จากกรณี นายอัครพณธ์ ภามจำนง อายุ 50 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส.จังหวัดสงขลา เมาคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภายในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จนเป็นเหตุให้นายสิทธิพงศ์ ศิริพันธ์ หรือ ช่างสิทธิ อายุ 48 ปี และนางอรชร เอียดดำ อายุ 47 ปี ภรรยานายสิทธิพงศ์ เสียชีวิต และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ ช่างสิทธิ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่บริเวณถนนผดุงภักดี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งบ้านดังกล่าวได้เปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ และได้พบญาติผู้เสียชีวิต พร้อมกับน้องแชมป์ อายุ 12 ปี ลูกชายของช่างสิทธิ์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืนนี้กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน
ทั้งนี้น้องแชมป์ อายุ 12 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุครอบครัวได้เดินทางกลับมาจากงานศพที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เวลาช่วงบ่าย และกลับมานอนพัก เพื่อรอพาตนไปเลี้ยงงานวันเกิด พอถึงช่วงค่ำพ่อก็ได้ปลุกตน และน้องสาวไปเลี้ยงงานวันเกิด ที่ร้านข้าวต้ม ตอนนั้นรอบแรกเห็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านที่คนก่อเหตุพกปืนมา รอบแรกพ่อก็เลยหันไปเห็นว่า เขาพกปืนอยู่ที่เอว จากนั้นเขาก็ออกไปแล้วก็กลับมารอบ 2 ก่อนที่จะสั่งเบียร์ แต่เจ้าของร้านบอกไม่ขายแล้ว เพราะคนก่อเหตุมีอาการเมาสุรามาก
จากนั้นพ่อกับแม่หันไปมอง แล้วพ่อก็ถามว่าใช่คนที่เอาปืนมาเมื่อกี้ไหม แม่ก็ตอบว่าใช่ จากนั้นคนก่อเหตุหันมาบอกพ่อกับแม่ว่า “คุณไม่ต้องหันมาดูหรอกครับ คุณกินข้าวกับครอบครัวคุณไปเลย” พ่อก็ตอบกลับไปว่า “ครับๆ แล้วจังหวะเดียวกันฝนก็ตกลงมาพอดี ก็เลยย้ายโต๊ะไปข้างใน จากนั้นเจ้าของร้าน เด็กเสิร์ฟก็ออกมาเคลียร์ และทางเจ้าของร้านถามกลับไปว่าคุณพกปืนมาหรือไม่ คนก่อเหตุไม่ยอมรับ แต่เด็กเสิร์ฟยืนยันว่าเห็น ส่วนแม่ก็เสนอเป็นพยานอีกคนว่าแม่ก็เห็นเหมือนกัน แล้วเขาก็ด่าว่า “ไม่ต้องมายุ่ง คุณกินข้าวกับครอบครัวคุณไปเลย” แล้วแม่ก็เถียงกับคนก่อเหตุ จากนั้นเขาก็ขอโทษตามโต๊ะ แล้วมาที่โต๊ะก็พูดขึ้นว่า “พี่สาวนี้พูดหรอยจังนะ” แม่ก็พูดสวนไปว่า “ใช่ค่ะ เป็นคนหรอย” จากนั้นคนก่อเหตุก็ไปเอาปืนมายิงเลย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,พยายามฆ่าผู้อื่น,ยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และของกลางอีก 12 รายการ
ต่อมา พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมคณะได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และเตรียมนำตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ปรากฎว่ามีประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตต่างมารอดูหน้า นายอัครพณธ์ ภามจำนง อายุ 50 ปี อส.คนก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนแผนไม่นำตัวผู้ก่อเหตุมายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะแถลงข่าวปิดคดี
ด้านนายสุรยุทธิ อุดทา หรือ ฟอร์ด อายุ 24 ปี ลูกชายเจ้าของร้านข้าวต้ม เปิดเผยอาการล่าสุดของแม่ตนเองว่า ขณะนี้แม่อยู่ระหว่างผ่าตัดเอากระสุนออก ซึ่งที่ผ่านมาได้ผ่าตัดเอากระสุนออกที่หน้าท้อง และตอนนี้เหลือแค่ผ่าตัดที่ขมับซ้ายบริเวณหางคิ้ว เนื่องจากกระโหลกเบ้าตาแตก ซึ่งอาการยังน่าเป็นห่วงอยู่ขนาดนี้
อย่างไรก็ตามล่าสุดดญาติๆ ของนายสิทธิพงศ์ และนางอรชร ได้เดินทางมารับศพ 2 ผัวเมียเหยื่ออส.คลั่งโหดกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา โดยมีรถตู้ขนส่งศพนายสมชาย วงค์ช่วย หรือ แน้ม อายุ 34 ปี หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนาม แน้มปลากรอบมาช่วยรับส่งศพ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
Advertisement