งามไส้ ตำรวจบุกหาเมียฝรั่งขอกินเหล้าจนเมา แทะโลมเรื่องชู้สาว

งามไส้ ตำรวจบุกหาเมียฝรั่งขอกินเหล้าจนเมา ถามเรื่องบนเตียงเรื่องแทะโลมเรื่องชู้สาว สุดท้ายถูกไล่ไปจอดหลับหน้าโรงพัก

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวจรีภรณ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเขาแก้วพัฒนา ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ว่า ร.ต.อ.ประทีป รอง สวป. สภ.นาด้วง ใส่เครื่องแบบและเข้าเวรอยู่ บุกมาที่บ้านขอเหล้ากินจนเมา และแทะโลมเรื่องชู้สาว ไม่ให้เกียรติความเป็นผู้หญิง ต้องออกมาร้องเรียนสื่อช่วย

นางสาวจรีภรณ์ วรรณชู เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.36 น. วันที่ 23 พ.ค.67 ร.ต.อ.ประทีป สิทธิจักร โทรหาบอกว่ามีเรื่องจะให้ช่วย จึงเข้าใจว่าจะให้ช่วยเรื่องการสนับสนุนของโรงพัก จากนั้นขับรถกระบะมาจอดที่ประตูหน้าบ้าน โทรบอกให้ออกมาคุยกันใช้เวลาไม่นาน จึงได้เดินออกไปหาที่หน้าประตู เมื่อเจอ คำแรกที่ตำรวจบอกว่ามีเหล้าให้กินไหม ไม่เอาเบียร์นะ เพราะดื่มเบียร์ไม่ได้ จากนั้นก็เปิดประตูให้เข้ามาในบ้าน บอกกับตนเองว่าอย่าทำให้ผิดหวังนะ จากนั้นตนเองไปที่ครัวไปหยิบเหล้ามาวางที่โต๊ะหน้าบ้าน ก็เห็นตำรวจยังนั่งอยู่ในรถ เมื่อเห็นตนเองจึงลงจากรถมานั่งคุยที่โต๊ะ

ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ ตำรวจไม่ได้คุยเรื่องปัญหาที่จะเข้ามาหา แล้วถามว่าพ่อใหญ่ (สามีของตนเอง) เข้ายาหรือ ก็สงสัยเข้ายาคืออะไร เพราะสามีป่วยอยู่ แล้วจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาว่าเรื่องบนเตียงสำคัญมากนะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ เรื่องบนเตียง

ทำให้ตนเองไม่พอใจ แล้วพูดต่อไปว่าเพื่อนตำรวจอีก 2 คนเป็นบัวแล้งน้ำ แล้วมาถามตนเองว่าเป็นบัวแล้งน้ำหรือเปล่า แล้วถามพ่อใหญ่ยังมีแรงเอาได้ไหม แล้วพ่อใหญ่ของใหญ่ไหม ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่ควรถาม เป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิง

จากนั้นจึงไล่ตำรวจให้กลับบ้าน ก่อนกลับยังมาดื่มเหล้าที่โต๊ะจนมีอาการเมา แล้วขับรถออกไป จนมาทราบภายหลังว่า หลังออกจากบ้านตนเอง ไปเมานอนหลับอยู่ในรถที่หน้า สภ.นาด้วง

ซึงตอนนี้กำลังปรึกษาทนายความ และจะเข้าแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ล่าสุดฝั่ง ร.ต.อ.ประทีป รอง สวป.สภ.นาด้วง เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อ 2 วันก่อนไปซื้อปลายข้าวให้ลูกหมู เดิมทีพื้นที่ตำบลนาดอกคำเป็นเขตรับผิดชอบของตน มีพวกขี้ยาที่ตนเคยรับผิดชอบดูแลอยู่ และบ้านของนางสาวจีรภรณ์ ก็มีตู้แดง ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีรั้ว วันเกิดเหตุเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะน้องชายของนางสาวจีรภรณ์ที่อยู่อำเภอนาด้วง แล้วถูกขโมยขึ้นบ้านโทรมาหาบอกให้เข้าไปดูที่บ้านให้หน่อย

ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าไปขอเงิน 1,000 บาท กับขอเหล้าดื่มนั้น ปกตินางสาวจีรภรณ์ ก็มักจะให้เงินเป็นสินน้ำใจอยู่แล้ว ไม่ได้ไปบังคับขู่เข็น ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เอา และมักจะบอกเสมอว่าน้ำชากาแฟถ้าหมดก็บอกนะ ดูแลตำรวจดี ส่วนเรื่องที่ถามว่ามีเหล้าให้กินไหมนั้น ก็ยอมรับว่าได้พูดจริง แต่เป็นการพูดหยอกล้อเท่านั้น เพราะก็รู้จักกันมาตั้งแต่มาปลูกบ้านอยู่ใหม่ๆ ซึ่งตู้แดงหน้าบ้านตนก็เป็นคนประสานให้ เพื่อตำรวจจะได้ไปดูแลบ้านให้ตอนไม่มีคนอยู่บ้าน เพราะแถวนั้นขี้ยาเยอะ

สำหรับประเด็นที่ถามเรื่องแฟนเข้ายาไหมนั้น เป็นการไต่ถามด้วยความเป็นห่วงเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด.