จับไอ้อาร์ม ขี้ยาทำร้าย ลุงขับแท็กซี่ ชิงรถหลบหนี พบประวัติโชกโชน คอตกเข้าซังเต ไร้คนเยี่ยม ตำรวจเตรียมคุมตัวสอบเพิ่มช่วงบ่ายนี้
บรรยากาศเมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายโอภาส แก้วปัญญา อายุ 75 ปี ลุงคนขับรถแท็กซี่ เดินทางมายัง สภ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตามไปจับกุมตัวนายอามได้ขณะหลบหนี นอนพักอยู่ใต้สะพานข้ามคลอง แถวถนนอิสรภาพ ขณะกำลังพักอยู่กับแฟนสาว
ตำรวจควบคุมตัวนายอาม กลับมายัง สภ.เมืองสุมทรปราการ เพื่อสอบปากคำเบื้องต้นก่อนจะส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยคุณลุงถึงกับก้มกราบขอบคุณ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ที่ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายจนได้รถคืน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
ลุงโอภาส เล่าว่า ผู้โดยสารเรียกรถลุงมาจากแยกวงเวียนใหญ่ บอกว่าจะไปสมุทรปราการ เลยถามว่าไปทางไหนดี เขาบอกว่าไปทางด่วนก็ได้ก็เลยมาขึ้นทางด่วนยมราช ซึ่งลุงก็ออกค่าทางด่วนมาก่อนแล้วมาลงที่ช้างสามเศียร แต่เขาให้ชิดขวาเข้าคู่ขนานแล้วเข้าซอยในวัดบางด้วนนอก พอถึงซอยในวัดตอนนั้นมีคนยืนอยู่ที่ข้างโบสถ์ 3 คน เขาก็เลยบอกลุงให้ถอยออกมาให้กลับทางเก่า พอเลี้ยวรถกลับไปทางเก่าประมาณ 100 เมตร แล้วทีนี้ก็ให้กลับรถอีก แล้วบอกให้ลุงจอด แล้วก็ต่อยที่หน้าลุง ก่อนเปิดประตูถีบลงตกรถ แล้วกระทืบลุงซ้ำอีก มันก็ขึ้นรถขับหนีไป ลุงก็วิ่งตาม พอตรงทางแยกบ้านคน เขาก็ถามว่าเป็นอะไรมีอะไรเหรอ ลุงก็บอกว่าเขาเอาแท็กซี่ไปแล้ว ดีใจมากที่ตำรวจได้ตัวคนร้ายแล้ว และมั่นใจแน่นอนว่าเป็นคนนี้ ตำรวจทำงานไวมากๆ แค่วันเดียวก็ได้แล้วลุงดีใจมาก ลุงกล่าวพร้อมยกมือไหว้
ด้านนายวิสิชัย เดชมาก หรือ อาร์ม อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาให้การว่า ที่ทำลงไปนั้น เพราะว่าลุงมาด่าบุพการีก่อน จึงโมโหชกเข้าที่ใบหน้าของคุณลุง และยังให้การอ้างอีกว่าลุงเปิดประตูรถลงเอง ไม่ได้ถีบ แต่ยอมรับว่าพอลุงลงจากรถไปแล้วยังเปิดประตูตามไปกระทืบซ้ำอีก
โดยผู้ต้องหารายนี้ บอกว่า คืนวันเกิดเหตุตนเรียกรถแท็กซี่จากแยกวงเวียนใหญ่เพื่อให้มาส่งบ้านย่านสมุทรปราการ ระหว่างทางผู้ต้องหารายนี้อ้างว่าชวนลุงดูพระแต่คุณลุงไม่ดู และต่อว่าจนลามไปถึงบุพการี ส่วนที่ไปอยู่ใต้สะพานแถวถนนอิสรภาพนั้น เพราะไปรู้จักคนเก็บของเก่าแถวนั้น ชักชวนกันไปมั่วสุมอยู่ใต้สะพาน เพิ่งไปอยู่ได้ไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้ตนเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวช หลังก่อเหตุจึงขับรถหนีออกมา เพราะกลัวก่อนจะเอารถไปจอดทิ้งไว้แล้วกลับบ้าน พอเช้ามืดจึงนั่งเรือข้ามฝากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ แล้วนั่งรถเมล์ไปลงที่แยกวงเวียนใหญ่ จากนั้นเดินเท้าต่อไปที่ใต้สะพานภายใน ซอยอิสรภาพ 24 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กทม. กระทั่งถูกตำรวจตามไปจับกุม
นายอาร์ม บอกอีกว่า ตนไม่รู้ว่าลุงอายุเท่าไหร่ เพราะมันมืด ไม่รู้ว่าแก่หรือไม่แก่ ส่วนที่เข้าไปในวัด ลุงพาเข้าไปและมีปากเสียงกันในรถ เพราะลุงด่าถึงบุพการีพ่อแม่ สาเหตุที่ด่าก็เพราะเรื่องพระ ตนบอกให้เขาดูพระให้ตนหน่อย แล้วเขาก็พูดทำนองว่ากูไม่ดูหรอก กูจะขับรถ มึงมาให้กูดูอะไร มันไม่ใช่เรื่องของกู ตนเลยรู้สึกว่าเขาพูดแรง เขาก็ยังบ่นต่อแล้วมาบ่นถึงพ่อแม่ตนก็เลยรู้สึกแย่ อยากฝากขอโทษลุงในสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้ตั้งใจในสิ่งที่ทำตนก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน
ส่วน พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ต้องชื่นชมฝ่ายสืบสวนที่ไม่ละความพยายาม ไล่กล้องวงจรปิดจนไปพบรถแท็กซี่ที่จอดทิ้งไว้ จากนั้นไล่กล้องต่อจนพบชายต้องสงสัยที่จนทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือนายอาร์ม พอไปตรวจสอบประวัติ จนทราบบ้านพัก ตำรวจจึงติดตามไปที่บ้านพัก แต่ไม่พบตัวกระทั่งไล่เลียงเส้นทาง จนทราบว่าไปลงเรือและขึ้นรถเมล์ ไม่ลงแยกวงเวียนใหญ่สืบตามต่อ จนกระทั่งไปพบแหล่งกบดานจนเจอตัวสำหรับคดีนี้
ทั้งนี้ทางลุงยืนยันว่าไม่มีการด่าทอ ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าไปรักษาจิตเวชมาเราก็ต้องทำการตรวจสอบต่อไป แต่เบื้องต้นการกระทำนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจก็จะดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ ส่วนเรื่องยาเสพติดต้องนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติดก่อน เบื้องต้นพบประวัติของผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษคดีอาญามาทั้งหมดประมาณ 10 ครั้ง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดและทรัพย์สินอาวุธปืน โดยจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 571/2567 ลงวันที่ 27 มิ.ย. 67
ล่าสุดที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จาการสอบถามสิบเวรระบุว่าตั้งแต่นายอาร์มถูกควบคุมตัวมา ยังไม่มีใครมาติดต่อเยี่ยมแต่อย่างใด โดยพนักงานสอบสวนจะเอาตัวมาสอบปากคำอีกครั้งช่วงบ่าย ก่อนจจะส่งฝากขังศาลจังหวัดสมุทรปราการในวันพรุ่งนี้
Advertisement