วินโพรเสส โดยได้สับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ฉีดน้ำเร่งดับเพลิงบริเวณโกดังที่ 5 จุดที่ติดกับสวนยางพาราของชาวบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่มีเศษวัสดุ กระดาษ และถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรกองรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยยังพบมีไฟลุกไหม้เป็นจุดๆ และมีควันไฟปกคลุมอยู่ 

เล็ก ฝันเด่น เปิดเผยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 แล้วที่ได้เดินทางมาช่วยดับไฟ ดูข่าวพบว่าไฟยังไม่ดับ พบมีไฟปะทุโผล่เป็นจุดๆ จึงได้ร่วมกับทีมดับเพลิงทีมงานเดินทางมาตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันที่ 24 เม.ย. พอมาถึงก็เข้ามาช่วยสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ดับไฟทันที รู้สึกสงสารชาวบ้านในพื้นอย่างมาก หลังต้องมาได้รับผลกระทบในครั้งนี้ รวมทั้งเหตุเพลิงไหม้ยังไม่จบสักที 

ส่วนสถานการณ์ไฟไหม้โกดังที่ 3 ซึ่งเป็นจุดยังไม่ดับ เนื่องจากเป็นอะลูมิเดียมดรอสใช้น้ำดับไม่ได้ ขณะนี้ไฟยังคงปะทุอยู่ โดยนายทศพล บวรโมทย์ นายอำเภอบ้านค่าย ได้ปรับแผน โดยใช้ทีมของ บ.NPC ที่มีความเชี่ยวชาญในดับเพลิงเข้ามาช่วยดับ ซึ่งจะใช้สาร F-500 ซึ่งเป็น encapsulator ฉีดดับไฟ ซึ่งสารดังกล่าวจะไปหุ้มสารเชื้อเพลิง และลดความร้อนได้ดีกว่าน้ำหลายเท่า