ทนายตั้ม เปิดโปงขยายผลจับ ลูกนักการเมืองพัวพัน เว็บพนันออนไลน์ เปิดบริษัทชำระเงินออนไลน์ มีระดับนักการเมืองและนายตำรวจ พัวพัน
จากกรณี ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. นำหมายจับศาลอาญา บุกเข้าควบคุมตัว นายนโรตม์ (สงวนนามสกุล) นักธุรกิจทายาทนักการเมืองใหญ่ ที่บ้านพักย่าน ในพื้นที่เขตพระโขนง กทม.
ขณะกำลังจะออกไปปฎิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี หลังตำรวจมีหลักฐานว่าเข้าไปพัวพันเว็บการพนันออนไลน์
พล.ต.ต.อธิปพงษ์ ศิวาภัย ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับเบาะแสว่ามีการลักลอบเปิดเว็บพนัน จึงสืบสวนล่อซื้อจนทราบถึงเส้นทางการเงินในบัญชีเว็บพนัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดจำนวน 14 คน โดยในจำนวนนี้มี 2 บุคคลสำคัญคือ นายนโรตม์ หรือ ฮู อายุ 33 ปี เป็นเจ้าของระบบชำระเงินออนไลน์ และนายนรายุทธ หรือ สนุ๊ก อายุ 39 ปี เจ้าของเว็บพนัน
โดยทั้งคู่ถูกจับที่บ้านพัก ในพื้นที่ กทม. เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ ทั้งรถยนต์หรูจำนวน 4 คัน คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด และทรัพย์สินอื่น ๆ จำนวนทั้งหมด 118 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดในคดีนี้กว่า 400 ล้านบาท เบื้องต้นจากการสอบคำให้การ นายนรายุทธให้การรับสารภาพ แต่นายนโรตม์ให้การปฏิเสธ
สำหรับพฤติกรรมทางคดี ตำรวจพบว่า นายนโรตม์ เป็นเจ้าของบริษัทประกอบธุรกิจบริการชำระเงิน โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท พบมีความเชื่อมโยงบัญชีการเงินของเว็บการพนันหมุนเวียนเข้าระบบเป็นจำนวนกว่า 5,000 ล้านบาท
จากการล่อซื้อของตำรวจพบว่าเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีของเว็บการพนัน ได้มีการแลกเปลี่ยนเงินเข้าบัญชีของบริษัทนายนายนโรตม์ ผ่านเครือข่าย Ask me pay
เป็นระบบการชำระเงินออนไลน์ สามารถทำธุรกรรมการเงินได้เป็นจำนวนมาก โดยไม่ต้องสแกนใบหน้า
โดยสแกนคิวอาร์โค้ด ที่ขึ้นตรงกับบัญชีของบริษัทเอกชนที่ผูกกับระบบวอลเลท นั้น ๆ ซึ่งจะทำให้การตรวจจับเส้นทางการเงินและการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดยากขึ้น ถือเป็นช่องโหว่ให้ผู้กระทำความผิดกฎหมายนำมาใช้ ทั้ง ๆ ที่ระบบดังกล่าวมีไว้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการค้าออนไลน์หรือ e-commerce
จากหลักฐานนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ยื่นให้กับตำรวจ ปอท. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏการทำธุรกรรมทางเงินของบัญชีนายนโรตม์ พบมีเงินเข้าออกเป็นจำนวนกว่า 100 ล้านบาทในช่วงเดือนมี.ค. และเม.ย. ที่ผ่านมา ดังนี้
- 23 มี.ค. 67 เงินเข้าบัญชี 27 ล้านบาท
- 24 มี.ค. 67 เงินเข้าบัญชี 23 ล้านบาท
- 25 มี.ค. 67 เงินเข้าบัญชี 27ล้านบาท และพบวิจารณ์โอนเงินออกไปยังบัญชีอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
- 7 เม.ย. 67 มีเงินเข้าบัญชี 32 ล้านบาท และ 26 ล้านบาท
- 24 เม.ย. 67 มีเงินเข้าบัญชี 32 ล้านบาท
รวมถึงหลักฐานรูปถ่ายนายนโรตม์ถ่ายคู่กับรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ ในลักษณะเป็นเจ้าของจึงมีเหตุอันควรให้สงสัยว่าเงินเหล่านี้อาจจะถูกเชื่อมโยงกับบัญชีเว็บการพนันออนไลน์หรือไม่
จึงทำหนังสือ ไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และหน่วยงานอื่นๆ ให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว ยกเว้นกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ตัวเอง ไม่ได้นำข้อมูลนี้ไปให้เนื่องจากทราบมาว่ามีการรับผลประโยชน์จากเว็บการพนันเครือข่ายดังกล่าวด้วย
ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องชพบว่าบริษัทยังได้รับแลกเปลี่ยนเงิน จากบัญชีมาของเว็บการพนันอื่นๆ โดยมีนักการเมืองระดับ ส.ก.และนายตำรวจ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดย ส.ก.คนดังกล่าวมี มีระดับนักการเมืองใหญ่ซึ่งเป็นถึงรัฐมนตรีอยู่เบื้องหลัง และทราบอีกว่าบริษัทได้ค่าธรรมเนียมในการโอนเงินผ่านระบบการชำระเงินบริษัทของตัวเอง มีเงินเข้าบัญชีไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาท ขณะนี้ได้มอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว
ส่วนจุดเริ่มต้นในเรื่องการตรวจสอบและเว็บพนันนี้ นายษิทรา เปิดเผยถึงที่มาเกิดจากกรณีนายชูวิทย์ ได้พาดพิงถึงตัวเองว่าเข้าไปในส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บการพนัน จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบจนพบพยานหลักฐานต่างๆ และส่งมอบให้กับหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบ จนนำไปสู่การจับกุม
Advertisement