เจ้าแม่เงินกู้ดอกลอยโหด ตามลูกหนี้ไม่เจอ บุกตบแม่ของลูกหนี้ที่พิการขายข้าวอยู่หน้าโรงพัก ขู่ซ้ำจะไปดักทำร้ายลูกของลูกหนี้ที่โรงเรียนอีก
นางสาวบี นามสมมติ ลูกหนี้ เล่าให้ฟังว่า ตนเคยไปกู้เงินกับเจ้าแม่เงินกู้รายนี้ ที่ชื่อนางสาวหมวยมาครั้งหนึ่งมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ใช้หนี้จนหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 ตนได้กู้เงินกับนางสาวหมวยใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยกู้เงินมา 2,000บาท ต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 60 บาท จนกว่าจะจ่ายต้นคืนทั้งหมด จากนั้นกู็เพิ่มมาอีก 4,000 บาท ส่งวัน 454 บาท 15 วัน พอตนส่งได้ระยะหนึ่งแล้วไม่มีเงินส่งดอกเบื้ย
นางสาวหมวยจึงให้กู้เงินเพิ่มอีก 5,000 บาท เพื่อนำมาส่งดอกที่ติดไว้ จนทำให้ณปัจจุบันมีหนี้สินทั้งหมด 14,900 บาท ตนจึงส่งไม่ไหว เพราะตนตกงาน และกำลังหางานใหม่ ตนจึงได้ขอให้นางสาวหมวยพักหนี้ให้ก่อน แต่นางสาวหมวยไม่ยอม
บังคับให้หาเงินมาให้ 5,000 บาทตอนนี้ ตนไม่มีเงินให้จึงไม่กล้ารับสายโทรศัพท์นางสาวหมวย หลังจากนางสาวหมวยติดต่อตนไม่ได้ วันที่ 3 มิถุนายน 2567 พวกเก็บเงินกู้ได้นำสีมาปาบ้าน จากนั้นวันที่ 26 มิถุนายน 2567 พวกเงินกู้ได้นำสีมาปาที่บ้านอีกครั้ง ต่อมาวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นางสาวหมวยจึงเดินทางไปร้านขายข้าวของแม่ตนเองที่เคหะร่มเกล้า แล้วทำร้ายแม่ตามในคลิปวงจรปิดเลย ระหว่างที่พวกแก๊งเงินกู้มาทำร้ายแม่ หนึ่งในแก๊งเงินกู้ชื่อนางสาวนุช ได้โทรศัพท์มาหาตนเอง บอกว่าได้ทำร้ายแม่ตนอยู่ บอกให้ตนหาเงินมาจ่ายให้หมด ไม่งั้นจะตามไปทำร้ายลูกที่หน้าโรงเรียนอีก
ทางด้าน แม่ของลูกหนี้ เล่าว่า ตนเป็นลูกจ้างร้านขายข้าว ขายอยู่บริเวณริมถนนเคหะร่มเกล้า เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณบ่ายโมง ขณะที่ตนกำลังนั่งขายข้าวอยู่นั้นได้มีผู้หญิง2คนสาวสอง 1 คน ผู้ชายอีก 1 คน เข้ามาบอกตนว่า “มึงรู้ไหมว่าลูกมึงกู้เงินไปแล้วไม่จ่าย” แล้วก็ตบหน้าตนหลายครั้ง จนฟุบลงกับโต๊ะ ตนได้แต่ถามว่าทำร้ายตนทำไม ตนเกี่ยวอะไรด้วย พวกเงินกู้ตอบกลับมาว่า“ก็มึงเป็นแม่มันไง” ตอนนั้นตนกลัวมาก ทำอะไรไม่ถูก เพราะโดนตบจนมึนไปหมด ก่อนพวกเจ้าแม่เงินกู้จะไป ได้ท้าให้ไปแจ้งความได้เลย บอกว่ารู้จักตำรวจทั้งโรงพัก ไม่กลัว
ต่อมา นายเอกภพและทีมงาน ได้พาผู้เสียหายไปตามความคืบหน้าคดีที่สน.ร่มเกล้า เนื่องจากผู้เสียหายได้แจ้งความไว้หลายครั้งแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า ซ้ำยังถูกผู้ก่อเหตุตามมาข่มขู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า คดีนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน ส่วนที่ทำร้ายร่างกายโทษแค่ปรับ ส่วนอีกคดีเป็นคดีเงินกู้ ต้องสอบสวนลูกสาวก่อนว่ามีหลักฐานเอาผิดกับพวกเงินกู้ไหม
นายเอกภพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ ก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ที่เกิดเหตุอยู่หน้าสน.ร่มเกล้าแท้ๆ ยังกล้าก่อเหตุแบบนี้อีก หลังจากที่ตนดูเอกสารใบแจ้งความ พบว่าเป็นแค่ใบบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่ใบแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจยังไม่ไปตรวจร่างกายให้กับผู้เสียหายเลย ตนได้ประสานไปยังพล.ต.ท.อชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ให้ช่วยเร่งให้พนักงานสอบสวนทำคดี เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.
Advertisement